โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ กลับมาลงชิงชัยสนามเลือกตั้งอีกครั้ง ด้วยการเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และในระหว่างการหาเสียง เขาเปิดตัวนโยบายในด้านต่างๆ และนี่คือนโยบายที่น่าสนใจ
Rebuild the Greatest Economy in History
สร้างเศรษฐกิจอันยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ขึ้นมาอีกครั้ง
ทรัมป์อ้างว่า เมื่อตอนเขาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ความยากจนได้ลดลงต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ และฟื้นฟูเศรษฐกิจให้รุ่งเรืองขึ้น ส่วนนโยบายสี่ปีหลังจากนี้ถ้าหากเขาได้รับเลือกตั้ง เขาจะกลับมาฟื้นฟูเศรษฐกิจของสหรัฐฯอีกครั้งด้วยการลดภาษี ขึ้นเงินเดือน และเพิ่มงานให้แก่แรงงานชาวอเมริกัน
Fair Trade for the American Worker
การค้าที่เป็นธรรมเพื่อแรงงานชาวอเมริกัน
สมัยที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาก็ใช้นโยบายที่ค่อนข้างกีดกันทางการค้า โดยทรัมป์บอกว่า เขาจะสร้างการค้าที่เป็นธรรมและต่างตอบแทนซึ่งกันและกัน ที่จะช่วยคืนงาน ความมั่งคั่งและการผลิตคืนสู่อเมริกา โดยทรัมป์สัญญาว่าจะใช้นโยบายที่ทำให้สหรัฐฯไม่ต้องพึ่งพาจีนอีกต่อไปอีก 4 ปี ทั้งสินค้าด้านความมั่นคงและทางการแพทย์ที่จำเป็น รวมถึงแบนการที่จีนเข้ามาเป็นเจ้าของโครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ
เราจะได้เห็นสหรัฐฯกลับมาใช้นโยบายปกป้องทางการค้าอีกครั้ง ซึ่งนั่นจะช่วยกระตุ้นการผลิตในสหรัฐฯ และเขาเสนอที่จะขึ้นกำแพงภาษี 10 เปอร์เซ็นต์กับสินค้านำเข้าทั้งหมด และ 60 เปอร์เซ็นต์ต่อสินค้าที่นำเข้าจากจีน The Allianz จัดทำรายงานสองสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้ โดยอย่างแรก สหรัฐฯจะขึ้นกำแพงภาษีต่อสินค้านำเข้าทั้งหมดจาก 2.5 เปอร์เซ็นต์เป็น 4.3เปอร์เซ็นต์ และสินค้าจากจีนจะเจอภาษีไปถึงราว 12 เปอร์เซ็นต์
Secure Borders and Reclaim National Sovereignty
รักษาความมั่นคงพรมแดนและกลับมาครอบครองอธิปไตยแห่งชาติอีกครั้ง
สมัยที่ทรัมป์นั่งเก้าอี้เป็นประธานาธิบดี เขาอ้างว่า ได้สร้างชายแดนที่มีความมั่นคงที่สุดในประวัติศาสตร์ จัดการปัญหาการค้ามนุษย์ การส่งแก๊งต่างด้าวที่ผิดกฎหมายกลับ และยังสร้างกำแพงความยาว 450 ไมล์หรือประมาณ 725 กิโลเมตร โดยทรัมป์ให้คำมั่นว่า ทรัมป์จะชัทดาวน์วิกฤตชายแดนรัฐบาลไบเดน-แฮร์ริส และจะกลับมาคืนความมั่นคงให้แก่ประเทศอีกครั้ง โดยจะส่งกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ หรือ National Guard และหน่วยบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่น เพื่อให้ความช่วยเหลือในการจัดการแก๊งต่างด้าวผิดกฎหมายและอาชญากรรม
ปัญหาเศรษฐกิจยังเป็นประเด็นหลัก
ทรัมป์กล่าวระหว่างลงพื้นที่หาเสียงที่เมืองซาวานนาห์ รัฐจอร์เจียเมื่อวานนี้ (24 กันยายน) ให้คำมั่นว่า เขาจะสร้างยุคเรเนสซองซ์ หรือยุครุ่งเรืองของภาคการผลิตขึ้นมาอีกครั้ง และเขาจะลงโทษบริษัทสัญชาติอเมริกันที่ไปตั้งฐานการผลิตนอกประเทศ รวมถึงจะตั้งกำแพงภาษีที่สูงมากต่อสินค้าที่ผลิตในต่างประเทศ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เขาเสนอจัดตั้งเขตพิเศษที่มีภาษีต่ำมากและไม่มีข้อจำกัดที่วุ่นวาย เพื่อให้บริษัทต่างๆย้ายฐานการผลิตกลับมายังสหรัฐฯ และภายใต้แผนการของเขา แรงงานชาวอเมริกันจะไม่ต้องกลัวว่าจะถูกแย่งงานจากชาวต่างชาติ กลับกัน ต่างชาติจะต้องกังวลว่าจะเสียงานให้กับอเมริกาแทน
ขณะเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญบางส่วนเชื่อว่า หากทรัมป์ได้รับเลือกตั้งอีกสมัย อาจจะส่งผลกระทบต่อปัญหาเงินเฟ้อในสหรัฐฯ เพราะการที่ทรัมป์ตั้งกำแพงภาษีให้สูงขึ้นอาจจะทำให้ปัญหาเงินเฟ้อกลับมารุนแรงอีก และทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟด ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกครั้ง
นอกเหนือไปกว่านั้น การที่เขาให้คำมั่นว่า จะตัดลดภาษีและเพิ่มการใช้จ่ายงบประมาณ อาจจะไปส่งผลกระทบต่องบประมาณในคลังได้
และท้ายที่สุด ผู้เชี่ยวชาญมองว่า ทรัมป์ต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบ ในเรื่องเพิ่มการผลิตภายในประเทศ และลดการผลิตในต่างประเทศ