กรณีโลกอนนไลน์แชร์คลิปวิดีโอที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ได้ ขณะที่ชายฉกรรจ์แต่งตัวคล้ายพนักงานส่งของ สวมหมวกกันน็อกเต็มใบปิดบังใบหน้า ก่อนจะเข้ามาพังร้านหมึกย่างและทำลายข้าวของ ที่ตั้งอยู่หน้าปากซอย 6 ถนนประชาบำรุง เขตเทศบาลเมืองพัทลุง ทำให้อุปกรณ์ทำครัวต่าง ๆ ตกเกลื่อนบนพื้นถนน
หลังจากนั้น ชายฉกรรจ์ ยังได้ใช้มือดึงตู้กระจก และทุ่มคว่ำลงพื้น และกวาดถ้วยชามลงพื้น ก่อนจะนำขวดโหลใส่น้ำจิ้มซีฟู้ด สาดเข้ามาภายในร้าน และเดินมาพังถังน้ำแข็งสีน้ำเงินทุ่มลงกับพื้นจนพอใจ จากนั้นก็รีบขี่รถจักรยานยนต์ออกไป แต่ในจังหวะที่ทำลายข้าวของ รองเท้าของชายฉกรรจ์หลุดเข้าไปหลังร้าน ทำให้ผู้ก่อเหตุวนรถกลับเข้ามาพังร้านอีกครั้ง และเข้าไปเอารองเท้าข้างในร้าน แล้วจึงขี่รถออกไป
ล่าสุดวันที่ 22 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายัง ร้านหมึกลวกจิ้ม บริเวณถนนประชาบาล ซอยประชาบำรุง ต.คูหาสวรรค์ อ.เมือง จ.พัทลุง พบว่าร้านค้ากำลังตั้งร้านเปิดตามปกติ พร้อมสำหรับเปิดค้าขาย ส่วนข้าวของที่เสียหายนั้นได้นำออกไปจากร้านเรียบร้อย แต่ยังไม่พบ น.ส.ยูบี ชุมพิบูลย์ อายุ 47 ปี เจ้าของร้าน
ทีมข่าวได้พูดคุยกับนางรัตนากร หนูพรหม อายุ 47 ปี เพื่อนเจ้าของร้าน กล่าวว่า ตนเป็นเพื่อนกันมานานตั้งแต่สมัยเรียน โตมาด้วยกัน เดิมธุรกิจนี้เป็นของครอบครัวของ น.ส.ยูบี และตนก็เข้ามาช่วยทำธุรกิจ ซึ่งตนทราบว่า น.ส.ยูบี ได้กู้ยืมเงินนอกระบบ เมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา จำนวน 30,000 บาท และได้ทยอยจ่ายอยู่ตลอด สัปดาห์ละ 1,000 บาท แต่ตนก็ไม่ทราบว่ากำหนดครบกี่งวด ซึ่งเพื่อนของตนก็จ่ายตรงมาโดยตลอด ไม่เคยมีปัญหา และตลอดระยะเวลา หลายเดือนที่ผ่านมาก็ไม่เคยเจอเจ้าหนี้ หรือแก๊งทวงหนี้มาที่ร้าน
กระทั่งเมื่อวานนี้ (21 ก.ย.64) น.ส.ยูบี ก็ยังมีเงินไม่เพียงพอสำหรับการจ่าย จึงได้มีการโทรศัพท์ไปพูดคุยกับเจ้าหนี้ก่อนที่ชายฉกรรจ์จะเข้ามาพังร้าน โดยข้าวของพังเสียหายหลายอย่าง กระติกน้ำแข็งถลอก, ถาดสี่เหลี่ยมสำหรับวางอาหารสด 2 ใบ พังเสียหาย, ขวดโหลแก้วน้ำจิ้มขนาดใหญ่ 2 ใบ, เต้าหู้ 1.5 กิโลกรัม, หอยแครงสด 5 กิโลกรัม และปลาหมึกสด 5 กิโลกรัม มูลค่าความเสียหาย 3,000 บาท
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยัง สภ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง จึงมีโอกาสพูดคุยกับ น.ส.ยูบี ชุมพิบูลย์ อายุ 47 ปี เจ้าของร้าน เปิดเผยว่า ตนไม่ได้กู้ยืมเงินหรือเป็นหนี้นอกระบบ แต่เป็นการหยิบยืมจากเพื่อนที่รู้จัก จำนวน 50,000 บาท ผ่อนจ่ายมาโดยตลอด สัปดาห์ละ 1,000 บาท ไม่มีดอก เป็นระยะเวลาผ่านมา 1 ปี กระทั่งผ่อนเหลือ 33,000 บาท แต่เพื่อนต้องการใช้เงิน จึงได้ให้หลานชายที่ปรากฏในคลิป ออกมาทวงหนี้ที่ร้าน
โดยก่อนหน้านี้ ตนก็ได้แจ้งไปยังเจ้าหนี้แล้วว่า "เดี๋ยวจะโอนเงินให้ แต่ขณะนี้สถานการณ์โควิด-19 ยังมีเงินไม่เพียงพอ อีกทั้งก็ยังขายของไม่ได้ จึงติดต่อพี่สาวให้จัดการให้หน่อย ตกลงโอนเงินให้ไปก่อนแล้ว แต่หลานของเจ้าหนี้ไม่รู้ บังคับให้จ่าย 1,000 บาท"
ทั้งนี้ หลานของเจ้าหนี้ก็ได้พังข้าวของที่ร้านพังเสียหาย ประเมินราคาของเสียหายและรวมรายได้ต่อวัน ประมาณ 15,000 บาท ตอนนี้ตนและเจ้าหนี้ได้พูดคุยตกลงไกล่เกลี่ยกันเรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าหนี้ได้ยกยอดหนี้สินทั้งหมด 33,000 บาทให้ ก่อนจะแจ้งว่าหลานชายตามมาทวงหนี้ และทำลายร้านพังเสียหาเกินกว่าเหตุ ตนจึงถอนแจ้งความเรียบร้อยแล้ว