หลอนผัวเห็นเมียเป็นพญานาคแทงดับ ตะลึงมีเซ็กซ์ก่อนฆ่าตาย คาดสักยันต์ของขึ้น (คลิป)

วันที่ 22 ก.ย. 64 ร.ต.ท.สุธี ศิริเม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.โนนเหม่า จ.ชัยภูมิ รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวถูกทำร้ายเสียชีวิต อยู่ที่กระท่อมกลางนา บ้านทุ่งสว่าง ต.วังชมพู อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ จึงประสานแพทย์ รพ.หนองบัวแดง ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แล้วรุดไปตรวจสอบ พร้อมฝ่ายสืบสวน และหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรม จุดหนองบัวแดง

วันที่ 23 ก.ย. 64 ทีมข่าวเดินทางไปยังบริเวณจุดเกิดเหตุ บ้านทุ่งสว่าง หมู่ 8 ต.วังชมพู อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ นายวิรัตน์ บัวผัน หรือ หำ อายุ 70 ปี เจ้าของที่นาจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุไม่ได้เป็นคนในพื้นที่ ตนเองก็ไม่รู้จักและไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน

เมื่อวันที่ 22 ก.ย. ช่วง 10.00 น. ตนออกจากบ้านเดินทางจะไปนาเหมือนตามปกติ แต่เมื่อตนไปถึงกลับพบว่าบริเวณกระต๊อบของตนมีชายผู้ก่อเหตุกับหญิงผู้เสียชีวิตกำลังมีเพศสัมพันธ์กันอยู่ ลักษณะผู้ชายแก้ผ้านอนอยู่ที่พื้นดินใกล้กระต๊อบ และหญิงผู้เสียชีวิตขึ้นคล่อมอยู่ที่ด้านบน

โดยขณะทึ่ตนพบเห็น ตนก็ได้บอกทั้งคู่ว่า "จะสายแล้วมาทำอะไรกัน" แต่ผู้ชายพูดตอบกลับตนว่า "ช่วยด้วย ช่วยด้วย ผู้หญิงเป็นพญานาค จะฆ่าผม" ตนที่ได้ยินจึงคิดได้เป็น 2 กรณี คือตามร่างกายของชายหญิงทั้งคู่มีรอยสักยันต์ คู่อาจเกิดอาการของขึ้น หรืออาจไปทำอะไรผิดครูมา หรือทั้งคู่อาจมีการยุ่งเกี่ยวยาเสพติดหรือไม่ จึงมากระทำพฤติกรรมดังกล่าวในบริเวณพื้นนาของตน

ซึ่งด้วยความที่ตนทนดูไม่ได้ จึงรีบขี่จักรยานยนต์กลับบ้าน มาบอกให้ลูกชายฟัง เพื่อให้ลูกชายไปไล่ออกไปจากพื้นที่นาของตน แต่ลูกชายไปพบศพของหญิงสาวรายดังกล่าว ช่วง 12.00 น. ว่าเสียชีวิตจมกองเลือดแล้ว ส่วนผู้ชายได้หายตัวไป ตนจึงให้ลูกชายไปทำการแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ไม่ทราบรายละเอียดแน่ชัดของการเสียชีวิต เพียงแค่เป็นคนไปพบก่อนที่หญิงดังกล่าวจะเสียชีวิตเท่านั้น ซึ่งหลังเกิดเหตุก็รู้สึกกลัวที่มีคนมาฆ่ากันภานในพื้นที่ของตน หลังจากนี้ ตนก็จะหาพระสงฆ์มาทำพิธีรดน้ำมนต์ให้เพื่อความเป็นสิริมงคล ส่วนด้านคดีความก็ขอปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามขั้นตอนของกฎหมาย

ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของนายเวหา ผู้ต้องสงสัย ภายใน ต.หนองแวง อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ เมื่อไปถึงพบว่าปิดล็อก ไม่มีคนอยู่บ้าน น.ส.ภัทราพร ดีสี อายุ 20 ปี เพื่อนบ้านนายเวหา เผยว่า นายเวหา และ น.ส.จุฑาทิพย์ อาศัยอยู่ด้วยกันภายในบ้านหลังนี้จริง แต่อยู่ด้วยกันเพียง 2 คน เนื่องจากคนในครอบครัวของนายเวหาไปทำงานก่อสร้างที่จังหวัดอื่นนาน 2 ปีแล้ว ยังไม่มีใครกลับมา ส่วนพ่อของนายเวหาก็ป่วยเป็นโรคชรา ต้องรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ชัยภูมิ โดยปกติแล้วเท่าที่ตนได้สัมผัสทั้ง 2 คนก็เป็นหนุ่มสาวที่ดูรักกันดี ไม่ค่อยเห็นทั้งคู่มีปากเสียงกัน

กระทั่งตนมาทราบข่าววานนี้ 22 ก.ย. ช่วงบ่าย หลังจากมีคนไปพบศพ น.ส.จุฑาทิพย์ ถูกฆาตกรรมดังกล่าว ส่วนปมเหตุที่เกิดขึ้น ตนไม่ทราบรายละเอียดอะไรแน่ชัด แต่หากให้เดา เชื่อว่านายเวหาน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เนื่องจากทั้งคู่มักจะอยู่ด้วยกันตลอด จึงคิดว่า อาจเป็นเรื่องชู้สาวหึงหวง อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าหากนายเวหาเป็นผู้กระทำผิดจริงก็เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุเกินไป ทั้งนี้ในฐานะเป็นผู้หญิงด้วยกัน ตนก็อยากให้ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษขั้นสูงสุด ถึงขั้นประหารชีวิต

น.ส.ธันยาพร เพียรการณ์ อายุ 55 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เผยว่า ลูกสาวของตนเคยมีสามีมาแล้ว ก่อนมาพบนายเวหา มีลูกด้วยกัน 3 คน
หญิง 2 คน อายุ 15 และ 10 ปี ผู้ชาย 1 คน อายุ 8 ปี ซึ่งหลังจากลูกสาวเลิกกับสามีเก่าได้นาน 8 ปี ลูกสาวก็มาคบหาดูใจกับ นายเวหา และไปอาศัยอยู่ด้วยกันที่ ต.วังชมพู อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ได้ประมาณ 1 ปี เท่าที่สังเกตทั้งคู่ก็ดูรักใคร่กันดี ไปไหนมาไหนด้วยกัน ก่อนหน้านี้ทั้งคู่ก็มาช่วยกันทำสวนอยู่ที่หมู่บ้านของตน บ้านโคกเจริญชัย หมู่ที่ 15 ต.โคกสะอาด อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ จนกระทั่ง 2-3 วันที่ผ่านมา ทั้งคู่ก็กลับไปที่ ต.วังชมพู บ้านของนายเวหาอีก เพราะทั้งคู่ได้ทำสวนพริกไว้จึงจะไปดูแล

ซึ่งความเป็นจริงแล้วคนเป็นแม่ก็ไม่อยากให้ลูกออกไปอยู่ไหนไกลสายตา เนื่องจากตนก็อายุมาก จึงอยากให้ลูกสาวมาอยู่ที่บ้านด้วยกัน กระทั่งมาทราบข่าวจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าลูกสาวน่าจะถูกนายเวหาฆ่าตาย ตนไม่ทราบว่าปมเหตุมีความเป็นมาอย่างไร และทำไมถึงต้องมาฆ่าลูกสาวตน ซี่งในส่วนนี้ครอบครัวก็แค้นและอยากจะถามคนที่ก่อเหตุว่า "ทำกับลูกสาวตนแบบนี้ทำไม ทำไมมีปัญหากัน ไม่พูดคุยกันดี ๆ" พร้อมทั้งหากนายเวหาเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวจริง ตนก็อยากจะให้ทางเจ้าหน้าทึ่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีเอาผิดถึงที่สุด หากนายเวหากำลังหลบหนีอยู่ ก็อยากวอนขอให้รีบกลับมามอบตัวเพื่อรับโทษตามความผิด

นอกจากนี้ ช่วงกลางดึกคืนวันที่ 21 ก.ย. ก่อนที่จะรู้เรื่องการตายของลูกสาว ตนรู้สึกถึงความผิดปกติ เนื่องจากกลางดึกได้ยินหมาเห่าหอนอยู่ที่หน้าบ้าน แต่ตนก็ไม่แอะใจ เพราะคิดว่าหมาที่เห่าคงจะเห็นวิญญาณสัมภเวสีทั่วไป กระทั่งมารู้ว่าลูกถูกฆ่าตาย จึงเชื่อว่า เสียงหมาเห่าดังกล่าวน่าจะเป็นเพราะวิญญาณลูกคงกลับมาที่บ้าน เพื่ออยากบอกให้คนที่บ้านรู้ว่าไม่มีชีวิตอยู่แล้วก็เป็นได้

นายอาทิตย์ ฮาดวิเศษ อายุ 34 ปี อาจารย์สักยันต์ เพื่อนรุ่นน้องนายเวหา เผยว่า สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นหลังทราบข่าว ตนก็รู้สึกตกใจ เนื่องจากไม่คิดว่านายเวหาจะไปก่อเหตุ ตนรู้จักกับนายเวหามานานเกือบ 30 ปี เนื่องจากตนและนายเวหา เป็นคนอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน ตนนับถือเหมือนรุ่นพี่คนหนึ่ง กระทั่งช่วง 7-8 เดือนที่ผ่านมา ตนมาทราบว่าทั้งคู่คบหาดูใจกัน ซึ่งก็เห็นทั้งคู่รักกันดี ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาให้หลัง เวลาที่เห็นทั้งคู่ซ้อนรถผ่านหน้าบ้านตน เคยเห็นทั้งคู่มีปากเสียงกันบ่อยขึ้น แต่ก็ไม่ทราบว่า ทะเลาะกันเพราะสาเหตุอะไร

ครั้งล่าสุดที่ตนเจอกับนายเวหาและผู้เสียชีวิต คือวันทึ่ 21 ก.ย. ที่ผ่านมา นายเวหาและผู้เสียชีวิต ได้ขี่รถมาหาตนที่บ้าน และขอให้ตนช่วยผู้เสียชีวิต เนื่องจากนายเวหาอ้างว่าผู้เสียชีวิตมีอาการเปลี่ยนไป ไม่ค่อยอยากคุยกับนายเวหา อีกทั้งมีอาการนิ่งเงียบ และจะพูดกับนายเวหาว่ามักจะเห็นวิญญาณพญานาคมาอยู่ในตัว นายเวหาที่เห็นว่าตนเป็นอาจารย์สักยันต์เลยคิดว่าอาจมีทางช่วยอะไรได้บ้าง หลังทราบเรื่องตนจึงแนะนำให้ทั้งคู่ลองนำธูป 16 ดอกไปปักกลางแจ้ง บริเวณสวนของทั้งคู่ดูเพื่ออาจจะไปทำอะไรหลบหลู่เจ้าที่เจ้าทางโดยที่ไม่รู้ตัว หลังตนพูดจบเจ้าตัวก็กลับออกจากบ้านไป กระทั่งตนมาทราบข่าว