กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ "ดีพร้อม" เดินหน้าผลักดันภาคธุรกิจไทยสู่ความยั่งยืน ด้วยการนำโมเดลเศรษฐกิจ BCG มาปรับใช้ ช่วย SMEs สร้างรายได้กว่าพันล้านบาท พร้อมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมหาศาล โครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจ แต่ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยในการเป็นผู้นำด้านการลดคาร์บอนในภูมิภาคอาเซียน
ดีพร้อมนำทัพ SMEs ไทย สู่เศรษฐกิจ BCG สร้างรายได้พันล้าน ลดโลกร้อน
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (ดีพร้อม หรือ DIPROM) ตอกย้ำการสนับสนุนนโยบายปฏิรูปอุตสาหกรรมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ด้วยการผลักดันโครงการ "ยกระดับธุรกิจ SMEs ด้วยการประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG" เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมในภาคอุตสาหกรรม
โครงการนี้มุ่งพัฒนาศักยภาพของ SMEs ไทยผ่านการอบรม เพิ่มพูนทักษะบุคลากร ปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าสูงจากทรัพยากรชีวภาพที่มีอยู่ รวมถึงการนำของเสียกลับมาสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ผลสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจคือ สถานประกอบการที่เข้าร่วมโครงการสามารถลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และขยายธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 1,390 ล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 61,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี เทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ถึง 5 ล้านต้นบนพื้นที่กว่า 1 แสนไร่ ดีพร้อมเตรียมเปิดเวทีให้ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการได้แสดงศักยภาพและผลงานอันน่าภาคภูมิใจ ในงาน Sustainability Expo 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กันยายน - 6 ตุลาคม 2567 นี้
รัฐบาลไทยมุ่งสู่ผู้นำอาเซียน ลดคาร์บอน ดีพร้อมหนุนอุตสาหกรรมเติบโตอย่างยั่งยืน
อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ภาสกร ชัยรัตน์ ได้กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายในการเป็นผู้นำของภูมิภาคอาเซียนด้านการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเป็นศูนย์กลางการซื้อขายคาร์บอนเครดิต ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน
เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ได้กำหนดนโยบายการปฏิรูปอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้น 3 ด้านหลัก ได้แก่ การจัดการกากอุตสาหกรรมที่เป็นพิษ การส่งเสริมศักยภาพในการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทย และการสร้างอุตสาหกรรมเศรษฐกิจใหม่ นอกจากนี้ ยังมี ยุทธศาสตร์สำคัญในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจอุตสาหกรรม พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน และส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว เพื่อบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050
กระทรวงอุตสาหกรรมมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถบรรลุเป้าหมายของอุตสาหกรรมที่ยั่งยืน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และเติบโตไปพร้อมกับชุมชน โดยได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ดำเนินการพัฒนาและยกระดับภาคอุตสาหกรรมให้เติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม
ดีพร้อม ผลักดัน SMEs สู่ BCG Model สำเร็จ ยกระดับอุตสาหกรรมไทยสู่ความยั่งยืน
นายภาสกร ชัยรัตน์ กล่าวว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม (DIPROM) ได้ดำเนินโครงการ “ยกระดับธุรกิจ SMEs ด้วยการประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG” โดยมุ่งเน้นการพัฒนาองค์ความรู้และทักษะที่จำเป็นในการดำเนินธุรกิจตามแนวคิด BCG, ส่งเสริมการนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนและสังคมคาร์บอนต่ำ, สนับสนุนการขอมาตรฐานหรือฉลากสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, และบูรณาการเครือข่ายความร่วมมือเพื่อสร้างกลไกสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน
โครงการนี้ประสบความสำเร็จในการยกระดับบุคลากรในภาคอุตสาหกรรมมากกว่า 2,500 คน, พัฒนาและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมใน 565 กิจการ, สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงจากความหลากหลายทางชีวภาพได้ถึง 130 ผลิตภัณฑ์, และส่งเสริมการผลิตผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์จากกระบวนการอัพไซเคิลมากกว่า 70 ผลิตภัณฑ์
การดำเนินงานตามแนวคิด BCG ประกอบด้วย 3 ด้านหลัก :
- Bio Economy (เศรษฐกิจชีวภาพ): มุ่งเน้นการพัฒนาและต่อยอดผลิตภัณฑ์จากทรัพยากรชีวภาพ อาทิ สมุนไพร (ขิง, ขมิ้นชัน, ไพล), ซูเปอร์ฟู้ด (โกโก้, น้ำผึ้ง, ตั๊กแตน) และเส้นใยชีวภาพ (กัญชง, สับปะรด, ไผ่, ผักตบชวา) ให้เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ, เครื่องสำอาง และสินค้าอื่นๆ ที่มีมูลค่าเพิ่ม
- Circular Economy (เศรษฐกิจหมุนเวียน): มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อาหาร, แฟชั่นและไลฟ์สไตล์, หรืออิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้วัสดุเหลือใช้, ของเสีย, หรือผลพลอยได้จากกระบวนการผลิต เช่น เศษไม้, ป้ายไวนิล, เศษผ้า
- Green Economy (เศรษฐกิจสีเขียว): ส่งเสริมให้สถานประกอบการมีแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก, ยกระดับและปรับปรุงกระบวนการผลิตให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม, และเตรียมความพร้อมเพื่อจัดทำรายงานการประเมินก๊าซเรือนกระจกเพื่อขอรับการรับรองจากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) เช่น CFO, CFP, CFR และ CE-CFP
ดีพร้อม ดัน SMEs ไทย สู่เศรษฐกิจ BCG ลดคาร์บอนกว่า 6 หมื่นตัน
นายภาสกร ชัยรัตน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ "ยกระดับธุรกิจ SMEs ด้วยการประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG" ได้สร้างผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมอย่างน่าชื่นชม โดยผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากการลดต้นทุนด้านพลังงาน, วัตถุดิบ และการขนส่ง นอกจากนี้ ยังสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการขยายตลาดสู่สากล คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 1,390 ล้านบาทต่อปี
ที่สำคัญ โครงการนี้ยังมีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 61,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ถึง 5 ล้านต้น หรือคิดเป็นพื้นที่ประมาณ 1 แสนไร่
เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ จึงได้มีการจัดนิทรรศการแสดงผลงานและการทดสอบตลาดในงาน Sustainability Expo 2024 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กันยายน – 6 ตุลาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คาดว่าจะมีผู้สนใจเข้าร่วมงานมากกว่า 5 แสนคน และสามารถสร้างรายได้รวมถึงยอดขายจากการทดสอบตลาดได้กว่า 10 ล้านบาท
"ดีพร้อมมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG ของประเทศไปสู่เป้าหมาย Net Zero Emission ซึ่งจะนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป" นายภาสกร กล่าวสรุป
ดีพร้อม พลังขับเคลื่อน SMEs ไทย สู่ยุคเศรษฐกิจสีเขียว
ความสำเร็จของโครงการ "ยกระดับธุรกิจ SMEs ด้วยการประยุกต์ใช้โมเดลเศรษฐกิจ BCG" สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของ SMEs ไทยในการปรับตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ดีพร้อมได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การสนับสนุนและส่งเสริม SMEs ให้เข้าใจและนำโมเดล BCG ไปใช้อย่างเหมาะสม ไม่เพียงแต่สร้างผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ แต่ยังสร้างคุณค่าให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน นี่คือก้าวสำคัญของประเทศไทยในการมุ่งสู่เศรษฐกิจสีเขียว และเป็นแบบอย่างให้กับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคอาเซียน