ข่าวเศรษฐกิจ

"Flash" บุกฟิลิปปินส์ ปูพรมทั่วประเทศ 300 สาขา

10 ธ.ค. 64
"Flash" บุกฟิลิปปินส์ ปูพรมทั่วประเทศ 300 สาขา

"บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส" ถือเป็นสตาร์ทอัพสัญชาติไทยเจ้าแรกที่ขึ้นแท่นเป็นยูนิคอร์นรายแรกของไทยอย่างเป็นทางการด้วยมูลค่ากิจการที่ทะลุมากกว่า 30,000 ล้านบาทไปแล้วจากการระดมทุนครั้งที่ 6 ในรอบ E มูลค่า 150 ล้านดอลลลาร์เป็นเงินไทยประมาณ 4,700 ล้านบาท ในฐานะผู้ให้บริการด้าน E-commerce แบบครบวงจร ภายใต้คอนเซปต์ “คิดถึง ส่งถึง In mind In delivery”

แฟลช เอ็กซ์เพรส ก่อตั้งในปี พ.ศ.2560 ด้วยคนหนุ่มไฟแรงอย่าง "คมสันต์ ลี" ปัจจุบันเขายังนั่งเก้ากี้ประธานเจ้าหน้าที่บริหารที่เล็งเห็นโอกาสเริ่มปั้นธุรกิจรับส่งสินค้าเพราะอยู่ในจังหวะที่ยักษ์ใหญ่ต่างชาติอย่าง Alibaba และ Tencent ต่างเข้ามาลงทุนในธุรกิจ e-Commerce ในไทย จึงตอกย้ำความมั่นใจว่าธุรกิจนี้มีโอกาสเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยแฟลช เอ็กซ์เพรส เริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2561

ธุรกิจหลักของแฟลช เอ็กซ์เพรส มีดังนี้ 1.ขนส่งด่วน (Flash Express) 2.บริการด้านโลจิสติกส์ (Flash Logistics) 3.บริการรับส่งสินค้าขนาดใหญ่, บริการการด้านคลังสินค้า (Flash Fulfillment) 4.บริการด้านการเงิน (Flash Money)

ปัจจุบันมีพนักงานกว่า 27,000 คน พร้อมบริการที่ครอบคลุมครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย และมีจุดรับส่งพัสดุมากกว่า 2,500 แห่ง ส่วนกลยุทธ์ธุรกิจสำคัญที่เป็นจุดขายทำให้ลูกค้านิยมใช้บริการเพราะ
1.เป็นผู้ให้บริการเจ้าแรกที่มีนโยบายเข้ารับพัสดุฟรีถึงที่ตั้งแต่ชิ้นแรก
2.Door to Door Service ซึ่งแตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นเพราะยกบริการทั้งหมดของสาขามาอยู่บนโมบายล์แอปพลิเคชั่น หากลูกค้าต้องการส่งพัสดุก็สามารถเรียกพนักงานมารับถึงหน้าบ้านได้เลย ไม่ต้องเสียเวลาไปที่สาขา
3. เปิดให้บริการ 365 วัน แบบไร้วันหยุด
4. จ้างพนักงานเองทั้งหมดเพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพ

ส่วนการเติบโตของ แฟลช เอ็กซ์เพรส ถือว่าน่าสนใจอย่างมากในแง่ปี 2561 รายได้ 47 ล้านบาท ปี 2562 รายได้ 2,123 ล้านบาท และปี 2563 มีรายได้มากกว่า 10,000 ล้าน แม้ช่วงยังมีผลการขาดทุนอยู่เพราะเป็นช่วงของการเริ่มต้นธุรกิจซึ่งต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก ปัจจุบันตัวเลขการส่งพัสดุของบริษัทเกินกว่า 1 ล้านชิ้นต่อวันไปแล้ว ความน่าสนใจของธุรกิจ แฟลช เอ็กซ์เพรส ถูกการันตีโดยกลุ่มนักลงทุนหลักชื่อดังที่พาเหรดมาร่วมใส่เงินร่วมลงทุนใน แฟลช เอ็กซ์เพรส อาทิ
1. บมจ.ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก(OR)
2. บริษัท เดอเบลจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทจัดจำหน่ายในกลุ่มกระทิงแดง
3.KrungsriFinnovate บริษัทที่ลงทุนในสตาร์ตอัพในธนาคารกรุงศรีอยุธยา
4.SCB 10X ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์
5.Buer Capital
6.eWTP

สำหหรับแผนก้าวไปข้างหน้าจากนี้ไปไม่จำกัดกรอบตัวเองไว้ในไทยเท่านั้น หลังประสบความสำเร็จในไทยเพราะในปีนี้ลงทุนเพิ่มอีก 10,000 ล้านบาท เพื่อรองรับแผนการขยายธุรกิจะเปิดตัวบริการกลุ่มประเทศอาเซียนซึ่งได้วางแผนงานมาเตรียมพร้อมตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 ทั้งการจ้างงานและการวิจัยและศึกษาตลาด โดยปักหมุดเป้าหมายว่าภายใน 3-4 ปีข้างหน้าจะขยายไปให้ได้ครบ 10 ประเทศในอาเซียนก่อนหน้านี้เริ่มขยายออกไปทำตลาดในลาวกับมาเลเซียแล้วเป็นที่แรกๆ ขณะที่ล่าสุดได้บุกต่อเข้าไปในตลาดฟิลิปปินส์พร้อมบริการส่งของแล้วอย่างเป็นทางการ

คมสันต์ ลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แฟลช เอ็กซ์เพรส เปิดเผยว่า เรายังคงใช้กลยุทธ์ทางการตลาด และการทำบริการเช่นเดียวกับ Business Model ในประเทศไทย โดยยังคงคอนเซปต์ เข้ารับพัสดุฟรีถึงที่ตั้งแต่ชิ้นแรก และเปิดให้บริการ 365 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าผ่าน Flash Express Application ที่ทำได้ตั้งแต่การบุ๊คกิ้งเพื่อเรียกพนักงานเข้ารับพัสดุ ตลอดจนการติดตามพัสดุ และตรวจสอบราคาค่าขนส่งด้วยตนเอง โดยปัจจุบันแฟลช ฟิลลิปปินส์ มีสาขาที่เปิดให้บริการแล้วกว่า 138 แห่ง ครอบคลุมทั่วประเทศฟิลิปปินส์ ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 300 แห่งภายในสิ้นปีนี้ และมีพนักงานกว่า 3,000 คน โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในไตรมาส 2 ปี 2565 จะมีจำนวนพนักงานเพิ่มเป็น 10,000 คน

นอกจากการให้บริการด้านขนส่งแบบครบวงจร แฟลช ฟิลลิปปินส์ ยังมีบริการอื่นๆ ที่ครอบคลุม E-commerce แบบครบวงจร อาทิ การให้บริการด้านคลังสินค้า (Flash Fulfillment) ,ธุรกิจบริการรับสินค้า (แฟลช โฮม) และบริการใหม่ ๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

สำหรับการเปิดให้บริการของ แฟลช เอ็กซ์เพรส ในประเทศฟิลิปปินส์ครั้งนี้นับเป็นการขยายธุรกิจครอบคลุมโซนอาเซียนตามที่บริษัทฯ ได้วางเป้าหมายไว้ โดยเมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา แฟลช เอ็กซ์เพรส เพิ่งเปิดตัวบริการที่ประเทศลาว ซึ่งคาดการณ์ว่าในช่วงไตรมาส 1-2 ของปี 2565 จะทยอยประกาศเปิดให้บริการในกลุ่มประเทศอื่นๆ เพื่อขยายธุรกิจให้ครอบคลุมภูมิภาคอาเซียนต่อไป


แน่นอนว่าอีกเป้าหมายส่วนแรกของ "แฟลช เอ็กซ์เพรส" ที่เคยประกาศไว้เริ่มเป็นรูปเป็นร่างในการบุกตลาดอาเซียนก้าวย่างต่อไปคือเป้าหมายการขึ้นเป็น Top 3 ในตลาดอาเซียน และการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในระยะเวลา 5 ปีจากนี้ยังต้องจับตามองต่อไปว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้จะพุ่งชนจะสำเร็จหรือไม่อีกไม่นานคงได้รู้กัน

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT