ข่าวเศรษฐกิจ

ทัวร์จีนจ่อคัมแบ็คไทยปีนี้แตะ 4 ล้านคน เปิดเส้นทางไทย-จีนเพิ่มขึ้น

1 ก.ค. 65
ทัวร์จีนจ่อคัมแบ็คไทยปีนี้แตะ 4 ล้านคน เปิดเส้นทางไทย-จีนเพิ่มขึ้น
ไฮไลท์ Highlight
  • รมว.ท่องเที่ยวฯ คาดนักท่องเที่ยวจีนเข้ากลับเที่ยวไทยปีนี้แตะ 4 ล้านคน หลังจีนผ่อนคลายคุมโควิด
  • AOT 45 ล้านคน ฟื้นตัว 33% เชื่อปี 2567 ฟื้นตัวเต็มแตะ  142 ล้านคน เท่ากับช่วงก่อนโควิดระบาด

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า หลังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศจีน ได้อนุญาตเปิดให้สายการบินสัญชาติไทยบินระหว่างประเทศไทยและจีนได้ 2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดย บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI ได้เปิดเส้นทางบินตรงไทย - จีนทันที โดยรัฐบาลจีนอนุญาตให้ทำการบินได้เฉพาะจีนตอนใต้ อาทิ กว่างตง, เซินเจิ้น, กว่างโจว, หูหนาน แล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวจีน

 

สำหรับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดหวังจะเริ่มเห็นนักท่องเที่ยวจีนทยอยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทย ในช่วง “วันชาติจีน” หรือ GOLDEN WEEK วันที่ 1 ตุลาคม 2565 นี้ โดยอาจเริ่มจากนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัว, และนักท่องเที่ยวกลุ่มเดินทางด้วยตัวเอง ที่เดินทางผ่านด่านทางบกเข้ามาทางเชียงราย, เชียงใหม่ ฯลฯ มากกว่าการเดินทางทางอากาศ เนื่องจากจีนตอนใต้มีพรมแดนธรรมชาติติดไทยมากกว่าจีนตอนบน คาดว่า นักท่องเที่ยวจีนทั้งปี 2565 จะมีจำนวน 3-4 ล้านคน

 

ทั้งนี้สำนักงานการท่องเที่ยวไทยในจีน ได้ร่วมกับเอเจนต์ และบริษัททัวร์ในจีน ออกแบบแพ็กเกจทัวร์ที่อาจพิจารณาบรรจุการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี RT-PCR ก่อนกลับจีน เพื่อสร้างความมั่นใจว่าการเดินทางมาเที่ยวไทยจะไม่มีการนำเชื้อเข้าไปแพร่กระจายในประเทศจีน และเตรียมรองรับนักท่องเที่ยวจีนที่จะสามารถเดินทางท่องเที่ยวได้มากขึ้นในปี 2566

 

อย่างไรก็ดีเบื้องต้นกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ททท. ยังคงเป้าไว้ที่ 10 ล้านคนในปี 2565 แต่ได้พิจารณาจัดกิจกรรมและร่วมกับภาคเอกชนจัดโปรแกรม โดยล่าสุดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวต่อวันอยู่ที่ 6.1 หมื่นบาท สูงกว่าช่วงปี 2562 ที่ใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวต่อวันที่ประมาณ 4.8 หมื่นบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลจากเงินบาทที่อ่อนค่าลง ทำให้อำนาจในการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น

 


AOT คาดปีนี้ยอดผู้โดยสารฟื้นแตะ 45 ล้านคน-ปี 2567 พุ่งแตะ 142 ล้านคน

AOT คาดปีนี้ยอดผู้โดยสารฟื้นแตะ 45 ล้านคน

 

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOT กล่าวว่า ปีงบประมาณ 2565(31 มี.ค. 2565-30 ก.ย.2566) ของ AOT คาดว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการสนามบิน 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.) ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานหาดใหญ่ รวมอยู่ที่จำนวน 45 ล้านคน ฟื้นตัว 33%

 

ขณะที่ปีงบประมาณ 2566 (31 มี.ค. 2566-30 ก.ย.2567) คาดว่าจะมีผู้โดยสารรวมจำนวน 96 ล้านคน ฟื้นตัว 68% และคาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ในปีงบประมาณ 2567 (31 มี.ค. 2567-30 ก.ย.2568) ที่จำนวน 142 ล้านคน

 

ทั้งนี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association : IATA) องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) และ S&P Global ได้คาดการณ์ไว้

 

ดังนั้น จึงถือได้ว่าในปี 2566 กำลังจะมาถึงนี้เป็นปีที่อยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่ AOT ต้องเฝ้าระวังปัจจัยต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อการเดินทางของผู้โดยสาร เช่น นโยบายการเปิดประเทศของจีน โอกาสการกลับมาระบาดของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ หรือโรคระบาดอื่นๆ เป็นต้น โดยนโยบายการเปิดประเทศจีนถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด

 

หากมีการเปิดประเทศในเดือนตุลาคม 2565 AOT จะได้ประโยชน์จากช่วงวันหยุดยาวประจำชาติจีน (Golden Week) หรือหากเปิดประเทศในเดือนมกราคม 2566 ก็จะเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่หากพ้นจากช่วงนี้ไปแล้ว AOT ก็จะเสียโอกาสช่วงดังกล่าวไป ดังนั้น จึงถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่จะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่าย เพื่อให้ธุรกิจดำเนินไปได้ด้วยกัน


สำหรับช่วงก่อนเกิดโควิด-19 AOT สามารถรองรับผู้โดยสารได้กว่า 141.87 ล้านคน ดังนั้น ไม่ว่าปริมาณผู้โดยสารจะฟื้นตัวกลับมาในปีไหน AOT ก็ยังคงพร้อมให้บริการอยู่เสมอ เนื่องจากที่ผ่านมา เราไม่เคยลดคุณภาพการให้บริการ ไม่เคยลดจำนวนพนักงาน อีกทั้งยังคงมีการฝึกอบรมบุคลากร รวมถึงการต่อใบอนุญาตตามมาตรฐานของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

 

นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมความพร้อมของอาคารสถานที่มาโดยตลอด ซึ่งในปีที่ 43 AOT ยังเดินหน้าพัฒนาการให้บริการในทุกด้านให้มีประสิทธิภาพและดียิ่งขึ้น เช่น ทสภ.อยู่ระหว่างทดสอบระบบต่างๆ ของอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (Satellite 1 : SAT-1) เพื่อเตรียมเปิดให้บริการแก่ผู้โดยสาร ซึ่งจะเพิ่มขีดความสามารถของ ทสภ.ในการรองรับปริมาณผู้โดยสารจาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปี และอยู่ระหว่างก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 ซึ่งมีความก้าวหน้า 35.68% คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566 เพื่อรองรับเที่ยวบินได้เพิ่มขึ้นเป็น 94 เที่ยวบินต่อชั่วโมง และรองรับเที่ยวบินในช่วงที่มีการปิดซ่อมทางวิ่งเส้นที่ 1 และเส้นที่ 2

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT