ตร.แถลงปิดคดี แหม่มสาวอังกฤษถูกข่มขืนบนเกาะเต่า ยันชัด ไม่พบคราบอสุจิบนเสื้อตามอ้าง

วันที่ 16 ต.ค. 61 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล รักษารการแทนผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการสืบสวนสอบสวนกรณีสาวชาวอังกฤษ วัย 19 ปี อ้างว่าถูกวางยาและข่มขืนที่หาดทรายรี บนเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 25 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากผบ.ตร. ส่งพนักงานสอบสวน ไปสอบปากคำหญิงสาวรายนี้ที่ประเทศอังกฤษ (อ่าน : แหม่มอังกฤษ เมาสุราหนัก ตื่นมาเปลือย โร่แจ้งความถูกละเมิดทางเพศ – ตร.เช็กวงจรปิดชี้ชัดไม่พบคนร้าย)

โดยพลตำรวจเอกจักรทิพย์ กล่าวว่า คดีนี้ตำรวจได้สืบสวนสอบสวนในทุกมิติครบถ้วนสมบูรณ์ ตั้งแต่ระดับโรงพักที่เกิดเหตุ มีการส่งพนักงานสอบสวนไปสอบปากคำผู้เสียหาย รวมทั้งนำหลักฐานที่ประเทศอังกฤษกลับมาตรวจสอบ ความจริงก็ปรากฏสิ้นข้อสงสัย ยืนยันว่าตำรวจทำหน้าที่เพื่อปกป้องชื่อเสียงของประเทศ และดูแลนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม หากมีพยานหลักฐานใหม่ก็พร้อมจะให้สืบสวนสอบสวนต่อ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมของทุกฝ่าย

ขณะที่พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำผู้เสียหายในประเด็นต่าง ๆ เช่น ประเด็นสถานที่เกิดเหตุ พนักงานสอบสวนได้นำภาพถ่ายแผนที่บริเวณที่เกิดเหตุ ภาพถ่ายบริเวณหาดทราย และบริเวณที่ใกล้เคียงให้ผู้เสียหายดู แต่ผู้เสียหายไม่สามารถยืนยันบริเวณที่เกิดเหตุได้ ส่วนประเด็นตำหนิรูปพรรณคนร้าย ผู้เสียหายก็ไม่สามารถยืนยันข้อมูลและตำหนิรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายได้ จึงไม่เพียงพอในการดำเนินคดี

นอกจากนี้ ผลการตรวจพิสูจน์เสื้อยืดของสาวชาวอังกฤษรายดังกล่าวที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ พบดีเอ็นเอของบุคคล 2 คน เป็นหญิง 1 คน ชาย 1 คน ปรากฏบนเสื้อ แต่ไม่พบคราบอสุจิตามคำกล่าวอ้าง ส่วนจะมีการแจ้งความดำเนินคดีฐานแจ้งความเท็จกับหญิงสาวรายดังกล่าวหรือไม่นั้น พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งความ และยังไม่ได้ขึ้นแบล็คลิสต์ห้ามเข้าประเทศ เนื่องจากการแจ้งความยังไม่เกิดขึ้น ประกอบกับผู้เสียหายก็ให้การมึนงง มีอาการสะลึมสะลือ ไม่สามารถให้การได้ว่าคนร้ายเป็นใครมาจากไหน รูปพรรณสัณฐานเป็นอย่างไร ส่วนการดำเนินคดีกับเพจสมุยไทม์และ CSI LA ก็มีการจับกุมดำเนินคดีหลายรายแล้ว