Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"สีหศักดิ์" เชิญคณะทูต 59 ประเทศ แจงหลังไทยระงับถ้อยแถลงร่วม

"สีหศักดิ์" เชิญคณะทูต 59 ประเทศ แจงหลังไทยระงับถ้อยแถลงร่วม

12 พ.ย. 68
19:43 น.
แชร์

"สีหศักดิ์" เชิญคณะทูต 59 ประเทศ แจงหลังไทยระงับถ้อยแถลงร่วม รอดูท่าที "กัมพูชา" ตอบสนอง จ่อเชิญคณะ AOT ลงพื้นที่ดูข้อเท็จจริงเร็ว ๆ นี้

วันนี้ (12 พ.ย.68) นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วยนางเอกสิริ ปิณฑะรุจิ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนายปิยภักดิ์ ศรีเจริญ อธิบดีกรมเอเชียตะวันออกบรรยายสรุปแก่คณะทูต เกี่ยวกับพัฒนาการล่าสุดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ณ ห้องนราธิป กระทรวงการต่างประเทศ

นายสีหศักดิ์ กล่าวตอนต้นว่า ไทยกังวลต่อเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดที่บริเวณพื้นที่ห้วยตามาเรีย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 4 นาย ซึ่งเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ภายหลังนายกรัฐมนตรีของไทยและกัมพูชาลงนามในถ้อยแถลง (Joint Declaration) โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้การเจรจาสันติภาพระหว่างสองประเทศต้องหยุดชะงัก

เหตุการณ์ดังกล่าวมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นทุ่นระเบิดที่ถูกติดตั้งใหม่และเกิดเหตุต่อเนื่อง ครั้งที่ 7 แล้ว นำมาซึ่งการตั้งคำถามอย่างจริงจังของสาธารณชนไทยว่าจะต้องเกิดสูญเสียขาอีกกี่ข้าง เหตุการณ์ดังกล่าวมีความร้ายแรง ซึ่งเมื่ออ่านความคิดเห็นในสื่อโซเชียลมิเดีย คุณจะสามารถรับรู้ได้เป็นอย่างดีถึงความกังวลอย่างลึกซึ้งของประชาชนไทยต่อเรื่องนี้ ซึ่งการบรรยายในวันนี้ จะทำให้ทุกคนได้รับทราบถึงรายละเอียด และกระทรวงการต่างประเทศยินดีตอบทุกคำถามและข้อสงสัย

ภายหลังนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการบรรยายว่า วัตถุประสงค์ของการบรรยายวันนี้เพื่อแจ้งให้คณะทูตทราบถึงจุดยืนของไทยและแนวทางการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ ภายหลังทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดที่ห้วยตามาเรีย เมื่อวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยในการจัดบรรยายสรุปมีผู้เข้าร่วม ประกอบด้วย เอกอัครราชทูตและผู้แทน 59 ประเทศ 1 องค์กร 4 องค์การระหว่างประเทศ รวมทั้งสิ้น 71 คน สาระสำคัญของการบรรยายสรุป แบ่งเป็น 4 หัวข้อ ได้แก่

1.เหตุการณ์ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด นายสีหศักดิ์ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งได้รับการยืนยันว่าเกิดจากการลอบวางทุ่นระเบิดใหม่โดยฝ่ายกัมพูชา ส่งผลให้กำลังพลบาดเจ็บรวม 4 นาย หนึ่งในนั้นได้รับบาดเจ็บถึงขั้นทุพพลภาพข้อเท้าขวาขาด โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นทางเดิมที่เคยใช้ลาดตระเวนมาก่อน แต่จากการเข้าไปพิสูจน์ทราบจุดเกิดเหตุโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ได้มีการตรวจพบชิ้นส่วนระเบิด PMN-2 ในพื้นที่ใกล้เคียงและเพิ่มเติมอีก 3 ทุ่น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กัมพูชาเคยรุกล้ำเข้ามาวางกำลัง จึงสรุปได้ว่าฝ่ายกัมพูชาลักลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิดใหม่ในเขตไทย

2.ท่าทีไทยต่อถ้อยแถลง (Joint Declaration) นายสีหศักดิ์ยืนยันว่าประเทศไทยให้ความสำคัญกับถ้อยแถลงที่ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมองว่าเอกสารดังกล่าวเป็นแนวทางที่จะนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืน ที่สำคัญต้องอาศัยความจริงใจและความสุจริตใจของทั้งสองฝ่ายที่จะปฏิบัติตาม แต่ภายหลังเกิดเหตุ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เพื่อพิจารณาและประเมินสถานการณ์ ที่ประชุม สมช.เห็นว่าแม้ประเทศไทยจะยึดมั่นและมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามถ้อยแถลงมาโดยตลอดและได้เกิดความคืบหน้าในหลายเรื่อง แต่เป็นเรื่องที่น่าผิดหวังที่ล่าสุดกัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดถ้อยแถลงลักลอบเข้ามาหวังระเบิดในเขตไทย ที่ประชุม สมช.เห็นว่าการกระทำนี้เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย นอกจากจะทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บแล้ว ยังเป็นการละเมิดพันธกรณีตามอนุสัญญาออตวาที่กัมพูชาก็เป็นรัฐภาคี สะท้อนถึงความไม่จริงใจของฝ่ายกัมพูชาในการลดระดับความขัดแย้ง

เหตุผลนี้ฝ่ายไทยจำเป็นต้องระงับการดำเนินการตามถ้อยแถลง รวมถึงการชะลอส่งตัวทหารกัมพูชาที่ฝ่ายไทยกำลังควบคุมอยู่ 18 นายออกไปก่อน ฝ่ายไทยเรียกร้องให้กัมพูชาดำเนินการ 3 เรื่อง ได้แก่ 1.แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์นี้ 2.ดำเนินการสอบสวนกรณีดังกล่าวและนำส่งผู้กระทำผิดมารับโทษ 3. ดำเนินมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต ทั้งนี้ฝ่ายไทยจะพิจารณาความเป็นไปได้และความเหมาะสมในการปฏิบัติตามถ้อยแถลงก็ต่อเมื่อฝ่ายกัมพูชาแสดงความรับผิดชอบ และแสดงให้เห็นว่าความเป็นปฏิปักษ์ยุติลงแล้ว

3.นายสีหศักดิ์ แจ้งว่าหลังเกิดเหตุได้สื่อสารไปยังนายปรัก สุคน รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชา เพื่อทำการประท้วงเบื้องต้น 2 ครั้ง โดยกระทรวงการต่างประเทศยื่นหนังสือประท้วงผ่านสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทยแล้ว จากนี้ฝ่ายไทยจะดำเนินการตามกรอบอนุสัญญาออตตาวา และจะมีหนังสือถึงญี่ปุ่น ในฐานะประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา และเลขาธิการสหประชาชาติด้วย ทั้งนี้จะมีการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาสมัยที่ 22 ระหว่างวันที่ 1-5 ธ.ค.นี้

ฝ่ายไทยจะชี้แจงถึงประชาคมระหว่างประเทศ โดยจะมีหนังสือถึงสหรัฐฯ และมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน โดยทั้งสองประเทศเป็นผู้ร่วมสังเกตการณ์ในการลงนามถ้อยแถลง โดยจะมีการเวียนหนังสือไปให้ประเทศสมาชิกอาเซียนทุกประเทศทราบด้วย รวมถึงสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลส่วนใหญ่ทั่วโลกจะได้รับข้อมูลเช่นเดียวกัน เพื่อชี้แจงให้กับประเทศเจ้าบ้านทราบท่าทีของไทย ส่วนฝ่ายความมั่นคงจะมีการชี้แจงผ่านคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) อย่างเต็มที่ และ AOT จะได้รับเชิญให้มีการลงพื้นที่ในเร็ว ๆ นี้ด้วย

4.การลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษของนายอนุทินและนายสีหศักดิ์เมื่อวานนี้ เพื่อรับทราบสถานการณ์จริงในพื้นที่ชายแดน พร้อมกับตรวจเยี่ยมการปฎิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ให้กำลังใจทหารแนวหน้า ณ ฐานปฏิบัติการภูมะเขือ และเข้าเยี่ยมกำลังใจพลทหารที่ได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด

5. ประเด็นที่คณะทูตให้ความสนใจ

ต่อคำถามของคณะทูตเกี่ยวกับการดำเนินการของไทยต่อไปนี้ รัฐมนตรีฯ แจ้งคณะทูตว่า จากนี้ ฝ่ายไทยขอสงวนสิทธิ์ที่จะดำเนินการตามความจำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย และตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่

ต่อคำถามเรื่องสถานะของ Joint Declaration รัฐมนตรีฯ ตอบว่า ปัจจุบัน ไทยระงับ (pause) การดำเนินการตาม Joint Declaration โดยการปรับเปลี่ยนใด ๆ จากนี้ ขึ้นอยู่กับท่าทีและการตอบสนองต่อข้อเรียกร้องของไทยของฝ่ายกัมพูชา

กระทรวงการต่างประเทศขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในสันติวิธี ซึ่งเป็นหลักการที่เรายึดถือมาโดยตลอด ในขณะเดียวกัน รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะดำเนินการอย่างรอบด้านและเต็มกำลัง เพื่อธำรงไว้ซึ่งอธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดน และความมั่นคงปลอดภัยของพี่น้องประชาชนคนไทย ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญสูงสุดตลอดมา

ประเทศไทยเน้นย้ำความคาดหวังต่อกัมพูชาให้แสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยความจริงใจและสุจริตใจ และสร้างความเชื่อมั่นให้ไทยและประชาคมโลกเห็นว่า เหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก และกัมพูชาจะปฏิบัติตามเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันไว้

Advertisement

แชร์
"สีหศักดิ์" เชิญคณะทูต 59 ประเทศ แจงหลังไทยระงับถ้อยแถลงร่วม