คดีพลิก! สาวโวยเจ้าหน้าที่บุกบ้านฉกเซฟ ปลัดโต้จับแก้งยาท้าแน่จริงอย่าหนี (คลิป)

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ข้อความอ้างว่ามีกลุ่มคน 7-8 คน แต่ไม่มั่นใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือผู้ร้าย บุกรุกเข้าไปในบ้านโครงการแห่งหนึ่ง ก่อนจะทำลายข้าวของพังเสียหาย อีกทั้งยังพบว่าไม่มีหมายค้นเพื่อเข้าตรวจสอบบ้านของประชาชนอีกด้วย กลายเป็นกระแสวิจารณ์และมีผู้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

ล่าสุดวันที่ 18 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังบ้านโครงการดังกล่าว ต.ละแม อ.ละแม จ.ชุมพร โดยจะเห็นได้ว่าบ้านหลังที่ปรากฏตามคลิปวิดีโอ เป็นบ้านเดี่ยว 1 ชั้น มีการติดกล้องวงจรปิดหน้าบ้าน 4 ตัว และข้างบ้านอีก 1 ตัว อีกทั้งกล้องวงจรปิดบางตัวถูกแหงนกล้องขึ้นชี้ฟ้า ภายในบ้านมีสุนัข ถึง 2 ตัว

โดยบริเวณภายในหมู่บ้าน บ้านเรือนต่าง ๆ ปิดเงียบสนิท และบ้านบางหลังออกไปทำงานไร้ผู้คน ขณะเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางเข้าไปพูดคุยกับ ร้านทำผมแห่งหนึ่ง จึงได้พบน.ส.แก้วตา (นามสมมติ) ระบุว่า ตนเปิดร้านเสริมสวยอยู่บริเวณแถวนี้ ซึ่งในวันที่ 15 ก.ย.64 เวลาประมาณ 16.00 น. ตนได้ยินเสียงคล้ายปืนดัง 2-3 นัด และต่อมาได้ยินเสียงรถกระบะเบิ้ลเครื่องเสียงดัง ตนตกใจมากจึงรีบวิ่งออกมาหน้าร้าน เนื่องจาก ลูกของตนชอบนั่งเล่นอยู่หน้าบ้าน จึงรีบนำลูกเข้าบ้าน

หลังจากนั้น เห็นว่ารถกระบะสีขาวขับรถหนี โดยมีเจ้าหน้าที่ปกครองขับไล่ตามออกไปจากหมู่บ้าน ซึ่งตนเห็นรถก็ทราบว่าเป็นรถของบ้านเลขที่ 69/25 ตนเคยเห็นแฟนของเจ้าของรถคันนี้ เนื่องจากแฟนสาวของเจ้าของรถ มาทำผมที่ร้านตนเป็นประจำ ทราบว่าแฟนสาวเจ้าของรถเป็นแม่ค้าขายไก่ย่าง ส่วนแฟนหนุ่มนั้น ตนก็ไม่ทราบทำงานอะไร

และต่อมาคาดว่าประมาณ 17.00 น. เจ้าหน้าที่ก็ขับรถกลับมา และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาอีกด้วย พร้อมผู้ใหญ่บ้าน มาตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว กระทั่งได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ปกครอง ระบุว่า เป็นหนึ่งในบุคคลที่เจ้าหน้าที่ตามตัว โดยเจ้าหน้าที่พูดว่า “ตามจับ ตามหาตัวมานานแล้ว เป็นรายใหญ่ที่ ไชยา ไม่คิดว่าอยู่ที่นี่” และจึงทราบว่าอาจจะเป็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าตกใจมาก ส่วนใหญ่หมู่บ้านนี้ไม่ค่อยมีใครสุงสิงกันมากเท่าไร และยิ่งมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ตนกังวลว่าจะถูกลูกหลง เนื่องจากได้ยินเสียงปืน ส่วนตัวมองว่าการที่เจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวนั้น อาจจะต้องมีข้อมูลมีหลักฐานแล้วอย่างแน่นอน หลังจากนั้นตนก็ยังไม่เห็นเจ้าของรถกระบะและแฟนสาวกลับมาบ้าน เห็นเพียงแต่ญาติของเขาเท่านั้น

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินมางมายังที่ว่าการอำเภอละแม จ.ชุมพร โดยจะเห็นได้ว่า รถกระบะ ทะเบียน ฌร 2896 กรุงเทพมหานคร บริเวณท้ายรถด้ายขวา ฝั่งคนขับ มีร่องรอยบุบขนาดใหญ่ ไฟท้ายแตก

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายถนัดกิจ จันกลั่น ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง และเจ้าพนักงาน ป.ป.ส กล่าวว่า สืบเนื่องจากการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดหลายราย โดยทางชุดปฏิบัติการพิเศษในอำเภอละแม ได้ดำเนินการจับกุมมาแล้วหลายคดี ผู้ต้องหาต่าง ๆ ที่ได้รับการจับกุมนั้น ต่างชี้เป็นเสียงเดียวกันว่า นายสรรเสริญ ชูเกิด หรือ ตั้ม เป็นผู้ค้ายาเสพติดให้กับผู้ที่โดนจับกุมก่อนหน้า จนสืบทราบว่านายตั้ม เข้ามาในพื้นที่ อ.ละแม และเข้าพักอาศัยในบ้านหลังดังกล่าว

ในวันที่ 15 ก.ย. 64 เจ้าหน้าที่ได้ออกลาดตระเวนในพื้นที่ และเมื่อผ่านไปยังพื้นที่บ้านหลังดังกล่าว ระหว่างนั้นเห็นว่านายตั้ม กำลังถอยรถเข้าบ้าน จึงได้นำรถราชการ รถกระบะของหน่วยงานปกครอง ขับไปจอดหน้าบ้านของนายตั้ม ก่อนเจ้าหน้าที่ได้เรียกนายตั้ม ให้ลงจากรถ ระหว่างนั้นนายตั้ม เปิดกระจกเต็มบาน แต่ไม่ลงจากรถ และชี้เข้าไปภายในบ้านว่า “ให้เข้าไปจับกุมผู้กระทำผิดอยู่ภายในบ้าน” 

โดยนายตั้ม มีพฤติกรรม ใช้สายตาสอดส่องมองหาช่องทางในการหลบหนี กระทั่งเจ้าหน้าที่ตะโกนให้ลงจากรถอีกครั้ง ทางด้านนายตั้ม ได้ปิดกระจกรถขึ้น และพยายามเร่งเครื่องออกจากบ้าน และขับรถชนรถของเจ้าหน้าที่ปกครอง ยังโชคดีที่เจ้าหน้าที่อีก 2 นายกระโดนหลบได้ทัน ซึ่งขณะที่กำลังจะขับหนีออกจากหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ได้ยิงล้อรถนายตั้ม 3 นัด แต่นายตั้ม ยังคงจะขับรถหนี จึงโทรศัพท์ประสานผู้ใหญ่บ้าน และเจ้าของหมู่บ้าน ให้เข้ามาเป็นพยาน ในการค้นบ้านหลังดังกล่าว

จากการตรวจค้นภายในบ้านพบสิ่งผิดกฎหมาย ดังต่อไปนี้ 

1. อุปกรณ์เสพยาไอซ์ จำนวน 5 ชิ้น
2. ตาชั่งแบบดิจิตอล จำนวน 1 เครื่อง
3. ถุงพลาสติกใสแบบกดปิด ดึงปิด จำนวน 92 ใบ
4. อาวุธปืนสั้นลูกโม่ ไทยประดิษฐ์ พร้อมซอง จำนวน 1 กระบอก ซองปืน 1 ซอง
5. เซิฟเวอร์กล้องวงจรปิด
6. เครื่องกระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 1 นัด
7. เครื่องกระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 นัด
8. ตู้เซฟเหล็กสีเทา ขนาด 25 x 35 ซม. 1 ตู้

โดยทางกรมปกครองได้ทำการร้องทุกข์กล่าวโทษกับ นายสรรเสริญ ชูเกิด หรือ ตั้ม ในข้อหา ทำลายทรัพย์สินของราชการเสียหาย และตรวจพบสิ่งผิดกฏหมาย อาวุธปืน และครอบครองลูกกระสุนปืน โดนนำส่งของกลางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละแมในการดำเนินการต่อไป

ทั้งนี้นายสรรเสริญ มีพฤติกรรมเป็นพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่มานานหลายปี เนื่องจากเคยถูกจับเกี่ยวโยงในคดีจำหน่ายยาเสพติด เมื่อวันที่ 25 พ.ค.64 ที่ผ่านมา และได้รับการปล่อยประกันตัวไป ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจตามจับกุมตัวนายตั้มต่อไป หากไม่มีพฤติกรรมต้องสงสัยก็ไม่ควรมีพฤติกรรมในการหลบหนี

ทีมข่าวพูดคุยกับ นายฐิติวัชร บุญกิจ นายอำเภอละแม กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่มีการจับกุมผู้ค้ายาต่าง ๆ ได้ซัดทอดมายัง นายสรรเสริญ ชูเกิด หรือ นายตั้ม เป็นผู้ลำเลียงนำยา ตนจึงได้ให้เจ้าหน้าที่เฝ้าสังเกตการณ์และล่อซื้อมาแล้ว 1 ครั้ง แต่เนื่องจากนายตั้ม ไหวตัวทัน และมักเป็นนกรู้ที่ทราบทุกการเคลื่อนไหวของตำรวจ หาทางหนีทีไร่ได้เสมอ โดยจะพักอาศัยตามห้องพักรายวัน บ้านเช่า อยู่ไม่เป็นหลักแหล่ง

ในวันที่ 15 ก.ย. 64 ตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ได้กำชับในการตามหาตัวนายตั้ม อย่างต่อเนื่อง โดยเจ้าหน้าที่วนรถสอดส่องตามปกติ กระทั่งขับรถตามไปได้ระยะหนึ่ง เมื่อไม่สามารถตามได้ ก็กลับมายังบ้านหลังดังกล่าว โดยก่อนหน้าที่นายตั้ม จะหลบหนีนั้น โทรทัศน์ภายในบ้านยังคงเปิดอยู่ แต่เมื่อกลับมาแล้ว ปรากฏว่าโทรทัศน์ภายในบ้านถูกปิด คาดว่าต้องมีผู้คนอยู่ในบ้านและหลบหนีออกไป และอาจจะมีการเคลื่อนย้ายสิ่งของผิดกฎหมายออกไปจากพื้นที่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะกลับมาตรวจค้นบ้านหรือไม่

ทั้งนี้ ตนขอยืนยันว่าเหตุการณ์ในวันดังกล่าวนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ผิด เนื่องจากเป็นการกระทำที่มีคำสั่งจากผู้บังคับบัญชาในการตรวจสอบและตรวจจับผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติดที่ได้มีการตามติดมานาน ตนยืนยันว่าหากมีอะไรที่พังเสียหาย จากการกระทำจากเจ้าหน้าที่ ให้ญาติเดินทางมาพูดคุยกับตนได้ พร้อมจะรับผิดชอบ

"อยากฝากเตือนพี่น้อง ถึงผู้ที่จะหลงผิด พิษภัยยาเสพติดเป็นสิ่งชั่วร้าย ทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งอนาคต ครอบครัว ไม่ว่าใครที่คิดจะเดินทางไปในทิศทางของยาเสพติด ไม่มีทางที่จะร่ำรวย เมื่ออยู่ในวงจรแห่งนี้ รับรองว่าจะต้องถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว และถูกจำกัดสิทธิเสรีภาพเหลืออยู่ภายในห้องขังแน่นอน" นายอำเภอละแม กล่าว 

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ นายสรรเสริญ ชูเกิด หรือ ตั้ม ผ่านทางข้อความ โดยนายตั้ม ระบุว่า ในวันดังกล่าวมีเจ้าหน้าที่เข้าไปยังบ้าน แต่ขณะนั้นตนไม่อยู่บ้าน “ในขณะที่หนีนั้น เพราะไม่รู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ ไม่มีชุดหรือบัตรเจ้าหน้าที่” ก่อนจะบอกว่า จะเอาหลักฐานทั้งหมดไปยื่นยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่เจ้าหน้าที่เข้าไปรื้อค้นบ้าน “ตอนนี้ไม่กล้าเข้าบ้าน เนื่องจากเขาพูดกับชาวบ้านว่าเจอที่ไหนจะจับตาย เจ้าหน้าที่ชุดนี้ หากินเช่นนี้กับชาวบ้านเป็นประจำ”