"เป็นโสด" อาจไม่ใช่เรื่องหนักหัวใคร ในยุคสมัยที่สิทธิเสรีภาพเบ่งบาน แต่ถ้าเป็นโสดที่ "จีน" นี่อาจไม่ใช่เรื่องส่วนบุคคลอีกต่อไป แต่เป็นปัญหาใหญ่ที่ถือเป็นเรื่อง "ความมั่นคงของชาติ"
คำว่า "ผู้หญิงที่ไม่มีใครเอา" อาจมีดีกรีโหดกว่ามากเมื่อเทียบกับการใช้คำว่า คนโสด (Singles) ตามปกติทั่วๆ ไป แต่การใช้คำนี้อาจสะท้อนถึงการเป็นสาวโสดในจีนได้ดีกว่า
เพราะจีนจะมีคำที่ใช้เรียกผู้หญิงโสดอายุ 26-27 ปีขึ้นไปที่ยังไม่ได้แต่งงาน โดยเฉพาะว่า Sheng-nu (เชิงหนู) ที่หมายถึง Leftover women หรือแปลได้ว่า ผู้หญิงเหลือทิ้ง/ผู้หญิงที่ขายไม่ออก
คำที่สื่อความหมายตรงตัวชนิดไม่แคร์สิทธิสตรีหน้าไหนก็ตามเช่นนี้ สะท้อนได้ชัดเจนว่าความเป็นสาวโสดในจีนนั้น ถูกกดดันแค่ไหน ไม่ว่าคุณจะเป็นนักการเงินบริษัทใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ หรือเป็นพนักงานบัญชีในเมืองชนบทก็ตาม เพราะนอกจากเรื่องค่านิยมของครอบครัวชาวจีนที่ต้องแต่งงานมีทายาทสืบสกุลแล้ว คุณยังตกอยู่ในห่วงโซ่ของปัญหาความมั่นคงระดับชาติ เรื่อง "อัตราประชากรเกิดใหม่ตกต่ำ" ทันทีอีกด้วย
แรงกดดัน 2 ทางทั้งจากบ้านและรัฐบาล จึงเป็นที่มาของธุรกิจจับคู่และนโยบายของรัฐบาลท้องถิ่นตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพื่อกระตุ้นการแต่งงานของคนรุ่นใหม่ ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่คนรู้จักกันมากที่สุดก็คือ ตลาดนัดหาคู่ในเซี่ยงไฮ้ ที่พ่อ แม่ อากง อาม่า จะไปที่สวนสาธารณะพีเพิลส์ สแควร์ วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เพื่อติดประกาศโพรไฟล์ลูกหลานของตัวเอง และไปสำรวจดูประกาศของคนอื่นที่เหมาะสมให้ลูกหลาน
ล่าสุด SCMP รายงานว่า นโยบายของรัฐบาลท้องถิ่นในเมืองอี้หวง มณฑลเจียงซี ทางตอนกลางของจีน กำลังเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกอินเตอร์เน็ตของจีน เมื่อรัฐบาลกำลังเสนอให้ "ผู้หญิงโสด" แต่งงานกับ "ผู้ชายตกงาน" เพื่อสนับสนุนการแต่งงานและผลิตประชากรเพิ่ม
ปัจจุบัน ด้วยสภาพเศรษฐกิจและการเข้าถึงการศึกษาได้ดีขึ้น ทำให้จีนเต็มไปด้วยผู้หญิงเก่ง มีเวิร์กกิ้งวูแมนมากมาย และอาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าให้พวกเธอเป็นช้างเท้าหน้า เป็นผู้นำครอบครัว รัฐบาลท้องถิ่นในเจียงซีจึงผุดไอเดียจับคู่ระหว่างสาวโสดกับหนุ่มตกงาน โดยมีเงื่อนไขจูงใจ เช่น การฝึกอบรมอาชีพในเชิงอาชีวะหรือผู้ประกอบการให้ฝ่ายชาย การให้สินเชื่อทางธุรกิจ และการพิจารณาจ้างงานเป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ
เมืองอี้หวง ซึ่งมีประชากรทั้งหมดราว 240,000 คน ยังมีการเก็บรวบรวมข้อมูลจากบรรดาสาวโสดในเมือง เพื่อจัดทำฐานข้อมูลสำหรับเป้าหมายเรื่องการหาคู่ อีกด้วย
"ปัจจุบัน มีผู้หญิงทำงานและเจ้าหน้าที่พรรคคคอมมิวนิสต์ในอี้หวง กำลังเป็นโสดกันมากขึ้นและกลายเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแล ช่วยเหลือ และสนับสนุนจากสังคมโดยรวม" ประกาศของรัฐบาลท้องถิ่น ระบุ
ประกาศดังกล่าวส่งผลให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์จีนในเว่ยปั๋ว (Weibo) อีกครั้ง บางส่วนเห็นว่าอัตราการเกิดของประชากรในจีนจะลดลงต่อเนื่องแน่นอน หากไม่มีการให้เกียรติผู้หญิง และปฏิบัติต่อพวกเธอเหมือนเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ขณะที่บางรายตั้งคำถามว่า ทำไมผู้หญิงอายุ 26 จึงถูกหาว่าแก่ และถูกบอกให้แต่งงานกับพวกไร้ค่าที่หางานทำยังไม่ได้
ทั้งนี้ จีนประสบกับภาวะอัตรประชากรเกิดใหม่ "ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์" ในปี 2021 ที่ผ่านมา แม้ว่าจีนจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ในปี 2016 ด้วยการยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวแล้วก็ตาม และเมื่อปีที่แล้วยังเปิดทางให้แต่ละครอบครัวมีลูกถึง 3 คนได้ด้วย
ในปีที่แล้ว อัตราประชากรเกิดใหม่ในจีนอยู่ที่ 10.62 ล้านคน หรือลดลง 11.5% จาก 12 ล้านคนในปี 2020 หรือเท่ากับทุกๆ 1,000 คน จะมีเด็กเกิดใหม่ในอัตราเพียง 7.52 คนเท่านั้น