เป็นอีกครั้งที่พรรคแดโมแครตส่งผู้หญิงลงชิงตำแหน่งประธานาธิบดี หลังจากเมื่อปี 2016 เคยส่งฮิลลารี คลินตันลงเลือกตั้ง แต่เธอก็แพ้ให้กับโดนัลด์ ทรัมป์ มาครั้งนี้ กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน มาพร้อมกับนโยบายต่างๆที่น่าสนใจ และเธออาจจะเปลี่ยนโลกไปเลยหากชนะเลือกตั้ง เพราะเธอจะกลายเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของสหรัฐฯ
สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และลดค่าใช้จ่ายในครอบครัว
แฮร์ริสชูประเด็นที่เธอเกิดมาในครอบครัวชั้นกลาง และเป็นลูกสาวของแม่ที่ทำงานหนัก ดังนั้นนโยบายครั้งนี้ เธอจึงมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคนชั้นกลาง ลดค่าใช้จ่ายและสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจสำหรับชาวอเมริกัน โดยเธอให้คำมั่นว่าถ้าหากได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี เธอจะต่อสู้เพื่อตัดลดภาษีให้แก่ชาวอเมริกันชนชั้นกลางและคนทำงานกว่า 100 ล้านคน อีกทั้งจะลดค่าใช้จ่ายด้านสาธารณสุข ราคาบ้านและข้าวของต่างๆ รวมถึงจัดการให้บริษัทอเมริกันมีตำแหน่งงานที่มีรายได้ดีให้แก่ประชาชน ทำให้เศรษฐกิจขยายตัว และรับรองว่าสหรัฐฯจะยังคงเป็นผู้นำโลกต่อไป
ตัดลดภาษีเพื่อครอบครัวชั้นกลาง
สำหรับแผนการตัดลดภาษีเพื่อช่วยเหลือชนชั้นกลางและแรงงาน จะใช้โครงการ Child Tax Creditหรือเครดิตภาษีสำหรับคนมีลูก และ Earned Income Tax Credit หรือเงินช่วยเหลือจากภาครัฐเพื่อช่วยแรงงานที่มีรายได้น้อย โดยโครงการเครดิตภาษีสำหรับคนมีลูกจะให้สิทธิพิเศษในการลดภาษีถึง 6,000 ดอลลาร์สหรัฐฯสำหรับครอบครัวที่มีเด็กแรกเกิด
ทำให้การเช่าบ้านสามารถจ่ายไหวและการเป็นเจ้าของบ้านทำได้ง่ายขึ้น
ราคาอสังหาริมทรัพย์แพงในสหรัฐฯกลายเป็นปัญหาที่ชาวอเมริกันต้องเจอ และนโยบายด้านนี้ของแฮร์ริส คือ ผลักดันแผนการสร้างบ้านและห้องเช่าให้ได้ 3 สามล้านยูนิต ซึ่งประชาชนจะพอสามารถจ่ายได้ เพื่อแก้ปัญหาวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะตัดลดกฎบางอย่าง เพื่อทำให้การสร้างบ้านเกิดขึ้นได้เร็วขึ้น และจะลงนามในกฎหมายที่ว่าด้วยเรื่องของการกำหนดราคาบ้านเช่ากับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ ส่วนคนที่ซื้อบ้านหลังแรก เธอประกาศให้คำมั่นจะสนับสนุนเงินดาวน์สูงสุด 25,000 ดอลลาร์
ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กเติบโตและลงทุนกับผู้ประกอบการ
แฮร์ริสบอกว่า เธอจะสนับสนุนธุรกิจขนาดเล็กและลงทุนกับผู้ประกอบการถ้าหากได้เป็นประธานาธิบดี เพราะทั้งสองอย่างเป็นสิ่งที่เธอทำระหว่างดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกและรองประธานาธิบดี โดยเธอตั้งเป้าจะให้มีการยื่นจดทะเบียนธุรกิจใหม่ 25 ล้านครั้งภายในระยะเวลาที่เธอดำรงตำแหน่งผู้นำ ซึ่งจะมากกว่าสมัยที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีถึง 10 ล้านครั้ง นอกจากนี้ เธอจะขยายเรื่องการลดภาษีค่าใช้จ่ายสตาร์อัพ สำหรับธุรกิจใหม่ และจะลดอุปสรรครวมถึงข้อจำกัดต่างๆที่ทำให้การเติบโตของธุรกิจขนาดเล็กเป็นเรื่องยาก
ลดราคาพลังงานและแก้ปัญหาวิกฤตสภาพอากาศ
แฮร์ริสชี้ว่าเธอเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันกฎหมายลดเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นการลงทุนด้านการรับมือกับสภาพอากาศที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตอนนี้ กฎหมายดังกล่าวกำลังช่วยลดราคาพลังงานในครัวเรือน และสร้างตำแหน่งงานหลายหมื่นหลายแสนตำแหน่ง รวมถึงสร้างเศรษฐกิจพลังงานสะอาด