
วันที่ 14 พ.ย.68 หลังจากเกิดเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาด เป็นรายที่ 7 ในพื้นที่ห้วยตามาเรีย จ.ศรีสะเกษ จากนั้นนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก่อนจะระบุว่าได้ระงับปฏิญญาสันติภาพ และสั่งยุติส่งเชลยศึกแล้ว ก่อนที่ช่วงบ่ายวานนี้ (12พ.ย.) เวลา 16.00 น. พบว่าเกิดเหตุทหารกัมพูชาใช้อาวุธปืนยิงเข้ามายังฝั่งไทยในพื้นที่ชายแดนบ้านหนองหญ้าแก้ว อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ทำให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กลับมาตึงเครียดอีกครั้ง ทหารทั้งสองฝ่ายมีการตรึงกำลังตลอดแนวชายแดน ที่สุ่มเสี่ยงจะเกิดการสู้รบ
สถานการณ์ความตึงเครียดในหลายพื้นที่ชายแดนดังกล่าว ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ชายแดนเริ่มหวาดระแวงมากขึ้นแม้ยังคงดำเนินชีวิตโดยเฉพาะต้องเร่งเก็บเกี่ยข้าวที่กำลังสุกและนำไปตากแดดไล่ความชื้น ก่อนบรรจุกระสอบนำไปขายและเก็บไว้บริโภค
ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตึงเครียดดังกล่าวโดยผู้นำชุมชนในพื้นที่ชายแดนได้ยังประกาศแจ้งให้ชาวบ้านอย่าตื่นตระหนก แต่ให้มีการเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าสัมภาระจำเป็นไว้ เพื่อเตรียมพร้อมอพยพได้ตลอดเวลาหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น
ขณะที่นายสุธีร์ บุญแต่ง อายุ 60 ปี ปู่ของน้องน้ำโขง หรือ ด.ช.ธิติวัฒน์ บุญแต่ง อายุ 8 ขวบ ที่เสียชีวิตจากจรวด BM21 ของทหารกัมพูชายิงมาใส่เมื่อวันที่ 24 พ.ย.68 ที่ผ่านมา ได้พาผู้สื่อข่าวดูหลุ่มหลบภัยหรือบังเกอร์ที่ กัน จอมพลัง มาสร้างไว้ให้แต่ยังไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากถูกเหตุการณ์ดรามาและถูกโจมตีจาก สส.ไอช์ รัชนก ที่ผ่านมา ตามที่เป็นข่าว
โดย นายสุธีร์ กล่าวว่า บังเกอร์ของคุณ กัน จอมพลัง ที่สร้างไว้สร้างให้ชาวบ้าน ซึ่งตั้งชื่อว่าบังเกอร์ "น้องน้ำโขงและพี่บัณฑิต" ยังไม่เสร็จ เนื่องจากเกิดเรื่องดรามาก่อน รอคุณ กัน จอมพลัง เข้ามาเคลียร์ หากเกิดเหตุฉุกเฉินก็สามารถหลบภัยได้ชั่วคราว แม้จะยังไม่เสร็จ เพราะจำเป็น บางจุดก็มีน้ำขัง ถ้าเสร็จจะช่วยคลายความกังวลและสร้างความอุ่นใจให้กับชาวบ้านได้มากพอสมควร
ฝากถึงรัฐบาลและแม่ทัพรวมทั้งผู้ที่มีอำนาจสั่งการ ไม่ต้องรอพิจารณาอะไรมากมาย ให้รีบจัดการเขมรเพื่อความสงบสุขของประชาชนแนวชายแดนอันยาวนานต่อไป ส่วนผู้นำมาเลเซียต่างๆที่จะออกมาเป็นตัวกลางก็เหมือนเดิม ถึงจะจัดกี่โต๊ะ กี่เจรจา กี่ภาคีก็เหมือนเดิม ลอบวางระเบิดเหมือน เดิมลอบยิง ลอบดักทำร้ายเหมือนเดิม เขมรเชื่อใจไม่ได้ ทุกเอ็มโอยูคว่ำไปแล้วยกเลิกไปแล้วลงนามไปแล้วก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เรามาตั้งต้นใหม่ในวิถีทางปฏิบัติของประเทศเรา เพื่อเอาดินแดนคืนมาอย่าให้เสียแม้แต่ตารางนิ้วเดียว
Advertisement