ลูก “ถวัลย์ ดัชนี” จ่อฟ้องศิลปินดังแขวนอัฐิพ่อ เปิดที่มาคนฉกกระดูกนิ้ววันลอยอังคาร (คลิป)

จากกรณีอาจารย์สุขุม มีพันแสน ได้มีการไปออกรายการผ่านสื่อโทรทัศน์ โหนกระแส โดยอ้างว่าได้มีการนำกระดูกของศิลปินชื่อดังทางด้านศิลปะ นำมาคล้องคอในขณะวาดรูปได้ เชื่อว่าเป็นการเสริมพลังให้รังสรรค์ผลงานออกมาได้สวยงาม และสร้างมูลค่าให้กับการขายภาพถึงหลักล้านบาท ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสื่อสังคมโซเชียลและวงการศิลปะอย่างมาก โดยเฉพาะทายาทของ อ.ถวัลย์ ดัชนี ที่เป็น 1 ในศิลปินที่ อ.สุขุม อ้างว่ามีกระดูกไว้ครอบครอง

วันที่ 16 ก.ย. 64 ดร.ดอยธิเบศร์ ดัชนี จิตกร ลูกชายของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี เปิดใจว่า ตนรู้สึกสะเทือนใจจนน้ำตาร่วง เมื่อทราบว่ากระดูกของพ่อตัวเองไปอยู่กับคนอื่น ซึ่งถ้ามองว่าในมุมของคนในครอบครัวก็ต้องออกมาปกป้องพ่อตัวเอง พ่อควรอยู่ในที่ที่พ่อควรอยู่ ไม่ใช่ไปอยู่ในคอของใคร แต่ได้มีการพิสูจน์ทราบแล้วว่ามีบุคคลหนึ่งที่รู้จักแอบหยิบไปจริง ๆ และยอมรับว่าเป็นคนเอาไปให้ อ.สุขุมเอง แต่อย่างไรก็ตาม การที่ อ.สุขุม ได้ไปซึ่งกระดูกไม่ว่าจะวิธีใดก็ตามนั้น ทางครอบครัวก็ไม่ได้อนุญาต ทั้งยังไปแอบอ้างว่าเป็นลูกศิษย์ของ อ.ถวัลย์ อีกด้วย

ส่วนในมุมมองของการเป็นจิตกร หรือศิลปินในวงการศิลปะนั้น การกระทำของ อ.สุขุม ทำให้ชุดระบบความคิดของของศิลปะเปลี่ยนไป กับการที่หยิบกระดูกมาห้อยแล้วจะเก่งได้ อีกหน่อยก็ไม่ต้องมีโรงเรียนสถาบันสอนวาดรูปกันแล้ว การจะเป็นศิลปินแห่งชาติได้นั้นจะต้องผ่านการฝึกฝน การเรียนรู้ และการสร้างสรรค์ผลงานเป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมได้ด้วยตัวของตัวเอง

โดยที่ไม่มีการเอาคนอื่นไปแอบอ้าง หากจะมีศิลปินเป็นแรงบันดาลใจ การเคารพนับถือและความศรัทธาในตัวศิลปินนั้นเกิดจากความรู้สึกของใจ ไม่มีความจำเป็นต้องเอากระดูกของผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจมาห้อยคอ มันเหมือนกับว่าจะนำไสยศาสตร์และความเชื่อมาหล่อหลอมในงานศิลปะแล้วจะกลายเป็นบรรทัดฐานของสังคม

ส่วนในมุมของมนุษย์คนหนึ่ง มองว่าคงไม่มีใครอยากเห็นกระดูกของบรรพบุรุษของตัวเองไปอยู่ในคอของคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นของใครก็ตาม ซึ่งผิดจริยธรรมความเป็นมนุษย์และผิดกฎหมาย หลังจากที่ อ.สุขุม ได้มีการไปออกรายการโทรทัศน์ ก็เปรียบเสมือนเป็นการโฆษณาโดยการแอบอ้าง ทั้งนี้ อ.สุขุม ได้มีการพยายามติดต่อมาหาตน แต่ตนกำลังยุ่งเลยไม่ได้มีโอกาสได้รับสายโทรศัพท์ และได้มีการนำกระดูกของพ่อมาคืน ผ่านบุคคลที่แอบเอาไป ซึ่งตนก็ไม่ได้ถือโทษโกรธแล้ว

ตนยืนยันว่าจะมีการดำเนินคดีในเรื่องของการนำกระดูกบรรพบุรุษไปโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการแอบอ้างพ่อของตน เพื่อไปหาผลประโยชน์ เพื่อเป็นบทเรียนให้กับสังคม และเป็นบรรทัดฐานของคุณค่าในงานศิลปะ

ขณะเดียวกัน อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินชื่อดังกล่าวถึงเรื่องนี้เช่นกัน ระบุว่า ทำถูกต้องแล้วที่ออกมาปกป้องพ่อ พร้อมฝากข้อความถึง หนุ่ม กรรชัย พิธีกรรายการโหนกระแส ตักเตือนเรื่องการเชิญแขกรับเชิญมาออกรายการ ไม่ควรเอามันอย่างเดียว แต่ควรคำนึงถึงผลกระทบที่จะตามมาด้วย

โดยข้อความทั้งหมดของ อ.เฉลิมชัย ในครั้งนี้ได้โพสต์โดยบัญชีเฟซบุ๊กที่ชื่อ "ผู้ชื่อชอบอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิพิพัฒน์" ซึ่งได้ระบุไว้ว่า "อาจารย์ฝากจอยมาลง ถูกแล้วน้องฮักต้องปกป้องพ่อ เอาดังแบบค-าย ๆ ฝากไปถึงน้องหนุ่มโหนกระแสหน่อย เพราะความไม่รู้เรื่อง ไม่ศึกษาและเข้าใจงานศิลปะที่ทรงคุณค่าจริง ๆ ไม่รู้จักระดับของศิลปินที่เป็นการยอมรับในแวดวง แค่เอาแปลกอ่ะ จึงทำให้ประชาชนที่ไม่เข้าใจศิลปะอยู่แล้ว ยิ่งเข้าใจผิดต่องานศิลปะและศิลปินผู้สร้างสรรค์งานมากยิ่งขึ้น

มีศิลปินระดับศิลปินแห่งชาติ ศิลปินศาสตราจารย์เกียรติคุณ และศิลปินชั้นเยี่ยมโทรหาพี่หลายคน บอกว่าไอ้เหลิมเป็นเสาหลักของวงการออกไปจัดการที เพราะมันเสียหายต่อภาพรวมของวงการเรา จึงขอฝากตรงนี้ถึงไอ้น้องหนุ่มน้องรักว่า ตั้งแต่นี้ หนุ่มต้องระวังในการจัดใครมาออกรายการด้วยนะครับ หากหนุ่มเอาแค่มัน เอาแปลก แล้วไม่กระทบต่ออาชีพของวงการใคร ลุยสนุกไปไร้สาระได้เลยไอ้น้อง พี่แก่แล้วไม่อยากมาออกทีวีกับหนุ่มเพื่อชี้แจง พูดแค่นี้คงพอแล้ว แต่ถ้าหนุ่มอยากจะเอาศิลปินดังจริง งานดีจริง พี่แนะนำหนุ่มให้เชิญท่านศิลปินชั้นเยี่ยม ศาสตราจารย์ ถาวร โกอุดมวิทย์ ไปออกรายการสิ เขาเป็นรุ่นน้องพี่ ท่านพร้อมและยินดีที่จะมาออกรายการ คิดถึงนะหนุ่ม ขอให้เจริญ ๆ รวย ๆ คนรักยิ่ง ๆนะ"