ธุรกิจการตลาด

ปตท. กำไรปี 64 ทะลุ 1 แสนล้าน โตเกือบ 200%อานิสงส์น้ำมันแพง

18 ก.พ. 65
ปตท. กำไรปี 64 ทะลุ 1 แสนล้าน  โตเกือบ 200%อานิสงส์น้ำมันแพง
ไฮไลท์ Highlight
 

248773

 

 

ปตท. ประกาศกำไรปี 64 ที่ 108,363 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70,597 ล้านบาท เติบโตขึ้น 187% จากในปี 63 รับอานิสงส์น้ำมันแพง พร้อมทุ่มงบ 5 ปี วงเงิน 9.4 แสนล้านบาท ลงทุนพลังงานอนาคต -ลงทุนนอกธุรกิจพลังงาน

 
 
 
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.(PTT) เปิดเผยว่า บริษัทและบริษัทย่อยปี 2564 มีกำไรสุทธิรวม 108,363 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70,597 ล้านบาท หรือประมาณ 187% จากในปี 2563 ที่มีกำไรสุทธิ 37,766 ล้านบาท
 
 

 

โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นที่เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก Accounting GRM ที่ปรับเพิ่มขึ้นจากขาดทุน 0.4 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ใน ปี 63 เป็นกำไร 5.1 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ในปี 64 รวมถึงส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีกับวัตถุดิบที่ปรับสูงขึ้นทั้งสายโอเลฟินส์และอะโรเมติกส์ นอกจากนี้มีกำไรสต๊อกน้ำมันประมาณ 46,000 ล้านบาท ตามราคาน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้น

 
 
  
ทั้งนี้ บริษัทมียอดขาย 2,258,818 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยกลุ่มธุรกิจก๊าซธรรมชาติมีรายได้จากการขายจำนวน 464,038 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60,412 ล้านบาทหรือ เพิ่มขึ้น 15.0% จากธุรกิจโรงแยกก๊าซฯ มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่นมีรายได้จากการขายจำนวน 1,037,276 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 308,708 ล้านบาท หรือ 42.4% จากธุรกิจการกลั่นที่มีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้น ธุรกิจถ่านหินมีรายได้จากการขายจำนวน 16,983 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,204 ล้านบาท หรือร้อยละ 57.6
 
 
  
กลุ่มธุรกิจน้ำมันมีรายได้จากการขายจำนวน 513,895 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83,290 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น19.3% จากปี 63 จากการเพิ่มขึ้นของราคาขายเฉลี่ยน้ำมันสำเร็จรูป กลุ่มธุรกิจการค้าระหว่างประเทศมีรายได้จากการขายจำนวน 1,146,564 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 490,346 ล้านบาท หรือ 74.7%
 
 
  
ทั้งนี้ที่ประชุมคณะกรรมการอนุมัติการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในธุรกิจไฟฟ้า โดยบริษัท และ/หรือ บริษัท สยามแมนเนจเม้นท์ โฮลดิ้ง จำกัด เข้าซื้อหุ้น บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC จากบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP จำนวน 304.098 ล้านหุ้น มูลค่าตราไว้หุ้นละ 10 บาท คิดเป็นสัดส่วน 10.78% ในราคารวม 22,351 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาก่อนหักปันผลของ GPSC คาดว่าจะลงนามในสัญญาภายในเดือนเม.ย.2565
 
 
  
โดยแผนการปรับโครงสร้างเป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัท ภายหลังการซื้อหุ้นจะทำให้ PTT-SMH ถือหุ้น GPSC สัดส่วน 55.23% และ TOP ถือหุ้น GPSC 10%
 
 
  
นอกจากนี้ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 64 ในอัตรา 2 บาท โดยได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการครึ่งปีแรกแล้ว 1.20 บาท คงเหลือปันผลจ่ายอีก 0.80 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 3 มี.ค. 2565 และกำหนดจ่าย วันที่ 29 เม.ย.2565
 
 
  
นอกจากนี้กลุ่ม ปตท. ได้จัดเตรียมแผนลงทุน 5 ปี (ปี 2565-2569) วงเงินรวมประมาณ 9.4 แสนล้านบาท เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจตามกรอบวิสัยทัศน์ใหม่ และร่วมผลักดันอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ ประกอบด้วยการลงทุนในพลังงานอนาคต อาทิ พลังงานหมุนเวียน ระบบการกักเก็บพลังงาน ธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า ศึกษาการใช้พลังงานจากไฮโดรเจน และลงทุนนอกธุรกิจพลังงาน
 
 
อาทิ ธุรกิจวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต พร้อมต่อยอดธุรกิจปิโตรเคมีสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ปรับธุรกิจน้ำมันให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป ธุรกิจโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐานรวมถึงระบบปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนการดำเนินการจำหน่ายการลงทุนในธุรกิจที่มีมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ธุรกิจถ่านหิน เป็นต้น
 
 
 
 
 
 
#SPOTLIGHT #BUSINESS #PTT #ปตท #น้ำมัน #แอลพีจี #ยานยนต์ไฟฟ้า #ภาษี #LPG #NGV #ก๊าซะรรมชาติ #ก๊าซหุงต้ม #ถ่านหิน
 
 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT