ข่าวเศรษฐกิจ

PTT จับมือบีไอจีผลิตออกซิเจนเพิ่ม รับมือโอมิครอนระบาด

10 ม.ค. 65
PTT จับมือบีไอจีผลิตออกซิเจนเพิ่ม รับมือโอมิครอนระบาด

นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บมจ.บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส (BIG) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่กระจายในหลายภูมิภาคและพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่เดือน ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา บีไอจีจับมือ บมจ.ปตท. (PTT) เดินเครื่องโรงแยกอากาศหรือออกซิเจนแห่งใหม่ในนาม โรงแยกอากาศมาบตาพุด แอร์โปรดักส์ จำกัด (Map Ta Phut Air Products Co., Ltd.: MAP) ซึ่งทำให้บีไอจีมีกำลังการผลิตออกซิเจนรวมสูงถึง 1,150 ตัน/วัน เพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศ ทั้งนี้เพื่อเป็นเตรียมความพร้อมสำหรับออกซิเจนทางการแพทย์เพื่อรองรับระบบสาธารณสุขไทยอย่างเนื่องและเพียงพอ

 

ทั้งนี้บริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตออกซิเจนทั้งจากโรงแยกอากาศเดิมของบีไอจี และ โรงแยกอากาศ MAP แห่งใหม่ที่ร่วมมือกับ ปตท. ซึ่งได้เปิดดำเนินการผลิตตั้งแต่เดือน ต.ค. 2464 ที่ผ่านมา รวมถึงการบริหารจัดการขนส่ง การสำรองออกซิเจนเหลวในถังเก็บสำรองที่อยู่พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ขนาดความจุมากกว่า 7,300 ตัน และ การจัดหาท่อ Cylinder บรรจุออกซิเจน ด้วยแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ โดยใช้ระบบดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) และ บิ๊กดาต้า (Big Data) ในการบริหารระบบซัพพลายเชนทั้งหมด เพื่อรองรับปริมาณความต้องการออกซิเจนทางการแพทย์ในทุกสถานการณ์

 

สำหรับการจัดส่งออกซิเจนของบีไอจีมีทั้งในรูปแบบของเหลว (Liquid) และนำมาเปลี่ยนสภาพเป็นก๊าซ ณ โรงพยาบาล ซึ่งทำให้มีปริมาณออกซิเจนมากกว่าการขนส่งในรูปแบบก๊าซกว่า 800 เท่า และในรูปแบบของก๊าซ (Gas) บรรจุออกซิเจนในท่อ Cylinder ซึ่งสามารถนำไปใช้ทั้งในสถานพยาบาลและชุมชนได้ทันที โดยบีไอจีมั่นใจในความพร้อมเรื่องออกซิเจนทางการแพทย์ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอมิครอนจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งโรงพยาบาลสนาม มูลนิธิ หน่วยอาสา และ ชุมชน

 

"บีไอจีได้ทำงานร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์และหน่วยงานอาสาเพื่อนำออกซิเจนไปช่วยเหลือผู้ป่วย โควิดจำนวนมากจากวิกฤติโควิดสายพันธุ์เดลต้าที่ผ่านมา เราจึงพร้อมสนับสนุนทุกภาคส่วนเพื่อรองรับความต้องการออกซิเจนที่เพิ่มขึ้นอีกครั้งจากการแพร่ระบาดของโควิดจากสายพันธุ์โอไมครอนระลอกใหม่ในขณะนี้ ซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยใหม่ที่เข้ารักษาในสถานพยาบาลทั่วประเทศเพิ่มมากขึ้น" นายปิยบุตร กล่าว



advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT