ล่าสาวร้านเสริมสวย ขับรถชนดะอ้างสีไม่ถูกโฉลก ผู้คนผวาเคยบุกพังบ้านแล้วหนี (คลิป)

กรณีแฟนเพจเฟซบุ๊ก เจ๊ม้อยv plus เผยแพร่คลิปจากกล้องวงจรปิด ที่มีรถยนต์ฮอนด้า เอชอาร์-วี สีเทาดำ ขับพุ่งชนรถยนต์ 2 คันที่จอดอยู่ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ ซอยสวนผัก 15 แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชันกรุงเทพฯ โดยคลิปดังกล่าวเจ้าของรถที่ถูกชนได้ส่งไปให้ทางแฟนเพจ เพื่อร้องเรียนการกระทำของเจ้าของรถยนต์คันดังกล่าว เป็นช่างเสริมสวยที่มาขอเช่าที่เปิดเป็นร้านเสริมสวย

สำหรับข้อความที่ผู้เสียหายร้องเรียนเข้ามา ระบุว่า "ขับรถพุ่งชนรถคันอื่น! มีปัญหาอะไรก็ควรคุยด้วยเหตุผล ไม่ควรใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง ขับมาพุ่งชนแล้วก็หนีไปดื้อ ๆ สวนผัก ตลิ่งชัน สวัสดีครับ ช่างเสริมสวยอารมณ์เสียแล้วก็มาระบายอารมณ์กับเจ้าของบ้าน ทุบทำลายบ้านเจ้าของบ้านที่ให้เช่ามา 3 ปี ก่อนหมดสัญญาและขับรถชนอัดก๊อปปี้รถเจ้าของบ้าน 2 คันพังยับเยิน ใจร้ายมาก ส่วนวันเวลาตามคลิปเลยครับ"

ล่าสุดวันที่ 22 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุตามกล้องวงจรปิด ที่ซอยสวนผัก 15 แขวงตลิ่งชัน เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ โดยที่เกิดเหตุเป็นบริเวณหน้าปากซอยที่มีร้านค้าและมีคนพลุกพล่านบนถนนแห่งนี้ ใกล้กันเป็นร้านเสริมสวยของผู้ก่อเหตุ

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ ลุงแดงและป้าดำ (นามสมมติ) เจ้าของรถคันที่ผู้ก่อเหตุขับชน และเป็นเจ้าของตึกที่ให้ผู้ก่อเหตุเช่าเปิดเป็นร้านเสริมสวย กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามกล้องวงจรปิด เป็นเหตุุการณ์ครั้งที่ 3 ส่วนครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อช่วงปลายเดือนธ.ค.63 ช่างทำผมคนดังกล่าวข่มขู่คนที่บ้าน เรื่องที่จอดรถคันสีแดงของตนที่จอดอยู่หน้าบ้านว่าให้เอารถออกไป เนื่องจากไม่ถูกโฉลกกับรถสีแดง

ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 คือเหตุการณ์เมื่อวันที่ 18 ก.ย.64 ช่างทำผมได้บุกเข้ามาพังข้าวของที่ร้านจนเสียหาย ซึ่งเหตุการณ์นี้มีพี่สาวและคนที่บ้าน ขายของกันอยู่ โดยวันเดียวกันนั้นตนก็ได้ไปแจ้งกับตำรวจให้มาควบคุมตัวช่างทำผมไปที่โรงพัก แต่ตำรวจก็ปล่อยช่างทำผมออกมา โดยอ้างว่าช่างทำผมรับสารภาพ ส่วนค่าเสียหายให้ไปฟ้องกันที่ศาล

หลังจากนั้น ในวันที่ 19 ก.ย.64 ตนจึงตัดสินใจติดกล้องวงจรปิด เพราะคิดว่าช่างทำผมจะย้อนกลับมาก่อเหตุอีกครั้ง แล้วช่างทำผมก็มาก่อเหตุจริง ๆ ตามคลิปเหตุการณ์ที่ขับรถมาชนรถของตนที่จอดไว้ทั้ง 2 คันและหลบหนีไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ตนยังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเขาก่อเหตุเพราะอะไรกันแน่ เพราะว่าตั้งแต่ที่ช่างทำผมเช่าตึกเปิดร้าน ตนไม่เคยได้คุยกันสักครั้ง

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีปัญญาอะไรกัน เรื่องที่จอดรถก็ไม่เคยห้ามให้จอดทั้งลูกค้าและตัวเขาเอง สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยอมรับว่ากลัว ผู้ก่อเหตุอาจจะย้อนกลับมาทำร้ายคนที่บ้านซ้ำ ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ทนายความจัดการติดตามเรื่องคดี เพราะที่บ้านอยู่กันอย่างหวาดระแวง

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสมเจตน์ ศรีสวัสดิ์ อายุ 65 ปี พี่สาวของผู้เสียหาย กล่าวว่า ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะมาขับรถชนรถของน้องชาย ตนนั่งปั้นขนมอยู่ในร้าน จู่ ๆ ผู้ก่อเหตุก็เดินไปทุบรถตู้คันสีแดงของน้องชาย แล้วก็เดินมาพังข้าวของที่ร้าน จากนั้นก็พยายามกระโดดถีบ ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อเดือนธ.ค.63 ผู้ก่อเหตุเคยเข้ามาข่มขู่ให้นำรถตู้คันสีแดงของน้องชายออกไปจากบริเวณข้างร้านของเขา ซึ่งเขาอ้างว่ารถคันสีแดงเป็นรถที่ไม่ถูกโฉลกกับร้านเขา ทำให้ลูกค้าไม่เข้าร้าน แต่รถตู้สีแดงของน้องชายได้จอดอยู่ตรงนี้ตั้งแต่ผู้ก่อเหตุยังไม่มาเช่าตึกเปิดร้านเสริมสวย

ส่วนวันเกิดเหตุที่ผู้ก่อเหตุขับรถชน ตนก็ได้ยินเสียง แต่คิดว่าเสียงนั้นเป็นเสียงรถเหยียบท่อน้ำเลยไม่ได้ลงไปดู จนเพื่อนบ้านโทรศัพท์มาบอกว่าผู้ก่อเหตุขับรถพุ่งชนรถของน้องชาย ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ยังงงอยู่ทุกวันนี้ว่าทำไมผู้ก่อเหตุถึงมาก่อเหตุแบบนี้ ทั้ง ๆ ที่ผู้ก่อเหตุก็เคยมาซื้อขนมที่ร้าน ส่วนครอบครัวของตนก็ยังเคยไปทำผมที่ร้านของเขาแม้แต่ครั้งเดียว