ทหารช้ำแฟนพาหนุ่มซุกห้อง เผาพริกแช่งยันสู่ขอแล้ว พ่อสาวโต้จ่ายแสนแลกคดี (คลิป)

14 ก.ย. 64

กรณีผู้ใช้ติ๊กต็อกรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปที่ตัวเองได้บุกไปห้องเช่าแล้วเจอผู้ชายคนอื่น อยู่ในห้องกับแฟนสาวสองต่อสอง กระทั่งคลิปดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่ไปในโซเชียล และมีผู้คนมาแสดงความคิดเห็นจำนวนมากนั้น

200257581305

วันที่ 14 ก.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่ ต.คำเตย อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร นายธิติ (นามสมมติ) ผู้โพสต์คลิป เปิดใจว่า ตัวเองคบหากับนางสาวกี้ (นามสมมติ) ได้ประมาณ 2 ปี ในปี 2563 ตัวเองเข้ากรมเกณฑ์ทหาร กลับหาแฟนที่หอพักอยู่นาน ๆ ครั้ง ในเวลาที่ลากลับบ้านได้ โดยแฟนตัวเองศึกษาที่ จ.อุบลราชธานี และเช่าหอพักอยู่ที่นั่น

963216

ช่วงต้นเดือนสิงหาคม 2564 ก่อนเกิดเหตุ 1 เดือน ตัวเองรู้สึกได้ว่านางสาวกี้มีท่าทีที่เปลี่ยนไปจากเดิม เขาจะไม่ค่อยรับโทรศัพท์ตัวเอง และขอห่างจากตัวเอง วันที่ 1 กันยายน ตัวเองปลดประจำการทหารออกมา แล้วมาอาศัยอยู่ที่บ้าน ยังไม่ได้ไปหาแฟน เพราะแฟนบอกว่ายังไม่ว่างที่จะพูดคุยกับตัวเอง และอ้างว่าเขาติดสอบ ติดเรียน พร้อมกับนัดให้ตัวเองไปคุยหลังวันที่ 11 กันยายน

กระทั่งวันที่ 11 กันยายน ตัวเองได้ส่งข้อความไปหาแฟนสาว ถามว่าจะเดินหน้าคบกันต่อหรือเลิกกัน แต่ฝ่ายหญิงก็ไม่ตอบข้อความแชต วันที่ 12 กันยายน 2564 ตัวเองตัดสินใจขับมอเตอร์ไซค์จากจังหวัดยโสธร บ้านของตัวเอง ไปยังหอพักของแฟนสาวในอำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ระยะทาง 200 กิโลเมตร

100805

พอไปถึงหน้าห้อง ตัวเองเห็นรองเท้าผู้ชายวางไว้หน้าห้องของแฟนตัวเอง จึงเกิดความสงสัยแล้วว่าน่าจะมีชายอื่นอยู่ด้านในห้องกับแฟนตัวเอง ตัวเองพยายามเคาะประตูแล้วเรียกแฟนสาวให้มาเปิดประตู แต่เขาก็ไม่เปิด ตัวเองจึงตัดสินใจงัดประตูเข้าไป ก็เจอชายคนดังกล่าวนอนอยู่ในห้องตัวเอง จึงเกิดเหตุการณ์ตามในคลิป ส่วนแฟนสาวตัวเอง เขาได้ไปแอบอยู่ในห้องน้ำ ตัวเองจึงพังประตูห้องน้ำเข้าไปก็เห็นแฟนสาว จากนั้นตัวเองก็ได้มีการต่อว่าแฟนตัวเอง

ตัวเองไม่เคยคิดมาก่อนว่าแฟนสาวที่คบกันมา 2 ปี เขาจะกล้าทำกับตัวเอง โดยการพาชายอื่นเข้าห้องถึงขนาดนี้ ยอมรับว่าวันนั้นคือวันที่แย่ที่สุดในชีวิต มันจุกอกไปหมด และยังดีที่วันนั้นตัวเองไม่สติหลุดเผลอทำอะไรไปมากกว่านี้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ตัวเองก็ขับรถกลับมาบ้านที่ จ.ยโสธร แล้วมาโพสต์คลิปจนกระทั่งเป็นกระแสขึ้น

637612

ทั้งนี้ โดยตัวเองมีการแต่งงานอย่างไม่เป็นทางการ และให้สินสอดฝ่ายหญิงไปแล้ว 100,000 บาท และยังไม่จดทะเบียนสมรสด้วยกัน หลังคลิปปรากฏออกไปทางญาติของฝ่ายหญิงได้โทรศัพท์มาหาตัวเอง แล้วบอกให้ตัวเองลบคลิป ถ้าตัวเองไม่ลบคลิป เขาจะดำเนินคดีกับตัวเอง ตัวเองจึงทำการลบคลิปไปเมื่อเช้าวันนี้ แต่เรื่องทุกอย่างก็ไม่จบ เพราะตัวเองมาทราบว่านางสาวกี้ อดีตแฟนสาวของตัวเอง เขาได้ไปลงบันทึกประจำวันดำเนินคดีกับตัวเองแล้ว

ตอนนี้ตัวเองอยากจะถามว่า "ที่ผ่านมาเขาไม่เคยรักผมเลยหรอ" ตัวเองทำดีกับเขา ทุ่มเทให้เขามาตลอด หอพักที่กี้อาศัยอยู่ ค่าหอเดือนละ 3,300 บาท ตัวเองก็ส่งเงินจ่ายค่าหอให้เขาเกือบทุกเดือน ยิ่งพอมาเจอเหตุการณ์ครั้งนี้ ห้องนอนตัวเองแท้ ๆ ที่นอนตัวเองแท้ ๆ แต่เขากลับเอาคนอื่นมาอยู่ด้วย

โดยเมื่อวานนี้ตัวเองเข้าไปในห้องนอนที่บ้านของตัวเอง แล้วไปเห็นรูปคู่ที่ตัวเองเคยถ่ายตู่กับนางสาวกี้ ด้วยความที่ตัวเองทำใจไม่ได้ ไม่อยากจดจำนางสาวกี้แล้ว ตัวเองจึงนำรูปถ่ายและของทุกอย่างที่เกี่ยวกับนางสาวกี้ไปเผาทิ้งที่เตาหลังบ้าน และบันทึกคลิปลงติ๊กต็อกอีกเช่นเคย ขณะที่เผารูปภาพทิ้งตัวเองยังได้เผาพริกเผาเกลือลงไปด้วย แต่ยืนยันว่าไม่ได้มีการสาปแช่ง

661489

ด้านนายน็อต (นามสมมติ) พ่อของนางสาวกี้ เปิดใจว่า ส่วนตัวได้ทราบข่าวของลูกสาวเมื่อเช้าวันนี้ เพราะเพื่อนบ้านเอาเรื่องมาบอก แต่ตัวเองก็ยังไม่ได้เห็นคลิปที่เกิดเหตุ และยังไม่เห็นหน้าผู้ชายที่อยู่ในคลิปไม่รู้ว่าชายในคลิปคนดังกล่าวเป็นอะไรกับลูกสาว สำหรับลูกสาวตัวเองไปศึกษาที่ จ.อุบลราชธานี และจะกลับบ้านเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ เมื่อเช้าลูกสาวก็ได้โทรหาว่าได้เลิกกับนายธิแล้ว แต่ตัวเองก็ไม่รู้สาเหตุ

ทั้งนี้ ที่นายธิถ่ายคลิปปรากฏเห็นหน้าลูกสาวลงโซเชียลนั้น ตัวเองก็ไม่พอใจเพราะทำให้ลูกสาวเสียหาย ตัวเองเสียความรู้สึกมาก โดยลูกสาวยังไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ไปแจ้งความเอาผิด ตัวเองขอยืนยันว่าเงินจำนวน 100,000 บาทที่นำมาให้ครอบครัวตัวเองนั้น ไม่ใช่เงินสินสอดแต่งงาน แต่เป็นเงินที่เมื่อ 1 ปีแรกที่เขาคบหากับลูกสาวตัวเอง เขาได้พาลูกสาวหนีไปที่ต่างจังหวัดกับเขา ตัวเองบอกกับเขาว่าถ้าไม่เอาลูกสาวมาส่งตัวเองจะเอาผิดกับเขา เขาจึงยอมนำเงินจำนวน 100,000 บาท มาขอขมาตัวเอง

กรณีที่ฝ่ายชายอ้างว่า เขาจ่ายเงินค่าหอให้ลูกสาวเกือบทุกเดือนนั้น ตัวเองก็ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา ถ้าเขาอยู่หอร่วมกับลูกสาวเขาก็ต้องช่วยกันจ่าย

309187

ด้านนายนิติธร แก้วโต หรือ ทนายเจมส์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า กรณีที่ฝ่ายชายมีการให้ค่าหมั้นกับฝ่ายหญิง แล้วฝ่ายหญิงมีชายอื่นหรือทำผิดสัญญา ฝ่ายชายสามารถบอกเลิกสัญญาหมั้น และฟ้องเรียกของหมั้นคืนได้

ส่วนกรณีที่ฝ่ายชายนำคลิปวีดีโอไปโพสต์ แล้วเห็นหน้าฝ่ายหญิงบางส่วน ทำให้ฝ่ายหญิงได้รับความเสียหาย ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง จนเกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียง กรณีนี้ฝ่ายหญิงก็สามารถที่จะเอาผิดกับฝ่ายชายหรือบุคคลทึ่เอาไปโพสต์ได้ ซึ่งจะมีความผิดในฐานหมิ่นประมาท เนื่องจากทำให้ประชาชนส่วนมากเข้าถึงคลิปดังกล่าวนี้ ส่วนบุคคลที่คอมเมนต์หรือแชร์คลิปดังกล่าวนี้จะมีความผิดในฐานมีประมาทโดยการโฆษณาอีกด้วย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส