โจ๋มุทะลุสางแค้นอริยิงคาซอยบ้านเพื่อน 5 นัด คนเจ็บผวาตามล่าถึงโรงเรียน (คลิป)

23 ก.ย. 64

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปและเรื่องราวเกี่ยวกับพฤติกรรมของวัยรุ่นบุกเข้ามาใช้อาวุธปืนยิงภายในชุมชน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนและหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในขณะที่มีการเข้าแจ้งความแล้วแต่คดีไม่คืบหน้าแต่อย่างใด 

245105

ล่าสุดวันที่ 23 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ ชุมชนร่วมศรัทธาพัฒนา อยู่ในพื้นที่ต.สำโรง อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ตรงจุดเกิดเหตุเป็นทางเข้า-ออกของชุมชน ลักษณะเป็นทางเดินเท้า มีแค่รถจักรยานยนต์และจักรยานที่สามารถสัญจรได้

166074

ทีมข่าวสอบถามนางอนงค์ (นามสมมติ) ชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ (18 ก.ย.64) เวลาประมาณ 23.00 น. ตนนอนหลับไปแล้ว แต่สะดุ้งตื่นเพราะได้ยินเสียงดังปั้ง เข้าใจว่ามีคนขี่รถจักรยานยนต์ตกข้างทาง เพราะเคยมีคนขี่รถตกลงไปเสียงดังแบบนี้ แต่เมื่อเปิดประตูบ้านออกมาก็พบเห็นวัยรุ่นสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ กำลังถือปืนและจอดรถอยู่หน้าบ้านของตน มีการตะโกนด่าใครสักคน ตนจึงรีบปิดประตูบ้านเพราะกลัวจะโดนลูกหลง

ทั้งนี้ ตกรู้สึกตกใจ และมองว่าค่อนข้างอุกอาจ เนื่องจากคนในชุมชนมีทั้งเด็กและผู้สูงอายุ ถ้าเกิดมีใครโดนลูกหลงขึ้นมา ใครจะรับผิดชอบ แล้วนี่ก็เป็นพื้นที่ชุมชน ถ้าจะตีกันทำไมไม่ไปตีกันข้างนอก ทำแบบนี้ชาวบ้านเขาเดือดร้อนและหวาดกลัวกันหมด กลัวว่าจะกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง และขอให้ตำรวจเข้ามาตรวจในชุมชนบ่อย ๆ เพื่อป้องกันคนมั่วสุมกันในเวลายามวิกาล

501513

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวมีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับนายธวัชชัย บุญชม อายุ 30 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุ (18 ก.ย.64) เวลาประมาณ 23.00 น. ตนให้นายเติ้ล (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นรุ่นน้อง มารับตนที่จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านเพื่อน กำลังนั่งกินข้าวกันประมาณ 4 คน พอนายเติ้ลมาถึงสักพัก กลุ่มวัยรุ่นก็ขับรถเข้ามา แล้วตะโกนถามว่า "เติ้ลอยู่ไหน" จังหวะนั้นตนให้น้องหลบเข้าไปในบ้านเพื่อน ทราบว่านายเติ้ล มีเรื่องกับนายโจ๊ก จึงบุกเข้ามาโดยใช้อาวุธปืนยิงขู่ลงพื้น 3 นัด และยิงขึ้นฟ้าอีก 2 นัด โชคดีมากที่ในวันเกิดเหตุไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ และไม่พบว่ามีข้าวของเสียหาย

702830

ทั้งนี้ ตนมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่สมควรเกิดขึ้นในพื้นที่ชุมชน เนื่องจากภายในชุมชนมีเด็กและผู้สูงอายุอาศัยอยู่จำนวนมาก ถ้าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดในช่วงเวลากลางวัน และมีเด็กวิ่งผ่านไปมาโดนลูกหลง จะมีใครรับผิดชอบชีวิตพวกเขาเหล่านั้นบ้าง ตนไม่รู้หรอกว่าใครมีปัญหากับใคร แต่ตนมองว่ามีทางออกที่ดีกว่านี้ และสามารถเจรจาพูดคุยกันได้

นอกจากนี้ หลังจากเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความกับเจ้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ ขณะนี้ก็ยังไม่มีเจ้าที่ตำรวจเรียกใครไปสอบปากคำ แม้กระทั่งนายเติ้ล ที่คาดว่าน่าจะรู้ตัวคนก่อเหตุ ตนอยากให้เจ้าที่ตำรวจเร่งติดตามจับกุมตัวคนก่อเหตุ เพราะเกรงว่าจะหวนกลับมาก่อเหตุซ้ำอีกครั้ง เนื่องจากวันที่ 21 ก.ย.64 นายเติ้ลเพิ่งถูกกลุ่มเดิมไล่กวดจากที่โรงเรียน ก็เป็นห่วงเรื่องของความปลอดภัย

812500

จากนั้นทีมข่าวได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับนายเติ้ล (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า กลุ่มเพื่อนของตนเคยมีเรื่องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุ แต่เป็นเหตุการณ์เข้าใจผิด และยังไม่เคยได้ปรับความเข้าใจกัน ซึ่งทั้ง 2 กลุ่มเรียนร่วมสถาบันเดียวกัน ในวันที่ 16 ก.ย.64 ตนได้เจอกลุ่มผู้ก่อเหตุด้วยความบังเอิญ ขี่รถจักรยานยนต์สวนทางกัน แล้วจำกันได้ว่าคือคู่อริ จึงมีการเข้าตะลุมบอนกัน ซึ่งตนก็จำหน้านายโจ๊กได้ เพราะเคยอยู่ชุมชนเดียวกัน ก็กำลังจะเจรจากันแต่เพื่อนของทั้ง 2 ฝ่ายเปิดฉากกันก่อน ตนจึงถูกนายโจ๊กใช้มีดแทงที่บริเวณหน้าอก แต่ไม่เข้า ได้รับอาการบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะนั้นเพื่อนของตนเห็นว่าถูกแทง จึงใช้เหล็กตีเข้าที่ศีรษะของเพื่อนฝั่งตรงข้ามหัวแตก

จากนั้น วันที่ 17 ก.ย.64 กลุ่มคู่อริ ได้ทักแชตเฟซบุ๊กมาข่มขู่ว่า จะเข้ามาบุกที่บ้าน หากไม่ยอมพบเพื่อให้อีกฝ่ายทำร้ายร่างกายคืน ซึ่งตนก็ไม่ไปเพราะไม่อยากเจ็บตัว จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นคู่อริก็มาจริง ๆ ซึ่งตนคาดว่าน่าจะเข้ามาสอดส่องดักรอแถวนี้ พอเห็นตนเข้ามาเลยขี่รถตาม แล้วก่อเหตุจะยิงตนให้ได้ 

ทั้งนี้ ตนก็รู้สึกกลัวตายเหมือนกัน ชีวิตคนทั้งคน ก็ไม่ได้อยากมาจบชีวิตแบบนี้ อีกทั้งในพื้นที่ก็เป็นเขตชุมชน คนที่เขาไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ถ้าเขาโดนลูกหลงจะทำอย่างไร นอกจานี้ วันที่ 21 ก.ย.64 ตนก็เพิ่งถูกกลุ่มคนก่อเหตุ ไล่กวดจากที่โรงเรียน เพราะพวกเขาได้ไปดักรอ จนตอนนี้ต้องเรียนออนไลน์ ไม่กล้าไปเอาเอกสารที่โรงเรียน

939281

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ สั่งการให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูล เพราะมีญาติของผู้เสียหายเข้ามาลงบันทึกประจำวัน โดยให้ข้อมูลว่าทั้ง 2 ฝ่ายน่าจะมีเรื่องกันมาก่อน เลยตามไล่กวนกัน เบื้องต้นยังไม่ได้เรียกใครมาสอบปากคำเพิ่ม แต่จะต้องเรียกผู้เสียหายเข้ามาพูดคุย  และชี้ตัวผู้ก่อเหตุ เนื่องจากภาพกล้องวงจรปิดไม่ค่อยชัด อีกทั้งผู้ก่อเหตุยังสวมหมวกกันน็อกเต็มใบ หากมีความชัดเจนก็จะแจ้งข้อหาการพกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถ้าตรวจสอบว่ามีการใช้ปืนจริง ก็จะโดนข้อหาใช้อาวุธปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตด้วย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส