สวนทางดอกเบี้ยโลกขาขึ้น "จีน" ประกาศลดดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี พร้อมอัดฉีดเงินเข้าระบบกว่า 1 ล้านล้านบาท หวังกระตุ้นเศรษฐกิจเต็มสูบ หลังโควิด-19 ส่อเค้าระบาดรอบใหม่
วันนี้ (17 ม.ค. 2565) ธนาคารกลางจีน (PBOC) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือน เม.ย. 2563 โดยลดดอกเบี้ยเงินกู้ระยะ 1 ปี ลง 0.1% มาอยู่ที่ระดับ 2.85% พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องเข้าระบบอีก 2 แสนล้านหยวน (ราว 1.05 ล้านล้านบาท)
ก่อนหน้านี้ จีนเคยอัดฉีดเงินเพิ่มสภาพคล่องเข้าระบบมาแล้วหลายครั้ง แต่นี่คือครั้งแรกที่จีนประกาศลดดอกเบี้ยอย่างเต็มตัว ซึ่งสวนทางกับที่หลายประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น สหรัฐ กำลังเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยนักวิเคราะห์เชื่อว่าเป็นเพราะจีนกำลังเตรียมตัวกับ 3 ปัจจัยลบสำคัญคือ
- สัญญาณการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เริ่มชะลอตัวลง
- ปัญหาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศ
- ปัญหาการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ ซึ่งจีนใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ หรือ Zero-Covid ทำให้ต้องแบกรับผลกระทบทางเศรษฐกิจมากกว่าประเทศอื่น
ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน เพิ่งรายงานข้อมูลล่าสุดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ปี 2564 ของจีนขยายตัวได้ถึง 8.1% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 10 ปี แต่เมื่อดูการขยายตัวทางเศรษฐกิจในไตรมาส 4 พบว่า เติบโตได้เพียง 4% เท่านั้น ซึ่งนับเป็นสัญญาณของการเติบโตที่เริ่มชะลอตัวลง โดยเป็นผลพวงจากการกลับมาระบาดอีกครั้งของโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ (โอมิครอน)
จากเดิมที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนเป็นครั้งแรกในเมืองเทียนจิน เมื่อช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2564 ล่าสุด จีนพบผู้ติดเชื้อโควิดโอมิครอนใน "กรุงปักกิ่ง" เป็นครั้งแรกแล้วเมื่อวันเสาร์ที่ 15 ม.ค. ที่ผ่านมา และพบผู้ติดเชื้ออีก 1 ราย ที่เมืองจูไห่ ซึ่งมีพรมแดนติดกับมาเก๊า ทำให้คาดว่าจีนจะใช้มาตรการคุมโควิดอย่างเข้มข้นตามมาอีก เพราะนอกจากจีนจะเป็นประเทศที่ใช้นโยบาย Zero-Covid แล้ว จีนยังเตรียมรับกับการเป็นเจ้าภาพมหกรรมโอลิมปิกส์ฤดูหนาว ในกรุงปักกิ่ง ช่วงต้นเดือน ก.พ. ที่จะถึงนี้ด้วย
นักวิเคราะห์จากบริษัทแคปิทัล อิโคโนมิกส์ คาดการณ์ว่า แนวโน้มเศรษฐกิจจีนน่าจะยังอ่อนแรงต่อท่ามกลางการระบาดของโควิดรอบใหม่ ดังนั้น จึงเชื่อว่าแบงก์ชาติจีนอาจตัดสินใจ "ลดดอกเบี้ย" ลงต่อเนื่องอีก 0.20% ภายในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2565 นี้