จากเหตุการณ์ที่เยาวชนหญิงอายุ 17 ปี ตัดสินใจให้อาวุธมีดทำครัวปลายแหลม บุกจี้ชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ซึ่งตั้งอยู่ชั้นล่างของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง สาขารัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี
ก่อเหตุเมื่อเวลา 15.00 น. เมื่อ 12 ก.ย. 64 ก่อนจะถูก ด.ต.ณัฐพล มวลเกษม ผบ.งานป้องกันและปราบปราม สภ.รัตนาธิเบศร์ ตำแหน่งหน้าที่สายตรวจเดินเท้า ซึ่งเฝ้าประจำห้างดังกล่าวเข้ามาสกัดจับกุมเยาวชนหญิงที่ก่อเหตุเอาไว้ได้ โดยจากการตรวจสอบจากกล้องวงจรปิด พบว่ามีพลเมืองดีสกัดขาคนร้ายจนล้ม และจับได้ในที่สุด
วันที่ 13 ก.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยัง สภ.รัตนาธิเบศร์ วันนี้มีการคุมตัวหญิงวัย 17 ปีที่ก่อเหตุมาร่วมพูดคุยกับ ทางผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ ตัวแทนจากพัฒนาสังคงคม และความมั่นคงของมนุษย์ และผู้อำนวยการโรงเรียนด้วย
นายเผด็จ อุทุมสกุลรัตน์ ผู้อำนวยการสถานศึกษา กล่าวว่า หลังจากได้รับทราบเรื่องว่าผู้ก่อเหตุเป็นเด็กนักเรียนในสังกัด ไม่ได้มีการนิ่งนอนใจ รีบเดินทางไปพูดคุยกับผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ ร่วมกับเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ดำเนินการใช้ตำแหน่งและหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นเงินส่วนตัวของตนเองในการประกันตัวผู้ก่อเหตุจำนวน 15,000 บาท เพราะต้องการให้โอกาสเด็กนักเรียน เนื่องจากมองว่าผู้ก่อเหตุไม่ได้ตั้งใจในการที่จะก่อเหตุ เป็นเพียงอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น ชจากการสอบถามทราบว่าครอบครัวของหญิงสาวที่ก่อเหตุมีสภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบาก และพักอาศัยอยู่กับยาย
ก่อนหน้านี้ตนเองรู้จักหญิงสาวรายนี้เป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว แต่ไม่ได้สนิทสนมมากเป็นการรู้จักเพียงผิวเผิน เนื่องจากหญิงสาวรายนี้มีตำแหน่งเป็นคณะกรรมการนักเรียนด้วย เมื่อยังศึกษาอยู่ชั้นระดับมัธยมศึกษาปีที่ 5 ปี 2563 เป็นเด็กเรียนดี ได้เกรดเฉลี่ย 3.3 ไม่เคยติด 0 เป็นคนไม่ค่อยพูดจา หลังจากนี้คงจะต้องมีการช่วยเหลือสภาพจิตใจ ประคับประคองให้สามารถสำเร็จการศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้ ซึ่งปลายเดือนตุลาคม 2564 นี้จะเป็นช่วงที่หญิงสาวรายนี้จะสำเร็จการศึกษาในปีภาคคเรียนที่ 1 โดยจะให้กลับมาเรียนได้ตามปกติ มองว่าควรจะให้โอกาสกลับตัวกลับใจมาเป็นคนดี
พ.ต.อ.เมษนนท์ นาขวัญ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า ล่าสุด ผอ.โรงเรียนของเยาวชนหญิงได้เข้ามาช่วยเหลือด้านคดีความ โดยจะไปยื่นเงินประกัน 15,000 บาท ต่อศาลเยาวชนและครอบครัว จ.นนทบุรี ล่าสุดศาลอนุมัติให้ประกันตัวแล้ว เด็กยังอยู่ในการดูแลของ พม.
ส่วนแรงจูงใจในการก่อเหตุ เด็กบอกว่า คือการถูกโกงเงินแชร์ ส่วนที่เด็กมีการเข้าไปยุ่งเกี่ยวและถูกโกงเงินจำนวน 50,000 บาท ซึ่งเป็นเงินประกันชีวิตของพ่อที่เสียชีวิต โดยล่าสุดอยู่ระหว่างการนำโทรศัพท์มือถือมาตรวจสอบเพิ่มเติม งจากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่าเด็กได้ร่วมไปยุ่งเกี่ยวกับการลงทุนเพียงคนเดียว เห็นโฆษณาในอินสตาแกรมจึงร่วมลงทุน ครั้งแรกลงทุน 1,000 บาท และได้เงินกลับมาประมาณ 6,000 บาท จึงเกิดความเชื่อใจ และลงทุนมากขึ้นกว่า 50,000 บาท ส่วนรายละเอียดหรือหลักฐานใด ๆ เพิ่มเติมขณะนี้กำลังรวบรวม
ขณะที่จะมีการขยายผล โดยด้าน สอท. ได้เข้ามาดำเนินการแล้ว นำข้อมูลไปดำเนินการต่อ ทั้งส่วนของการดำเนินคดีกับคนที่มีการโกงเงินเด็กไป และตามเงินที่เสียไปกลับคืนมา เพราะถือว่าตัวเด็กก็เป็นผู้เสียหายด้วยเช่นกัน
เรื่องการสอบเด็กกับสหวิชาชีพจะนัดหมายอีกครั้ง โดยพรุ่งนี้จะนัดญาติมาสอบปากคำในฐานะผู้ปกครองของเด็ก ส่วนแม่เด็กติดเชื้อโควิด 19 โดยมียายของเด็กเป็นคนดูแลเป็นหลัก โรงเรียนยังมีความเป็นห่วงเรื่องการเรียนของเด็ก อยากให้เด็กได้เรียนจนจบการศึกษาก่อน
นายสมปอง สมนาค อายุ 59 ปี พลเมืองดี สื่อมวลชนอาวุโส เล่าว่า ช่วงที่เกิดเหตุตนเองเดินทางไปที่ห้างดังกล่าวกับภรรยา ช่วงที่กำลังเกิดเหตุภรรยาเดินไปซื้อของที่ชั้น 2 ตนเองกำลังยืนซื้อของเยื้องกับร้านทอง และสังเกตว่าสถานการณ์เริ่มไม่ปกติ เพราะเห็นว่าพนักงานร้านทองมีสีหน้า ท่าทางลุกลี้ลุกลน และหยิบทองจำนวนมากผิดปกติ ประกอบกับมีสองสามีภรรยาที่กำลังจะซื้อทองเดินมาบอกตนเองว่าน่าจะมีการปล้นทอง ตนเองจึงตัดสินใจไปนั่งอยู่บริเวณศูนย์อาหารเพื่อที่จะดูลาดเลา และถ่ายภาพขณะกำลังปล้น และมั่นใจว่ามีการปล้นแน่นอน
กระทั่งผ่านไปประมาณ 5 นาที ขณะที่หญิงวัย 17 วิ่งผ่านตนเองไปอย่างรวดเร็ว พนักงานร้านทองบอกกับตนเองว่ามีคนปล้นร้านทองให้ช่วยจับหน่อย จึงยื่นขาขวาสกัดให้ล้ม และบอกให้คนช่วยกันจับ แม่บ้านที่อยู่ใกล้จึงขึ้นคร่อมจับตัวทันที และเจ้าหน้าที่ตำรวจมาคุมตัวในที่สุด พร้อมใส่กุญแจมือ ที่ตนเองช่วยเหลือเพราะสัญชาติญาณทำไปเพราะอยากช่วย ไม่ได้คิดอะไร ถ้าหากมีการต่อสู้ ตนเองก็คงต้องสู้ วินาทีนั้นตนเองไม่ได้กลัว มาทราบภายหลังว่าเป็นเด็กหญิงอายุ 17 ปี ก็ตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่คิดว่าจะมาปล้นร้านทอง ตนเองยอมรับว่าอึ้งมากว่าเด็กจะกล้าทำถึงขนาดนี้จะทำอย่างไรได้
ด้านนายคำนึง พงษ์ศิลา อายุ 51 ปี และนายสุริยา ศรีสวัสดิ์ อายุ 51 ปี คนขับแท็กซี่หน้าห้างฯ เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุไม่ทราบว่า ผู้ก่อเหตุลงจากรถสายใด แต่มาสังเกตเห็นอีกครั้ง คือช่วงที่ผู้ก่อเหตุมีการเดินไปเดินมาอยู่บริเวณ ศาลารอรถประจำทางด้านหน้าห้าง โดยมีการนั่งบ้างยืนบ้าง คล้ายรออะไรบางอย่าง จึงคิดว่ามารอรถเมล์ตามปกติ
กระทั่งผ่านไปสักพัก ตนเองก็ออกไปส่งผู้โดยสารกลับมาอีกครั้ง ทราบว่าหญิงคนดังกล่าวได้ก่อเหตุแล้ว ตกใจเมื่อทราบว่าอายุเพียง 17 ปีเท่านั้น มองว่าช่วงที่ยืนอยู่บริเวณศาลารอรถ เป็นการชั่งใจ หรือคิดทบทวนอะไรบางอย่างก่อนจะเข้าไปก่อเหตุ และไม่ใช่มืออาชีพ ไม่เคยทำมาก่อน โดยตนเองไม่คุ้นหน้าเด็กที่ก่อเหตุมาก่อนด้วย
.jpg)
