จับไอ้กิ๊กขาโหดรถเข็นฟาดคนตายอ้างโดนมีดขู่ อึ้งเพิ่งพ้นคุกแอ๊บแบ๊วเรียกตัวหนู (คลิป)

กรณี ร.ต.ท.รัชพล รัชวการ รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองชลบุรี รับแจ้งเมื่อเวลา 17.00 น. ของวันที่ 11 ก.ย. 64 หนุ่มใหญ่ถูกทำร้ายเสียชีวิต ที่หน้าห้องเช่าไม่มีชื่อ ซ.พงษ์ประเสริฐ ต.บ้านสวน อ.เมือง จ.ชลบุรี หลังตรวจพร้อมกู้ภัยมูลนิธิธรรมรัศมีมณีรัตน์และเจ้าหน้าที่พยาบาลกู้ชีพ รพ.ชลบุรี หน้าห้องเช่าชั้นเดียว

พบร่างนายสวัสดี มูลทา อายุ 42 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ นอนเสียชีวิต บาดแผลแตกที่ศีรษะเลือดไหลนองพื้น ใกล้กันพบรถเข็นเหล็กมีรอยคราบเลือดติดจอดอยู่ก่อน ทราบชื่อคนทำร้ายคือ นายวิสาทร ถาวรรณา อายุ 33 ปี ชาว จ.ชลบุรี หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปนั้น

ล่าสุด วันที่ 13 ก.ย. 64 ทีมข่าวได้รับรายงานว่า เมื่อคืนนี้ 12 ก.ย.64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี สามารถจับกุมตัว นายวิสาทร หรือ กิ๊ก ผู้ต้องหา ได้ที่สุสานจีนแห่งหนึ่งใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี ก่อนควบคุมตัว นายวิสาทรชี้จุดเกิดเหตุจุดหลัก ที่เกิดเหตุภายในห้องเช่า รวม 3 จุดย่อย

คือจุดที่ผู้ก่อเหตุพบกับผู้ตาย ขณะขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาแล้วทักถามชื่อ จุดที่ 2 จุดที่ลงมือต่อยหน้าห้องเช่าผู้ก่อเหตุ และใช้รถเข็นตี และจุดที่ 3 จุดหน้าราวตากผ้าหน้าห้องเป็นจุดที่ทิ้งมีด

โดยระหว่างทำแผนประกอบคำรับสารภาพผู้ก่อเหตุใช้แทนตัวเองว่า "หนู" ซึ่งทำเอาตำรวจในพื้นที่พากันงงเ พราะไม่เคยเจอผู้ต้องหาพูดแทนตัวเองลักษณะนี้มาก่อน

ซึ่งผู้ก่อเหตุยืนยันว่า ไม่รู้จักกับผู้ตายมาก่อน ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรกับผู้ตายด้วยซ้ำ แต่ผู้ตายขี่รถจักรยานยนต์ของนายกล้อง บุคคลที่เคยมีปัญหากันมาก่อน เข้ามาในห้องเช่า เป็นจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน เดินเข้ามาสอบตนที่หน้าด้วยอาการมึนเมา ถามว่าตนเองชื่อกิ๊ฟใช่ไหม ตนเองมองแล้วลักษณะผู้ตายมีอาการเข้ามาหาเรื่อง ตนเองจึงไปสะกิดถามว่า "พี่มีอะไรหรือไม่" แต่ผู้ตายฟึดฟัดใส่ ตนจึงกลับเข้าไปล้างหม้อหุงข้าวภายในห้อง และออกจากห้องเอาข้าวมาทิ้ง แต่เห็นผู้เสียชีวิตถือมีดเข้ามา ตนเองจึงชกเข้าที่ใบหน้า และใช้รถเข็นที่อยู่ข้าง ๆ ตีที่หัวไป 1 ครั้ง ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

ผู้ต้องหายอมรับว่า ตอนนั้นโมโห แค่เห็นคนถือมีด ซึ่งการถือมีดเข้ามาหาคนอื่น ก็ถือว่าแค่คิดก็ผิดแล้ว ยืนยันไม่เคยทะเลาะกันมาก่อน และไม่รู้จักกับผู้เสียชีวิตด้วย ขณะเดียวกันยอมรับว่าวันนั้นโดนไล่ออกจากห้อง และกลับมาเอาเสื้อผ้าเท่านั้น ไม่ได้โมโหใคร ยืนยันตอนนั้นไม่ทราบว่าทำจนเสียชีวิตแล้ว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากจะขอโทษหรือไม่ แต่ผู้ก่อเหตุไม่มีการพูดคำว่าขอโทษ บอกเพียงว่าจะรับดูแลเลี้ยงดูครอบครัวผู้เสียชีวิตเอง

พ.ต.อ.นิทัศน์ แหวนประดับ ผกก.สภ.เมืองชลบุรี เปิดเผยว่า สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ การสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพทั้งหมดว่าเป็นคนก่อเหตุเอง โดยใช้รถเข็นขนาดใกล้เคียงกับรถเข็นที่เอามาทำแผน ฟาดไปที่ศีรษะและใบหน้าจนอีกฝ่ายเสียชีวิต แต่ก่อนที่จะใช้รถฟาดมีการลงมือเตะต่อย เป็นการกระทำที่ทำให้อีกฝ่ายเสียชีวิต จึงมีการแจ้งข้อหาอย่างหนัก ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

เบื้องต้น ประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุบอกว่าทั้งคู่ไม่รู้จักกัน แต่ผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์ของบุคคลที่เคยมีเรื่องกับผู้ก่อเหตุมาก่อน ทำให้ผู้ก่อเหตุอารมณ์ขึ้นและมีการเข้าไปหาเรื่อง โดยผู้ก่อเหตุเป็นคนเริ่มตนเข้าไปหาเรื่องก่อน แต่ผู้ก่อเหตุมีการอ้างว่าผู้เสียชีวิตถือมีดมาก่อน ต้องรอพยานหลักฐานจากคำให้การของพยานอีกครั้งว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร

อย่างไรก็ตาม พฤติการณ์ของผู้ก่อเหตุจากการสอบปากคำผู้ก่อเหตุเป็นคนบอกเองว่าถ้าใช้มีด เดี๋ยวศพจะไม่สวย และเจตนาจริง ๆ ในตอนแรก ผู้ก่อเหตุอาจจะไม่ได้หมายปองถึงชีวิต โดยระหว่างการสอบปากคำมีการพูดถึงครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยว่าหากเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เข้าจับกุมก็จะเข้ามอบตัว เป็นความสำนึกได้ในภายหลัง แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถติดตามจับกุมตัวได้ภายใน 24 ชั่วโมง เตรียมส่งศาลฝากขังพรุ่งนี้ต่อไป

ด้านนางสาวนัตินี มูลทา อายุ 22 ปี หลานผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนอยู่ในห้องเช่าที่เกิดเหตุก็จริง แต่ตนเองไม่เห็นว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นได้อย่างไร คิดอยู่ว่าถ้ามาทันในขณะที่ผู้ก่อเหตุกำลังทำร้ายอาตนก็จะเข้าไปช่วย ตอนตนเข้ามาเห็นแล้วสภาพอาน่าหดหู่ใจมาก วันนี้ยังคิดตลอดว่าว่าทำไมต้องทำกันขนาดนี้ ทั้งที่ทั้งคู่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ตนก็ขอขอบคุณตำรวจที่สามารถจับคนร้ายได้เร็วมาก ส่วนคำกล่าวอ้างที่คนร้ายบอกว่าคุณอาตนถือมีดไปจะหาเรื่องก่อนนั้ นตนเองยืนยันว่าอาเป็นคนอัธยาศัยดีมาก เพราะอาเป็นคนขี้เล่นนิสัยดี และไม่เคยโกรธใครง่าย ๆ ทุกคนจะรู้ดีว่าอาไม่ใช่คนโมโหร้าย ตนก็ไม่รู้ว่าทำไมผู้ก่อเหตุถึงทำกันขนาดนี้ และยืนยันว่าอาคงไม่ได้หาเรื่องก่อนแน่นอน

ทั้งนี้ อาของตนเพิ่งเดินทางมาจากเพชรบูรณ์ เข้ามาดูแลย่าของตนที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ได้แค่ 4 วัน จึงยืนยันว่าอาไม่รู้จักกับคนร้ายมาก่อนแน่นอน ส่วนจะเป็นปมปัญหาโกรธเคืองนายกอล์ฟ น้องชายพ่อที่เคยมีปัญหากับคนร้ายมาก่อนหรือไม่ ตนก็ไม่ทราบ แต่ก่อนหน้าตนบอกนายกอล์ฟแล้วให้เลิกแล้วต่อกัน ส่วนคนที่ห้องเช่าส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าคนร้ายทำงานอะไร แต่มาอยู่ได้แค่ 2 เดือน ล่าสุดก็ไม่จ่ายค่าห้อง แต่ทุกคนก็ไม่สนใจคนร้าย รวมถึงตนแม้แต่หน้าตาก็ไม่เห็นไม่สนใจ ตนคิดว่าคนร้ายน่าจะหลอนยา คงไม่ใช่คนป่วยทางจิต