ไม่ผิดตัว! รวบโจ๋ยิงแสกหน้าหนุ่มคาสวนยาง ฉุนคนตายตบลูกน้อง แม่ร่ำไห้เคาะโลงลูกหลังจับมือฆ่า (คลิป)

20 ก.ย. 64

จากกรณี วันที่ 19 ก.ย.64 เวลา 08.00 น. ร.ต.อ.พงษ์ศักดิ์ แก้วสมบัติ ปฏิบัติหน้าที่พนักงานสอบสวน สภ.เชียงกลม ได้รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงเสียชีวิต

970562

ภายในพื้นที่การเกษตรห้วยเลา บ้านแก่งปลาปก หมู่ 4 ต.ชมเจริญ อ.ปากชม จ.เลย จึงรายงานให้ พ.ต.อ.วรเชษฐ์ จันทร์มา ผกก.สภ.เชียงกลม, พ.ต.ท.ชัชวัสส์ บุตรอินทร์ รอง ผกก(ป.), พ.ต.ท.สมนึก เหล่าจันดา รอง ผกก.(สอบสวน) และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจรุดตรวจสถานที่เกิดเหตุนั้น

935676

วันที่ 20 ก.ย. 64 ตำรวจได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัย ที่คาดว่าอยู่ภายในที่เกิดเหตุช่วงที่ผู้ตายเสียชีวิตได้ทั้งหมด 3 คน มาทำการสอบสวนที่โรงพักแล้วในช่วงเช้าวันนี้ คือนายแต๊ก ชาวบ้านแก่งปลาปก พร้อมชายชาวลาวชื่อนายแฮปปี้ และนายสร้อย

586087

ต่อมาเวลา 15.30 น. พ.ต.อ.วรเชษฐ์ จันทร์มา ผกก.สภ.เชียงกลม พร้อมด้วยทีมตำรวจรวม 10 นาย ได้คุมตัวนายวิทยา ผาลี หรือ แต๊ก อายุ 36 ปี ผู้ต้องสงสัยไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ พร้อมชี้จุดทิ้งอาวุธปืน บริเวณพื้นที่การเกษตรห้วยเลาบ้านแก่งปลาปก หลังจากที่ช่วงเช้าตำรวจทำการสอบสวนจนเจ้าตัวสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง

143160

นายวิทยาได้ทำการชี้จุดพร้อมสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง เนื่องจากวันเกิดเหตุ 18 ก.ย. ช่วงเวลา 21.00-22.00 น. ขณะที่ตนกำลังกรีดยางบริเวณพื้นที่ใกล้สวนยางของผู้ตาย รุ่นน้องชาวลาว นายแฮปปี้ และนายสร้อย ได้มาบอกกับตนว่าถูกผู้ตายยิงปืนข่มขู่ใส่โดยไม่ทราบสาเหตุ

166472

หลังตนทราบเรื่องจึงขี่รถไปตามหาผู้ตายแถวสวนยางที่ผู้ตายกรีดยาง เพื่อจะไปสอบถามว่าใช้ปืนยิงข่มขู่รุ่นน้องเพราะเหตุผลอะไร แต่ในขณะที่ตนขี่รถตามหา บังเอิญพบว่าผู้ตายขับรถกระบะสวนออกมาพอดีจึงเรียกคุย เมื่อผู้ตายลงจากรถถืออาวุธพกมาข่มขู่ตน ตะโกนด่าทอหาว่าตนไปยุ่งเกี่ยวกับแฟนสาวของผู้ตาย ทั้งที่ตนไม่เคยยุ่งเกี่ยวด้วย

cgcg-2

อีกทั้งขณะที่ตนพยายามอธิบาย ผู้ตายกลับไม่ยอมฟัง ใช้อาวุธปืนจะฟาดใส่ที่บริเวณใบหน้าของตน ตนจึงเอาแขนซ้ายขึ้นมารับไว้ ทำให้ขอซอกด้านซ้ายของตนมีแผลถลอก หลังจากนั้นด้วยความโมโห ตนลงจากรถจักรยานยนต์และชักอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 ยิงใส่ผู้ตายเข้าที่บริเวณหน้าผาก 1 นัดเสียชีวิต ก่อนทึ่จะนำอาวุธปืนที่ใช้ในการก่อเหตุใส่ถังแกลลอนขนาดเล็กไปทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน ห่างจากจุดที่ผู้ตายเสียชีวิตประมาณ 2 กิโลเมตร

181140

ช่วงที่ตำรวจคุมตัวนายวิทยาค้นหาอาวุธเสร็จสิ้น นายวิทยาพูดกับทีมข่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้มีเจตนาจะยิงผู้เสียชีวิตจนถึงแก่ความตาย แต่ที่ทำลงไปเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ หากมีโอกาสก็อยากจะขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตสำหรับการสูญเสียในครั้งนี้

145513

ด้าน พ.ต.อ.วรเชษฐ์ จันทร์มา ผกก.สภ.เชียงกลม ระบุว่า หลังจากการสอบสวนในช่วงเช้านายวิทยา หรือ แต๊ก ยอมรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุดังกล่าวจริง

158569

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ก่อเหตุเพิ่มเติม จำนวน 4 ข้อหา ในความผิดฐาน ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยที่ไม่รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะหรือหมู่บ้าน ยิงวุธปืนในหมู่บ้าน

126792

โดยตำรวจต้องทำการสอบสวนเป็นพิเศษ ค้นพบอาวุธปืนแก๊ปยาว 1 กระบอกภายในบ้าน ตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติด จึงทำการแจ้งข้อกล่าวหาในคดีเสพและมีอาวุธปืนที่ไม่สามารถตรวจสอบทะเบียนได้ด้วย ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมทางคดีมีการสอบสวนหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม หากเกี่ยวข้องก็จะมีการดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป

843596

นายวุฒิศักดิ์ (นามสมมติ) อายุ 41 ปี พี่ชายของนายแต๊ก เผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังทราบเรื่องตนก็รู้สึกตกใจที่น้องชายของตนต้องกลายมาเป็นคนที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตสงสัย ปกติแล้วน้องชายของตนเป็นคนนิสัยดี ไม่เคยมีปัญหากับใคร ไม่เคยเห็นน้องชายของตนและผู้ตายมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกัน ทั้งคู่ก็เสมือนเป็นเพื่อนบ้านกัน

ส่วนในกรณีที่ทีมข่าวได้รับรายงานมาว่าน้องชายของตนมีการยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดนั้น ยอมรับว่าเกี่ยวกับยาเสพติดจริง แต่ที่แม่ของผู้เสียชีวิตสงสัยว่าปมเหตุการเสียชีวิตอาจจะมาจากผู้เสียชีวิตติดค้างค่ายาเสพติดกับน้องชายตน ตนว่าไม่น่าใช่ ปมเหตุการเสียชีวิตจริง ๆ จะมาจากอะไรนั้นตนก็ยังไม่ทราบแน่ชัด ขอปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของตำรวจ หากผลสรุปออกมาแล้วว่าน้องชายของตนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆ่าผู้เสียชีวิตจริง ตนก็ต้องขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอยืนยันว่าหากน้องชายของตนผิดจริง จะไม่ขอช่วยคดี ปล่อยให้ถูกดำเนินดดีตามความผิด

157592

ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางไปยังบ้านของผู้เสียชีวิต ต.ชมเจริญ อ.ปากชม จ.เลย ช่วงเช้าเวลา 08.00 น. ครอบครัวได้เดินทางไปรับศพของผู้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล เหลือเพียงแม่ของผู้เสียชีวิตที่นั่งร้องไห้ คอยศพลูกมาตั้งสวดอภิธรรมศพอยู่ภายในบ้าน

500488

นางปัญญา วินากร แม่ผู้ตาย เผยว่า ผู้เสียชีวิตคือนายทนงศักดิ์ วินากรณ์ หรือ ออม อายุ 28 ปี ปกติแล้วตนกับสามีและลูกชาย ไปประกอบอาชีพขายลอตเตอรี่อยู่ที่ จ.ภูเก็ต มานานเกือบ 25 ปี กระทั่งช่วง 5 ปีที่ผ่านมาลูกชายได้ย้ายมาอยู่บ้านที่บ้านแก่งปลาปก หมู่ 4 ต.ชมเจริญ อ.ปากชม จ.เลย เพราะเศรษฐกิจที่ จ.ภูเก็ต ไม่ค่อยดี เนื่องจากโควิด-19 แพร่ระบาด ลูกชายจึงกลับมากรีดยางที่บ้าน

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวยังคงติดใจกับการเสียชีวิตของลูกในครั้งนี้ และเชื่อว่าเป็นการฆาตกรรม เนื่องจากวันที่ 15 ก.ย.ก่อนที่ลูกชายจะเสียชีวิต โทรศัพท์มาเล่าให้ตนฟังว่าลูกชายจะถูกคนลาว 2 คน และคนในหมู่บ้านที่ชื่อนายแต๊ก อีก 1 คน รวม 3 คน มาดักยิงที่สวนยาง เพราะลูกชายเคยไปเห็นกลุ่มคนดังกล่าวจะมาขโมยน้ำยาง ส่วนอีกกรณีหนึ่งคือ เรื่องค้างค่ายาเสพติด เนื่องจากลูกชายเคยเล่าให้ฟังว่าก่อนหน้านี้ไปขอซื้อยากับนายแต๊กและพวก และค้างเงินไว้เกือบ 3,000 บาท ตนจึงคาดว่าปมการก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะมาจากเรื่องปมติดค้างเงินด้วยหรือไม่

ตนยอมรับว่าลูกชายของตนติดยาเสพติดมานานหลายปี ตั้งแต่ที่ลูกชายยังทำงานอยู่ที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งตนเคยบอกให้ลูกเลิกเสพยามาแล้วหลายครั้ง แต่ลูกก็ไม่ยอมเลิก และอ้างว่าที่เลิกเสพยาไม่ได้ เป็นเพราะว่ารัก และขอให้ตนอย่าห้ามเจ้าตัวเสพ ตนในฐานะคนเป็นแม่จึงไม่รู้จะพูดอย่างไร เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายถึงที่สุด "ให้ผู้ก่อเหตุตายตกไปตามลูกชาย"

ทั้งนี้ คนเป็นแม่ก็ยังคงคิดถึงลูกและยังทำใจไม่ได้กับการจากไปอย่างกะทันหันของลูกชายในครั้งนี้ เนื่องจากวันที่ 18 ก.ย. หลังจากที่ตนเดินทางจาก จ.ภูเก็ต กลับบ้าน จ.เลย ช่วงหัวค่ำสามีก็ได้นำกับข้าวไปให้ลูกที่สวนยาง ก่อนช่วง 20.00-21.00น. สามีก็ได้เดินทางกลับบ้าน ตนก็เห็นความผิดปกติ คือเห็นเหมือนมีเงาดำลาง ๆ ตามสามีเข้ามาในบ้านด้วย พร้อมเคลื่อนไหวไปมาอยู่ที่บริเวณบ้าน ตนจึงเชื่อว่าเป็นวิญญาณของลูกชายตนที่หลังถูกยิงตามกลับมาบ้านด้วย เพื่อบอกกับคนในครอบครัวว่าเสียชีวิตแล้ว

665940

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวคนร้าย คือบุคคลที่ทางครอบครัวสงสัยมาตั้งแต่แรก นำไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพื่อดำเนินคดีต่อไป ตนก็รู้สึกดีใจเป็นอยากมาก ทั้งนี้ตนในฐานะผู้เป็นแม่ของผู้เสียชีวิตวอนขอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีเอาผิดให้ถึงที่สุด หากเป็นไปได้อยากให้ถึงขั้นประหารชีวิต เพื่อที่จะได้สาสมกับการกระทำที่ก่อไว้กับลูกชายของตน ส่วนในกรณีที่ผู้ก่อเหตุกล่าวอ้างว่าลูกชายใช้อาวุธปืนข่มขู่และทำร้ายก่อนนั้น ตนเชื่อว่าไม่เป็นความจริง อีกทั้งลูกชายของตนก็ตายไปแล้ว คงไม่สามารถลุกขึ้นมาพูดได้ว่าคำกล่าวอ้างของผู้ก่อเหตุเป็นความจริงหรือไม่

สุดท้ายนี้ ตนอยากบอกลูกว่า "ตำรวจจับคนร้ายได้แล้ว ขอให้ลูกไปดี หากชาติหน้ามีจริง ขอให้มาเกิดเป็นลูกของแม่อีก"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส