ตำรวจงัดภาพซ้อปลาหิ้ว 10 ล้านเข้าแบงก์ไม่ฝาก - ซ้อพาสิระดูจุดถูกอุ้มสูญ 5 ล้าน (คลิป)

23 ก.ย. 64

จากกรณีวันที่ 20 ก.ย.64 แม่ค้าออนไลน์ออกมาร้องเรียนขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจังหวัดสงขลา ที่บุกเข้าไปตรวจค้นในบ้าน พร้อมยึดเงินสดจำนวน 10 ล้านบาท และทองรูปพรรณน้ำหนักอีกประมาณ 60 บาท จากนั้นมีการควบคุมตัวแม่ค้าออนไลน์ไปเจรจาที่เซฟเฮ้าส์แห่งหนึ่ง ก่อนจะมีการต่อรองโดยอ้างว่าให้ประสานกับนายใหญ่เพื่อเคลียร์คดีก่อนจะขอยึดเงินสด 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนั้น

116885

ล่าสุด วันที่ 23 ก.ย. 64 น.ส.กลมวรรณ ปิ่นทองพันธุ์ หรือ ซ้อปลา ผู้เสียหาย เจ้าของเพจ "ซ้อปลา มาดามลูกเหนียง" พร้อม ครอบครัว และทนายความ เดินทางมายังสนามบินนานาชาติ หาดใหญ่ โดยได้นำหนังสือร้องเรียนยื่นให้กับ นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ที่จะเดินทางมาถึง สนามบินนานาชาติหาดใหญ่ ในเวลา 11.30 น.

922452

โดยในเวลาต่อมาทาง นายสิระ เจนจาคะ เดินทางมาถึงสนามบิน โดยได้เข้าพูดคุยกัน ซ้อปลากล่าวว่า "อยากให้ช่วยเหลือไม่ไว้ใจใคร เนื่องจากตนเองโดนกลุ่มคนทั้ง 6 คนนำตัวไปยังเซฟเฮาส์ ยืนยันว่าจำหน้าได้ทุกคน" ทางด้านนายสิระยืนยันจะช่วยเหลือเร่งประสานอย่างเต็มที่ เพื่อตรวจสอบการกระทำดังกล่าว

584790

ขณะเดียวกันทางด้าน นายสิระได้ทำการโทรศัพท์สายตรงไปยัง พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 โดยได้สอบถามถึงความคืบหน้าต่าง ๆ โดยทางด้าน พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 กล่าวว่า ขณะนี้ให้ทางเจ้าหน้าที่ทางจังหวัดสงขลาในการดำเนินเรื่อง รวบรวมหลักฐานของทั้งสองฝ่าย และยังคงต้องตรวจสอบการกระทำผิดของทั้งสองฝ่าย เนื่องจากภาพกล้องวงจรปิดและภาพเจ้าหน้าที่ลงปฏิบัติหน้าที่ยังมีการให้การที่ดูขัดแย้งกัน และมีหมายค้นอย่างชัดเจน โดยจะต้องตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง โดยแนะนำให้ผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในชุดปฏิบัติการสืบจังหวัดสงขลาได้ทันที

916082

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวพยายามสอบถามรายละเอียดข้อมูลจาก น.ส.กลมวรรณ ถึงการตรวจสอบตามกล้องวงจรปิด ขณะที่เดินทางไปยังเซฟเฮาส์ หรือเดินทางกลับบ้าน โดยได้ตอบกลับทางทีมข่าวเพียงว่า "ถ้าหากว่าตนเองได้รับเงินมาครบ 10 ล้านนั้น ตนเองไม่มาวิ่งเต้นเรื่องนี้อย่างแน่นอน" ตามที่นายสิระชี้แจงไป ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ให้คุยกับทนายเท่านั้น" มีท่าทีที่เปลี่ยนไปจากเดิม ไม่ได้ให้การตอบหรือให้ข้อมูลพูดคุยกับสื่อ มอบให้ทนายเป็นผู้พูดแทนทั้งหมด

792861

ด้านนายไกรสร ชูเพชร ทนายความ กล่าวว่า ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคดีนี้ โดยตนเองได้ยื่นเรื่องเสนอขอให้นายสิระช่วยเหลือ ดูแลการทำงานของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มงวด ให้ทางด้าน น.ส.กมลวรรณ ลูกความของตน ได้รับความเป็นธรรมมากที่สุด โดยจะต้องเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมของเรื่องประเด็นเงินที่หายไป ยืนยันว่าไม่ได้กลับคืนมาอย่างแน่นอน มินเช่นนั้นผู้เสียหายจะไม่ดำเนินการร้องทุกข์อย่างแน่นอน 

โดยทีมข่าวพยายามถามถึงเรื่องที่เจ้าหน้าที่พาไปส่งยังธนาคารหลังจากขับรถออกจากเซฟเฮาส์ ทางด้านนายภูภัณฑ์ ทนาย ได้สวนตอบกลับทันที ระบุว่าคาดว่าเจ้าหน้าที่อาจจะกังวลว่า น.ส.กมลวรรณ ผู้เสียหาย จะดำเนินการเดินทางไปแจ้งความ จึงขับรถตามไป ข้อเท็จจริงอาจจะบิดเบือนไปได้ ตนเองยืนยันว่าทางทนายมีหลักฐานสำคัญยืนยันว่าชุดปฏิบัติการชุดนี้มีความผิดปกติ สามารถเอาผิดกับชุดปฏิบัติการสืบชุดนี้ ส่วนเรื่องหนังสือบันทึกคืนทรัพย์สินนั้น ทางด้าน น.ส.กมลวรรณ ระบุว่า "เจ้าหน้าที่ขู่ให้เซ็น โดยนำกระดาษ A4 ปิดเอาไว้ ตนก็ไม่ได้อ่านข้อความรายละเอียดทั้งหมด"

957553

เวลา 18.10 น. นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เดินทางไปยังซอยกาจญวานิช 69 ต.เขารูปช้าง อ.เมืองสงขลา ข.สงขลา พบบ้านเลขที่ 203 เป็นบ้านชั้นเดียวภายในซอยมืดเงียบสนิท โดยหน้าประตูทางเข้าติดป้าย ชุดปฏิบัติการ 1 กองกำกับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา (กก.สส.ภจ.สงขลา ) ซึ่งได้เดินตรวจสอบ ภายในบ้าน ตรวจสอบป้ายดังกล่าวว่ามีการติดตั้งใหม่หรือไม่

123001476989

ด้าน น.ส.กมลวรรณ ปิ่นทองพันธุ์ หรือ ซ้อปลา ผู้เสียหาย และครอบครัว พร้อมทนาย เดินทางมายังเซฟเฮาส์เช่นกัน เปิดเผยกับนายสิระว่า น.ส.กมลวรรณ, นายจตุพล สามี และน้องสาว ถูกนำตัวพร้อมเงินมายังบ้านหลังนี้ โดยในขณะที่มาถึงบ้านนั้นในวันดังกล่าว แตกต่างจากวันนี้โดยสิ้นเชิง เนื่องจากวันดังกล่าวไม่ได้มีการติดป้าย จากนั้น ซ้อปลาวาดแผนผังภายในเซฟเฮาส์ให้นายสิระรับทราบถึงลักษณะภายในบ้านของชุดปฏิบัติการชุดดังกล่าว

107803

ด้านนายสิระ ยอมรับว่า คล้ายกับเคสของทางด้าน ผกก.โจ้ จริง แต่อย่างไรก็ตามคดีนี้ผู้เสียหายหวาดกลัว กลัวกังวลไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากในหมายค้นเป็นการตรวจสอบตรวจค้นคาดว่าเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติด และเมื่อตรวจสอบไม่พบความผิดเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยได้มีการกักตัวผู้เสียหายนั้น ไม่ควรกระทำได้เนื่องจากไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดเลย เรื่องนี้ยืนวันว่าไม่ใช่เรื่องเล็ก เนื่องจากศาลระบุให้ตรวจค้นบ้าน ภายในหมู่ 2 แต่มาตรวจค้นบ้านที่หมู่ 4 ถือว่าขัดคำสั่งขอศาล

อีกทั้งฝากเตือนถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ต่าง ๆ ขออย่ามีเลยเซฟเฮาส์ ทุก สน. และ สภ. มีพื้นที่ในการทำการสอบสวนสืบสวนเยอะ อย่าทำ ควรเลิกได้แล้วมีเซฟเฮาส์ มีไปก็ ผิด พ.ร.บ. ถือว่าเป็นการป้องกันการอุ้มหายอีกด้วย อีกทั้งคดีอุ้มหายก็มีให้เห็นอยู่ตั้งมากมาย บุคคลพวกนี้ต้องติดคุกทั้งหมด โดยในคดีนี้จะนำเข้ากระบวนการตรวจสอบให้กับทางกองปราบในการดำเนินการจัดการคดีต่อไป

524300

พ.ต.ต. สาทิด ดวงดี สว.สส ภจว.สงขลา เปิดเผยว่า ก่อนที่จะลงพื้นที่ไปยังบ้านหลังดังกล่าวนั้นได้มีการสืบหาข้อมูลจากชาวบ้าน ข้อมูลสื่อโซเชียล และข้อมูลต่างในแนวทางสืบสวน พบว่าบ้านหลังดังกล่าวอาจจะมีการกระทำความผิดกฎหมาย จึงได้อนุมัติหมายค้นจากศาล โดยในวันที่ 10 ก.ย.64 โดยมี พ.ต.ท. ขวัญชาติ จันทะ สว.สส ภจว.สงขลา ได้มีการนัดประชุมทีมก่อนที่จะลงพื้นที่ โดยจะต้องตรวจค้นบ้านทั้ง 2 หลังในพื้นที่ โดยตนเป็นหัวหน้าชุดค้นหาหลังที่ 1 และ พ.ต.ท.ขวัญชาติ เป็นหัวหน้าชุด หลังที่ 2 คือหลังที่มีปัญหา

791551

โดยในวันที่ 10 ก.ย.64 เวลา 06.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ถึงพื้นที่บ้านหลังดังกล่าว และได้นำหมายค้นเดินไปยังบ้านเลขที่ 8 โดยให้เจ้าหน้าที่ที่เหลือรออยู่นอกบ้าน ซึ่งได้มีการเคาะประตู เรียกผู้อยู่อาศัยภายในบ้าน อีกทั้งได้ทีการชูเอกสารหมายค้นผ่านกล้องวงจรปิดให้เจ้าของบ้านตรวจสอบเบื้องต้น อีกทั้งยืนยันได้ว่าขณะนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจค้นบ้านหลังที่ 2 บ้านเลขที่ 8 นั้น เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีการพกพาอาวุธปืนติดตัวไป ซึ่งตนเองยอมรับว่าพกพาอาวุธปืนยาวไปเนื่องจากทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวอาจจะมีอาวุธปืน จึงต้องพกพาอาวุธของทางราชการติดไปด้วย เพื่อเป็นการป้องกันตัวและป้องกันทีม

168803384010

โดยเวลาประมาณ 06.15 น. ทางผู้พักอาศัยได้ออกมาหน้าบ้าน โดยมี น.ส.กมลวรรณ และนายจุมพล และคนในครอบครัว ออกมาเปิดบ้าน และยืนอ่านหมาย และเปิดบ้านให้เข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่ได้เดินเข้าตรวจค้นใช้ระยะเวลาประมาณนานร่วม 2 ชั่วโมง โดยได้มีการยึดเงินจำนวนหนึ่ง ทองคำ และพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งสาเหตุในการตรวจยึด โทรศัพท์มือถือนั้น เนื่องจากเป็นการป้องกันหากมีพยานหลักฐานใด ๆ ในโทรศัพท์ อาจจะมีโอกาสทำลายพยานหลักฐานจากโทรศัพท์มือถือทิ้งไป จึงจำเป็นต้องทำการนำยึดเอาไว้เพื่อตรวจสอบ

563523

ต่อมาได้มีการเชิญตัว น.ส.กมลวรรณ นายจุมพล และน้องสาว โดยไม่ได้มีการใช้เครื่องพันธนาการ หรือการใช้อุปกรณ์จับดุมใด ๆ โดยได้มีการให้นายจุมพลขับรถส่วนตัวไป และน.ส.กมลวรรณ และน้องสาว นั่งรถเจ้าหน้าที่ พร้อมกับเงินภายในรถ เดินทางไปยัง เซฟเฮาส์ ที่ทำการดังกล่าว เวลา 08.00 น. โดยถึงเซฟเฮาส์ที่ทำการของเจ้าหน้าที่ เวลา 08.30 น. ตนเองยืนยันได้ว่าไม่มีการข่มขู่บังคับให้เซ็นเอกสาร โดยได้ให้ผู้เสียหาย ได้อ่านเอกสารก่อนแล้ว โดย พ.ต.ท.ขวัญชาติ ได้มีการตรวจสอบข้อมูลในโทรศัพท์มือถือ เงิน และเครื่องสำอางที่ได้ทำการยึดมา โดยได้มีการตรวจสอบ ด้วยตัวเอง พร้อมผู้เสียหายทั้ง 2 คน ได้ทำการตรวจเช็กทรัพย์สินทั้งหมดที่ได้ทำการตรวจยึดมา และยืนยันครบทั้งสิ้น

113033981122933301336905593086604870

โดยขณะที่อยู่ภายในเซฟเฮาส์หรือที่ทำการนั้นไม่ได้มีการจับกุมใด ๆ ผู้เสียหาย จนกระทั่งตรวจสอบเสร็จ ทางด้าน น.ส.กมลวรรณพร้อมครอบครัว เดินถือตระกร้าเงินพร้อมของที่ได้ทำการยึดมาทั้งหมดนำกลับใส่รถ กระบะคันสีดำที่ได้ขับมา โดยเดินทางออกจากเซฟเฮาส์พร้อมเจ้าหน้าที่ เวลา 11.00 น. จ้าหน้าที่แนะนำให้เดินทางไปยังธนาคาร เพื่อนำเงินไปฝากให้สามารถ ตรวจสอบจำนวนเงินทั้งหมด 10 ล้านบาท ว่าถูกต้องครบตามจำนวนหรือไม่ โดยเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการอำนวยความสะดวก ในการขับรถตามไปยัง ธนาคารกรุงไทย เพื่อไปส่ง น.ส.กมลวรรณ และนายจุมพล ไปยังธนาคาร

145281

และเวลา 11.40 น. กลับมาอีกครั้งยังเซฟเฮาส์หรือที่ทำการดังกล่าวเพื่อมารับตัวน้องสาว และกลับบ้านของ น.ส.กมลวรรณ ด้วยรถกระบะสีดำส่วนตัว ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ตามตรวจสอบยังกล้องวงจรปิด ตรวจสอบการทำธุรกรรมทางการเงิน ยอมรับว่า น.ส.กมลวรรณ เดินทางเข้าไปยังธนาคารจริง แต่ไม่ได้มีการทำธุรกรรมทางการเงิน ได้จอดรถไว้ที่ลาดจอดรถธนาคาร และไม่นำเงินฝาก โดยตนเองสงสัยว่า หลังจากที่กลับมาถึงเซฟเฮาส์ที่ทำการนั้น ตนเองได้สอบถามว่านำเงินฝากเรียบร้อยหรือไม่ น.ส.กมลวรรณ ได้ตอบกลับมาว่า "ดำเนินการเรียบร้อย ไม่มีอะไร" ตนเองมองว่ามีความโต้แย้งกัน การเดินทางไปยังธนาคารหอบเงินและทรัพย์สินที่ยึดมาทั้งหมดและนำกลับไป โดยไปธนาคารแต่ไม่ได้มีการทำธุรกรรมใด ๆ

894554789595

จากการตรวจสอบบนโซเชียล เฟซบุ๊กของซ้อปลา มีการโพสต์เกี่ยวกับการทำธุรกิจต่าง ๆ ร่วมถึงมีการร่วมวงแชร์และให้ดอกเบี้ยด้วยนั้น

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส