กรณีเพจเฟซบุ๊ก “เจ๊ม้อย v plus” แชร์ข้อความตามหา นายดอน คนร้ายก่อเหตุขโมยโทรศัพท์เพื่อนและแชตหา น.ส.เฟิร์น อายุ 15 ปี เป็นทอมบอย อ้างจะขายรถจักรยานยนต์ให้ในราคา 3,000 บาท ทำร้ายร่างกายและพยายามจะข่มขืน แต่น.ส.เฟิร์น ว่ายน้ำหนีจึงรอดมาได้ ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมนายดอน ประเสริฐศรี อายุ 40 ปี ผู้ก่อเหตุได้แล้วเมื่อคืนที่ผ่านมา (21 ก.ย. 64) ตามที่นำเสนอข่าวไปนั้น
วันที่ 22 ก.ย. 64 เวลา 14.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวนายดอน ประเสริฐศรี ผู้ต้องหา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่อะพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 11 ซึ่งด้านหน้าเป็นคลองระบายน้ำ
โดยจุดเกิดเหตุภายในห้องพักชั้น 2 นายดอนชี้จุดด้านในห้องพัก อ้างว่าได้ชักชวน น.ส.เฟิร์น เข้ามาในห้อง แล้วตีเข่า ล็อกคอจับนอนหงาย โดยฝ่ายหญิงต่อสู้ด้วยการกัดนิ้ว จึงต่อยหน้า 4-5 ครั้ง ฝ่ายหญิงร้องเสียงดังจึงใช้ผ้าปิดปาก จากนั้นลากไปที่หน้าห้องน้ำ เปิดน้ำในห้องน้ำเพื่อกลบเสียง เมื่อเห็นว่า น.ส.เฟิร์น เลือดไหลเต็มหน้า จึงตกใจวิ่งหนีออกไปข้างนอก พร้อมหยิบโทรศัพท์มือถือฝ่ายหญิงออกไปด้วย
นายดอนยังชี้จุดหลบหนีด้านหน้าอะพาร์ตเมนต์ โดยวิ่งผ่านสะพานไม้ข้ามคลอง ออกไปด้านหน้าถนนหลัก ทีมข่าวพยายามสอบถามนายดอนว่าต้องการขอโทษผู้เสียหายหรือไม่ แต่นายดอนไม่ตอบคำถามใด ๆ
พ.ต.อ.ภัสพงษ์ บุตรไทย ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ กล่าวว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าล่อลวงให้ผู้เสียหายออกมาจากบ้าน อ้างว่าจะขายรถจักรยานยนต์ให้ ทั้งที่ไม่ได้มีรถอยู่จริง ก่อนจะพามาที่เกิดเหตุหวังข่มขืน แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอม ผู้ต้องหาจึงทำร้ายร่างกาย
โดยผู้ต้องหาถือเป็นบุคคลที่เป็นภัยต่อสังคม อาจจะเคยก่อเหตุมาแล้วหลายครั้ง จึงฝากประชาสัมพันธ์ว่าหากเคยถูกกระทำในลักษณะเดียวกัน สามารถมาดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.ราษฏร์บูรณะ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการทุกคดี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จับไอ้หื่นลวงซ้อมสาวทอมโดดน้ำหนีโคม่า ญาติแค้นฮือทืบคาโรงพัก เหยื่อขืนใจโผล่
นายสัมพันธ์ ศิริวรรณ อายุ 53 ปี เจ้าของอะพาร์ตเมนต์ เล่าว่า ห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องว่าง ไม่ได้ล็อกเอาไว้ เพราะเจ้าของเก่าเพิ่งย้ายออกไปประมาณครึ่งเดือน โดยนายดอนเคยเป็นลูกน้องตน และเคยมาที่อะพาร์ตเมนต์ 1 ครั้ง คาดว่าเจ้าตัวก็น่าจะรู้ว่าห้องนี้ว่าง จึงเลือกมาก่อเหตุ โดยหลังเกิดเหตุมีลูกบ้านแจ้งไปว่ามีคนมามั่วสุมและทำร้ายกัน ตนจึงเข้ามาตรวจสอบ พบเลือดเต็มห้อง ยังคิดว่าอาจจะเป็นเรื่องยาเสพติด จึงเข้าทำความสะอาดโดยไม่ได้เอะใจ
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่านายดอนมาก่อเหตุทำร้ายร่างกายผู้หญิงในห้องของตนก็ตกใจมาก ที่ผ่านมานายดอนเป็นลูกจ้างให้กับครอบครัวตนตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่น จากนั้นก็ออกไปเพราะติดยาเสพติด เข้าออกคุกตลอด จนช่วง 2 เดือนที่ผ่านมานายดอนกลับมาของาน น้องสาวตนจึงให้ทำงานก่อสร้างที่อะพาร์ตเมนต์อีกแห่ง ฝั่งตรงข้ามสุขสวัสดิ์ 35 โดยไม่คิดว่านายดอนจะมีพฤติกรรมแบบนี้
ทั้งนี้ ตนทราบว่าก่อนเกิดเหตุนายดอน ยังก่อเหตุบุกเข้าไปในห้องลูกบ้าน อะพาร์ตเมนต์ของน้องสาว โดยเคาะประตูช่วงเวลา 03.00-04.00 น. เมื่อฝ่ายหญิงเปิดประตูนายดอนก็เข้าไปหวังข่มขืน แต่ไม่รู้รายละเอียด เพราะลูกบ้านย้ายออกทันทีหลังเกิดเหตุ
ด้านนางเจน (นามสมมติ) ผู้อาศัยในอะพาร์ตเมนต์ที่เกิดเหตุ เล่าว่า คืนเกิดเหตุได้ยินเสียงดังปึงปัง และมีเสียงผู้หญิงร้องโอดโอย ตนจึงเดินออกมาดูที่ห้องเกิดเหตุ มองลอดผ่านช่องหน้าต่างบานเกล็ด พบนายดอน ผู้ต้องหา อยู่กับผู้หญิงภายในห้อง นายดอนตะโกนออกมาว่า "แฟนผมเอง มันไม่ยอมกลับบ้าน" แต่ตนเห็นว่ามีเลือดในห้องจึงตัดสินใจเดินขึ้นไปหาเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ที่ชั้นบน แต่เจ้าของอะพาร์ตเมนต์ไม่อยู่ จึงเดินกลับลงมา
ขณะนั้นนายดอนได้วิ่งลงไปชั้นล่าง พร้อมตะโกนขึ้นมาว่า "ถ้าออกมามึงโดนแน่" ตนจึงมองเข้าไปในห้องพัก พบว่าผู้หญิงขังตัวเองไว้ในห้องน้ำ และร้องครวญครางเสียงดัง ตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงเดินกลับเข้าไปที่ห้องตัวเอง
จากนั้นยังได้ยินเสียงดังปึงปัง ไม่มั่นใจว่านายดอนกลับมาอีกรอบหรือไม่ และมีเสียงปังสุดท้ายคาดว่าน่าจะเป็นช่วงที่ผู้หญิงวิ่งหนีออกไป ตนก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงกระโดดน้ำหนีหรือไม่ เพราะด้านหน้าอะพาร์ตเมนต์เป็นคลองระบายน้ำ
น.ส.สกุณา สุชาติ อายุ 34 ปี แม่ของ น.ส.เฟิร์น เล่าว่า วันนี้เพิ่งได้เข้าเยี่ยมลูกครั้งแรก ลูกสาวเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนายดอน ซึ่งเป็นคนรู้จักทักแชตเฟซบุ๊กของเพื่อนมาหาพร้อมบอกว่าจะขายรถจักรยานยนต์ โดยลดราคาจาก 5,000 บาท เหลือ 3,000 บาท มีการนัดให้ออกไปหากลางดึกที่วัดแก้วไพฑูรย์ ลูกสาวจึงเดินออกจากบ้านไปที่วัด เมื่อไปถึงวัดนายดอนยืนรออยู่ และเรียกแท็กซี่ให้มารับไปที่ซอยสุขสวัสดิ์ 35 จากนั้นได้ต่อยท้อง บีบคอ น.ส.เฟิร์น พยายามต่อสู้ อีกฝ่ายจึงต่อยหน้าและบีบคออีกครั้ง พยายามจะถกกางเกง น.ส.เฟิร์น จึงวิ่งหนีออกมา แล้วกระโดดลงคลองก่อนว่ายน้ำหนี ระหว่างนั้นนายดอนยังวิ่งตาม แต่มีพลเมืองดี 3 คนเข้ามาช่วยไว้ และเรียกแท็กซี่ให้พากลับบ้าน
โดยอาการ น.ส.เฟิร์น ตอนนี้ยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากกรามแตก ตายังลืมไม่ขึ้น นิ้วโป้งซ้ายแตกต้องดามเหล็ก กินได้แค่อาหารเหลว และยังร้องไห้ด้วยความผวา พยาบาลแจ้งว่า เมื่อคืนน้องเฟิร์นร้องไห้หาแม่ทั้งคืน โดยหลังจับกุมนายดอนได้ ก็อยากให้เอาเรื่องถึงที่สุด เพราะน้องไม่ได้โดนคนเดียว กลัวจะออกมาก่อเหตุกับคนอื่นอีก
จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปที่ซอยรุ่งเรือง จุดที่นายดอนเคยทำงานและพักอาศัย โดยนางน้อย (นามสมมติ) เพื่อนบ้าน เล่าว่า ตนอาศัยอยู่ที่ห้องเช่าแห่งเดียวกับนายดอน ที่ผ่านมานายดอนก็อัธยาศัยดี ไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร ซึ่งเมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา หลานสาววัย 14 ปีของตน และเด็กชายวัย 2 ขวบที่อยู่ห้องติดกันหายไป พวกตนจึงออกตามหาเกือบชั่วโมง สุดท้ายพบหลานสาวอุ้มเด็กชาย 2 ขวบกลับมาที่บ้าน ตนพยายามสอบถาม แต่หลานไม่ยอมเล่าให้ฟังว่าหายไปไหน
กระทั่งเมื่อวานนี้ 21 ก.ย. 64 หลังหลานรู้ข่าวว่า ตำรวจกำลังตามล่านายดอน หลานจึงยอมบอกว่าวันที่หายไป นายดอนอุ้มเด็กชายวัย 2 ขวบเข้าห้อง ตัวเองจึงตามไปหาน้องแต่หลบอยู่ใต้บันไดไม่กล้าเข้าไป จนมีเพื่อนนายดอนมาบอกว่าญาติกำลังตามหาเด็ก นายดอนจึงยอมปล่อยน้อง 2 ขวบออกมา หลานสาวตนจึงอุ้มน้องกลับมาที่บ้าน หลานสาวยังบอกว่า นายดอนเคยจับหน้าอกและหอมบริเวณศีรษะด้วย แต่ตัวเองไม่กล้าบอกใครด้วยความกลัว ตนคิดว่านายดอนเป็นบุคคลอันตราย หากยังปล่อยให้ลอยนวล ตนก็คงจะเป็นห่วงหลานมาก เพราะอีกฝ่ายอาจจะเข้ามาก่อเหตุกับหลานของตนได้
