แม่สาว 19 เศร้าคาใจลูกดับหลังฉีดแอสตร้าเข็มแรก เพื่อนช็อก! วิดีโอคอลก่อนตาย 2 ชม. (คลิป)

9 ก.ย. 64

กรณีน.ส.ณัฐรดา เชยวัดเกาะ อายุ 41 ปี ได้หอบหลักฐานเป็นหนังสือบันทึกข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 และหนังสือรับรองการตายของน.ส.อรกัญญา เชยวัดเกาะ หรือ “น้องพั้นช์” ลูกสาว อายุ 19 ปี เดินทางไปเข้าแจ้งความที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เนื่องจากยังคงติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของลูกสาว หลังจากเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19

997393

ล่าสุดวันที่ 9 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางเข้าไปพูดคุยกับน.ส.ณัฐรดา ที่วัดลาดปลาดุก ศาลา 4 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งสวดพระอภิธรรมศพของน้องพั้นช์ โดยบรรยากาศภายในวัดวันนี้เป็นวันที่ 2 ของการสวดพระอภิธรรมศพ ซึ่งเต็มไปด้วยความโศกเศร้าของบรรดาครอบครัวและเพื่อน ๆ

742938

น.ส.ณัฐรดา เปิดเผยว่า ปกติแล้วลูกสาวตนจะเป็นคนร่างกายเเข็งเเรง ไม่มีโรคประจำตัว ก่อนไปฉีดวัคซีนก็ไม่ได้กินยาอะไร สุขภาพจิตดี สนุกสนาน ร่าเริงแจ่มใส เพราะจองคิวฉีดวัคซีนให้ตัวเองและตนพร้อม ๆ กัน เนื่องจากมั่นใจว่าหากเป็นยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้าจะมีประสิทธิภาพดีกว่ายี่ห้ออื่น ๆ

769636

กระทั่งวันที่ 18 ส.ค.64 เวลา 11.19 น. ตนกับลูกสาวเดินทางไปฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเข็มแรกที่ SCG บางซื่อ หลังฉีดเสร็จ 30 นาที ตนทั้งคู่ไม่มีอาการอะไร ก็เลยแยกกันกลับบ้าน เพราะลูกสาวจะไปอยู่บ้านเช่ากับแฟนหนุ่มคนปัจจุบันอีกหลังหนึ่ง

เวลาประมาณ 12.00 น. ตนเริ่มปวดที่เเขนเล็กน้อย แต่ลูกสาวโทรศัพท์มาบอกว่ามีไข้ขึ้นสูงถึง 40 องศาเซลเซียส หนาว มือเท้าเย็น หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก ตนจึงแนะนำให้กินยาลดไข้ไป 2 เม็ด อาการก็ดีขึ้น พร้อมกันนี้ตนก็โทรศัพท์ไปปรึกษาญาติที่ทำงานเกี่ยวกับสาธารณสุข เขาแจ้งเพียงว่าอาจเป็นผลข้างเคียงและไม่น่าจะเป็นอะไรมาก

วันที่ 19 ส.ค.64 ตนเริ่มมีไข้ 37.8 องศาเซลเซียส ตัวรุม ๆ จึงกินยาลดไข้ไป 2 เม็ด อาการก็ดีขึ้น ในขณะที่ลูกสาวอาการคงที่เหมือนวันแรก

วันที่ 20 ส.ค.64 ช่วงเย็นตนเริ่มมีไข้เล็กน้อย จึงกินยาลดไข้ดักไป 2 เม็ด อาการก็ดีขึ้น และหลังจากนี้ก็ไม่มีอาการอีกเลย ส่วนลูกสาวอาการเหมือนวันแรก

วันที่ 21 ส.ค.64 ลูกสาวบอกว่าอาการดีขึ้น ไข้ลด อาการชา ตัวเย็นหายลดลง ไม่แน่นหน้าอก หายใจได้ปกติ

109141

วันที่ 22-31 ส.ค.64 ลูกสาวไม่มีอาการอะไร

วันที่ 1-2 ก.ย.64 ลูกสาวเริ่มปวดหัว มีไข้อ่อน ๆ ตัวร้อน ต้องกินยาลดไข้ตลอดทั้ง 2 วัน

วันที่ 3 ก.ย.64 อาการเริ่มดีขึ้น แทบจะไม่มีอาการใด ๆ

วันที่ 4 ก.ย.64 ช่วงค่ำ ลูกสาววิดีโอคอลมาคุยกับหลานที่ฝากตนเลี้ยง ตอนนั้นน้ำเสียง สีหน้าแววตายังปกติ

วันที่ 5 ก.ย.64 เวลา 10.00 น. ลูกสาวอยู่กับแฟน ก็ยังมีอาการปกติ สดใสร่าเริง ยังวิดีโอคอลคุยกับเพื่อน พูดคุยสนุกสนานได้ เวลา 10.30 น. ลูกสาวกำลังยืนตากผ้าอยู่ที่หน้าบ้าน ส่วนแฟนหนุ่มขึ้นไปอาบน้ำในบ้าน จู่ ๆ ลูกสาวก็เป็นลมหมดสติล้มลง นอนหงายอยู่ที่ราวตากผ้า แฟนของลูกสาวมาเห็นจึงเข้ามาเรียกและอุ้มเข้าบ้านเพื่อทำการ CPR ก่อนที่จะเห็นว่าอาการไม่ดี ไม่ได้สติ จึงโทรศัพท์แจ้ง 191

เวลา 11.00 น. เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็มีการสังเกตร่างกายผู้ตาย พบว่าตรงแขนเริ่มมีห้อเลือด เวลา 11.30 น. เจ้าหน้าที่นำศพไปชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.พ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติรังสิต เพราะกลัวว่าจะโดนทำร้ายร่างกายขณะตากผ้า และใจหนึ่งก็ยอมรับว่าคิดเหมือนกันว่าเป็นเพราะผลข้างเคียงของวัคซีน

912325

วันที่ 6 ก.ย.64 เวลา 14.00 น. ผลการชันสูตรออกมา แพทย์ระบุในหนังสือรับรองการตายว่า เสียชีวิตเฉียบพลัน โดยไม่ปรากฏสาเหตุเเน่ชัด ส่วนบริเวณทั่วร่างกายไม่พบบาดแผลที่บ่งบอกถึงการโดนทำร้าย จึงทำให้ทุกคนครอบครัวติดใจการเสียชีวิตเป็นอย่างมาก แต่ก็ต้องนำร่างผู้ตายมาบำเพ็ญกุศลศพที่วัด เวลา 15.50 น. นำศพมาถึงวัดลาดปลาดุก

หลังจากนั้นครอบครัวก็พยามหาคำตอบมาโดยตลอดว่า เสียชีวิตเพราะอะไร จึงเข้าแจ้งความและตั้งใจว่าจะเลื่อนกำหนดฌาปนกิจศพจากเดิมที่เป็นวันนี้ไปก่อน เพราะหลังจากนี้จะได้เข้าไปปรึกษากับ สปสช.นนทบุรี เพื่อให้แพทย์นิติเวชนำเซลล์ร่างกายของลูกสาวไปชันสูตรในห้องแล็บของ รพ.รามาธิบดีอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ซึ่งจะต้องรอผลตรวจ 45 วัน

405222

ทั้งนี้ตนจึงอยากขอความเป็นธรรมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากที่ผ่านมาลูกสาวเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำงานเป็นช่างทำเล็บและไลฟ์สดในแอปพลิเคชัน ในขณะที่ยังเรียนอยู่ ปวช.ปี 3 อีกทั้งยังมีลูกสาว “น้องแพรวา” วัย 4 ขวบที่มีกับสามีเก่าต้องเลี้ยงดูด้วย ดังนั้นกลายเป็นว่าตอนนี้เด็กต้องกำพร้าทั้งพ่อทั้งแม่ก็ยิ่งน่าเศร้า เดิมทีลูกสาวมีภาระต้องรับผิดชอบหลายอย่าง อาทิ ต้องจ่ายค่าเทอมลูกสาวเทอมละ 18,000 บาท ส่งเงินให้ตนเดือนละ 5,000-6,000 บาท ค่าเช่าบ้านกับแฟนใหม่เดือนละ 6,000 บาท (จ่ายร่วมกับแฟน) ค่าผ่อนเฟอร์นิเจอร์ที่เพิ่งซื้อเดือนละ 5,000-6,000 บาทอีก 11 เดือน จากรายได้ทั้ง 2 ทางรวมกัน ประมาณเดือนละ 18,000 - 20,000 บาท

"ลูกสาวมาเข้าฝัน มาหาหลายคนมาก อย่างวันที่ตายก็มาหาญาติที่มีจิตสัมผัสเพื่อให้ช่วยเหลือ แต่ตอนนั้นไม่สามารถช่วยอะไรได้แล้ว เพราะลูกเสียชีวิตไปสักพักแล้ว หลังจากนั้นก็มาหาป้าให้ช่วยหาตุ๊กตาสีเขียวที่อยู่ภายในบ้าน ซึ่งตุ๊กตาตัวนี้พอแฟนใหม่ของเขาไปหาก็พบว่ามีอยู่จริง ซึ่งเป็นตุ๊กตาที่อดีตสามีเคยซื้อให้ ส่วนตัวแล้วคาดว่าลูกสาวคงรักมาก จึงอยากให้ครอบครัวเก็บตุ๊กตาตัวนี้มาไว้หน้าโลงและให้อยู่กับหลาน เพื่อกลายเป็นเครื่องแทนใจให้กับครอบครัว" แม่ของผู้ตาย กล่าว

720763

นายอาจหาญ ไพบูลย์” หรือ “นายบิ๊ก” อายุ 29 ปี แฟนหนุ่มคนปัจจุบันของผู้ตาย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปี กว่า ๆ ที่ตนอยู่ด้วยกัน เขาเป็นคนร่าเริง แจ่มใส ชอบออกกำลังกาย ส่วนเรื่องเที่ยวสังสรรค์ก็มีบ้าง แต่เวลาไปก็แทบจะไม่ดื่ม จึงทำให้เขาไม่เคยมีอาการป่วยจนต้องเข้าโรงพยาบาล หรือมีโรคประจำตัวที่ต้องกินยาเป็นประจำ

632543

โดยเหตุผลที่เขาตัดสินใจลงทะเบียนเข้ารับการฉีดวัคซีนนั้น เขาบอกกับตนไว้ว่า เพราะงานที่ทำเป็นงานบริการ งานทำเล็บ ก็เลยมองว่าต้องรับวัคซีนเพื่อความปลอดภัย ตอนแรกก็คุยกันว่าจะจองวัคซีน แต่ก็จองไม่ทัน จึงต้องไปฉีดแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งคืนก่อนไปรับวัคซีนเขาก็ปฏิบัติตามคำแนะนำของสาธารณสุขทุกอย่าง นอนประมาณ 22.00 น. ดื่มน้ำเยอะ ๆ ไม่ดื่มกาแฟ ไม่เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของดื่มแอลกอฮอล์ แต่อาจจะมีอาการตื่นเต้นและกังวล เพราะกลัวผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน

631613

หลังจากฉีดเสร็จ เมื่อกลับมาถึงบ้านเขาก็กินยาลดไข้ดักไว้ 2 เม็ด เพราะเริ่มมีอาการตัวร้อน แต่อาการก็สวิงไปมาตลอด ตนก็เลยคิดว่าคงเป็นผลข้างเคียง ไม่คิดว่าจะถึงขั้นเสียชีวิต ส่วนตัวมั่นใจว่าสาเหตุการเสียชีวิตของแฟนสาวเป็นผลข้างเคียงของวัคซีน ดังนั้น ครอบครัวจึงตัดสินใจเลื่อนกำหนดการฌาปนกิจศพออกไปแบบไม่มีกำหนด เพื่อส่งเซลล์ร่างกายไปชันสูตรรอบ 2 ตนก็หวังว่าหน่วยงานที่รับผิดชอบจะให้ความเป็นธรรม

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตนจะเป็นแค่แฟนหนุ่ม ก็อยากจะบอกเขาว่าหลังจากนี้จะช่วยเลี้ยงดูลูกสาววัย 4 ขวบไปเรื่อย ๆและจะทำให้ดีที่สุดให้สมกับความรักที่มีให้กัน จะมอบความรักให้เหมือนเป็นลูกของตัวเอง จะไม่หายไปอย่างแน่นอน ตนจึงอยากบอกกับผู้ตายว่าหลังจากนี้ไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว

696969

น.ส.มณฑา โสมเกตริน หรือ “แป้ง” อายุ 24 ปี เพื่อนสนิทของผู้ตาย กล่าวว่า ตอนแรกที่ผู้ตายไปฉีดวัคซีนแล้วมีอาการป่วย ตนก็รู้เพราะว่าเขาวิดีโอคอลมาเล่าให้ฟัง แต่หลังจากนั้นก็เห็นว่าหายดีแล้ว กระทั่งวันที่ 5 ก.ย.64 เวลา 10.07 น. ผู้ตายวิดีโอคอลมาคุยเรื่องงาน อยากให้ตนรีวิวเล็บให้ เพราะวันก่อนหน้านั้นตนไปใช้บริการทำเล็บ ตนก็ถามกลับไปว่า “วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ” ผู้ตายก็ตอบว่า “ทำพี่ แต่หนูขอตากผ้าก่อน” มารู้อีกทีเวลา 12.30 น. มีเพื่อนอีกคนโทรศัพท์มาบอกว่า “พั้นช์” ตายแลัว ตอนนั้นก็ยังไม่เชื่อ ตนจึงโทรศัพท์ไปเช็กกับร้านทำเล็บ ที่ร้านบอกว่าผู้ตายไม่ได้ไปทำงาน วินาทีนั้นก็เริ่มใจเสียแล้ว จึงโทรศัพท์ไปเช็กกับแฟนของผู้ตาย จึงรู้ว่าเสียชีวิตแล้วจริง ๆ

ทั้งนี้ ส่วนตัวยอมรับว่าช็อกมาก ๆ เพราะเพิ่งจะคุยกันแค่ไม่กี่ชั่วโมง ตอนนั้นสีหน้าแววตาของเขาทุกอย่างยังคงปกติมาก เหมือนกับคนเพิ่งตื่น แค่อาจจะดูซีด ๆ เพราะไม่แต่งหน้า และเพื่อนก็เป็นคนผิวขาว เมื่อผลการชันสูตรออกมาว่าเสียชีวิตเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ ตนก็ปักใจเชื่อเลยว่าเป็นผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนอย่างแน่นอน ตนจึงอยากขอความเป็นธรรม และขอความเห็นใจกับครอบครัวของผู้ตาย เนื่องจากที่ผ่านมาเขาเป็นเสาหลักของบ้าน เลี้ยงดูลูกและครอบครัว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส