สำนักข่าว Nikkei Asia รายงานว่า ‘บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน)’ บริษัทเครื่องดื่มเบอร์ต้นของอาเซียน เตรียมขยายพอร์ตธุรกิจ สร้างการเติบโตนอกเหนือจากตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์โลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลง และเต็มไปความไม่แน่นอน
โดยในปี 2023 ที่จะมาถึงนี้ ไทยเบฟเตรียมลงทุน 8 พันล้านบาท (223 ล้านดอลลาร์) แบ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจอาหารประมาณ 1.1 พันล้านบาท (ราว 30%) ซึ่งจะใช้ในการขยายร้าน Kentucky Fried Chicken เพิ่มอีก 70 สาขา ภายในสิ้นปีหน้า จากประมาณ 700 สาขาในปัจจุบัน เพื่อรองรับช่องทางซื้อกลับบ้านและเดลิเวอรี
สำหรับธุรกิจเครื่องดื่มนั้น ไทยเบฟเตรียมลงทุนในเคนื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ 300-400 ล้านบาท ธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 600-800 ล้านบาท และยังมีการลงทุนในด้านโลจิสติกส์ และการวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพด้วย
นอกจากนั้น เพื่อจับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าซึ่งเป็นเทรนด์แห่งอนาคต ไทยเบฟ ได้เตรียมเปิดสถานีชาร์จ ซึ่งอยู่ในระยะทดลองใช้ที่ร้าน KFC จำนวน 2 สาขา และถ้าได้รับการตอบรับดี จะเริ่มวางแผนเปิดให้บริการในพื้นที่ร้านค้าและศูนย์การค้าอย่างเต็มรูปแบบ
นาย ฐาปน สิริวัฒนภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยเบฟกล่าวว่า ในการจะขึ้นเป็นผู้นำในตลาดอุตสาหกรรมเครื่องดื่มแห่งเอเชีย ไม่สามารถมองข้ามโอกาสและศักยภาพของตลาดเครื่องดื่มที่ไม่ใช่แอลกอฮอล์ได้ รวมถึงต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เนื่องจากโครงสร้างรายได้ในปัจจุบันอาจยากต่อการเติบโตอย่างยั่งยืน รวมไปถึงกระแสการหันมาใส่ใจสุขภาพของผู้บริโภคนั้น อาจส่งผลกระทบต่อตลาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในระยะยาว
สำหรับผลประกอบการปี 2022 นั้น มีรายได้จากการขายรวม 2.72 แสนล้านบาท เติบโต 13.2% กำไรสุทธิ 3.45 หมื่นล้านบาท โดยธุรกิจเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์นั้น มีสัดส่วน 6.4% จากรายได้ทั้งหมด มียอดขายรวม 1.74 หมื่นล้านบาท เติบโต 14.6% ซึ่งยังห่างจากธุรกิจสุรา ซึ่งสร้างยอดขายรวม 1.16 แสนล้านบาท เติบโต 1%