ธุรกิจการตลาด

ออมสิน เตรียมตั้ง Non Bank ทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อที่ดิน ขายฝาก คาดเริ่มได้ มี.ค.นี้

7 ก.พ. 65
ออมสิน เตรียมตั้ง Non Bank  ทำธุรกิจปล่อยสินเชื่อที่ดิน  ขายฝาก คาดเริ่มได้ มี.ค.นี้

ออมสิน ระบุมีแผนตั้งบริษัทลูกทำ Non Bank ให้สินเชื่อที่มีที่ดินเป็นหลักประกัน-สินเชื่อขายฝากที่ดิน หวังช่วยผู้ประกอบธุรกิจ SMEs ให้มีสภาพคล่อง ดึงรัฐวิสาหกิจร่วมทุน 15% ทุนจดทะเบียนรวม 1,000 ล้านบาท ตั้งดอกเบี้ย 8.99% คาดปล่อยสินเชื่อได้ 1 หมื่นล้านบาท

 

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการ ธนาคาร ออมสินเปิดเผยว่า ธนาคารมีแผนจัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะเป็นสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์หรือนอนแบงก์(Non Bank) เพื่อทำหน้าที่ให้บริการสินเชื่อที่ดินและสินเชื่อขายฝากที่ดิน ถือเป็นหนึ่งในการให้บริการสินเชื่อ Social Bank ของธนาคาร โดยนอนแบงก์ดังกล่าวนี้อาจใช้ชื่อว่า บริษัท มีที่มีเงิน จำกัด โดยจะทำธุรกิจทั้งการให้สินเชื่อที่มีที่ดินเป็นหลักประกัน และสินเชื่อขายฝากที่ดิน

 

ทั้นี้จากความสำเร็จในการทำโครงการสินเชื่อ “มีที่มีเงิน” เพื่อช่วยเหลือ SMES ที่ประสบปัญหาสภาพคล่องจากผลกระทบของโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 โดยนำที่ดินมาเป็นหลักประกันเงินกู้ในอัตราดอกเบี้ย 5.99% โดยธนาคารออมสินจะให้สินเชื่อในสัดส่วน 75% ของราคาประเมิน ที่ดิน หรือ 50% ของราคาที่ดินที่เป็นราคาตลาด เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องทางธุรกิจให้กับ SMEs

 

นอกจากนี้โครงการดังกล่าว ธนาคารไม่ได้พิจารณาถึงความสามารถในการชำระหนี้ของลูกค้า ซึ่งถือว่า เป็นเรื่องที่สำคัญในการพิจารณาการปล่อยกู้ของสถาบันการเงิน ทั้งนี้ ที่ผ่านมาธนาคารได้ให้สินเชื่อแก่ลูกค้า SMEs ผ่านโครงการนี้ไปแล้ว 20,000 ล้านบาท แต่อยู่ในระหว่างปล่อยกู้อีก 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือน มี.ค. ปีนี้

 

“เพื่อให้การทำธุรกิจดังกล่าว เป็นไปอย่างต่อเนื่อง ธนาคารออมสิน จึงเตรียมที่จะจัดตั้งบริษัทลูกในรูปของนอนแบงก์ โดยธนาคารออมสินจะมีสัดส่วนการถือหุ้นราว 85% ที่เหลือเป็นพันธมิตรร่วมทุน ซึ่งอาจจะมาจากรัฐวิสาหกิจบางแห่ง โดยจะใส่เงินลงทุนในธุรกิจนี้ราว 1,000ล้านบาท ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเสนอคณะกรรมการบอร์ดอนุมัติโครงการนี้ คาดว่า จะเสนอภายในมี.ค.-เม.ย.นี้ จากนั้น จะใช้เวลาอีกประมาณ 3 เดือนในการวางระบบ”

 


สำหรับสินเชื่อประเภทขายฝากที่ดินนั้น จะคล้ายกับสินเชื่อที่ดิน เพียงแต่ว่า สินเชื่อประเภทขายฝากที่ดินนั้น จะต้องนำสัญญาขายฝากไปจดทะเบียนที่กรมที่ดิน ขณะที่ สินเชื่อที่ดินเป็นหลักประกันนั้น ไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนกับกรมที่ดิน ซึ่งกรณีที่เกิดปัญหาลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามสัญญา เจ้าหนี้ คือธนาคาร สามารถโอนที่ดินเป็นของธนาคารได้ทันที ขณะที่ สินเชื่อที่ดินเป็นหลักประกันจำเป็นต้องมีกระบวนการฟ้องร้องต่อศาล

 

ทั้งในช่วงที่เศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ผู้ประกอบการ SMEs จำนวนมากไม่สามารถหาเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ได้ เพราะรายได้ของ SMEs ได้รับผลกระทบจากโควิด ทำให้ธนาคารพาณิชย์มองว่า มีความเสี่ยงในการปล่อยกู้ ขณะที่ SMEs จำนวนมากมีที่ดินสะสม แต่ธนาคารพาณิชย์ก็ไม่รับที่ดินเป็นหลักประกันเงินกู้

 

“หาก SMEs จะนำที่ดินไปขายฝากนอกระบบธนาคารพาณิชย์ก็สามารถทำได้ แต่อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างสูง แม้ว่า ตามกฎหมายจะกำหนดว่า ดอกเบี้ยขายฝากจะต้องไม่เกิน 15% แต่ในสภาพความเป็นจริงมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงกว่านี้ นอกจากนั้น สินเชื่อที่ได้รับจากการขายฝาก ยังได้ในระดับที่ต่ำ เพียง 30% ของราคาที่ดิน”

 


สำหรับธุรกิจขายฝากที่ดินของธนาคารออมสิน ที่เตรียมจะทำธุรกิจนี้ในเร็วๆนี้นั้น จะเข้าไปช่วยเหลือ SMEs ที่ต้องการขายฝากที่ดิน เพื่อนำสภาพคล่องไปทำธุรกิจ โดยออมสินจะให้สินเชื่อในอัตรา 50% ของราคาตลาด และคิดดอกเบี้ยเพียง 8.99% ขณะที่ปัจจุบันมีการจดทะเบียนสัญญาขายฝากกับกรมที่ดิน คิดเป็นมูลค่าสัญญาประมาณ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งธนาคารออมสินคาดว่า หากกระโดดเข้าสู่ธุรกิจนี้ จะสามารถมีสัดส่วนของมูลค่าขายฝากราว 10,000 ล้านบาท

 


“บริษัทลูกที่จะจัดตั้งขึ้นมาในลักษณะนอนแบงก์ดังกล่าวของธนาคาร นอกจากจะปล่อยสินเชื่อที่ดินและสินเชื่อขายฝากแล้ว ในอนาคต จะขยายธุรกิจไปสู่การปล่อยสินเชื่อบุคคล อีกด้วย”

 

 

advertisement

Relate Post

SPOTLIGHT