รวบเขยเหี้ยมบุกยิงแม่เลี้ยง เมียหวั่นฮุบสมบัติ พ่อตาโดดช่วยตายคู่ ญาติแฉแย่งกล้วยด่าง (คลิป)

จากกรณี วันที่ 5 ก.ย.64 เวลา 20.35 ร.ต.อ.คำนึง สงขวัญ สภ.จุฬาภรณ์ รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายเสียชีวิต 2 ศพ ที่บ้านควนตอ ม.8 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช

ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ นายบุญธรรม ปะณะรัตน์ อายุ 48 ปี สภาพศพนอนตะแคง สวมเสื้อกล้าง กางเกงขาสั้น พบปลอกกระสุนใกล้เคียงผู้เสียชีวิต มีแผลบริเวณหน้าผาก 4 ซม. มีบาดแผลบริเวณหางคิ้วซ้าย 1 ซม. มีแผลเปิดที่ศีรษะ 10 ซม. กระดูกหม่อมแตก แขนซ้ายมีแผล 5 ซม.

ส่วนสภาพศพของ น.ส.อุมา แป้นแก้ว อายุ 48 ปี นอนหงายสวมเสื้อแขนสั้น ผ้าถุง พบปลอกกระสุนใกล้เคียงผู้เสียชีวิต มีแผลที่ศีรษะ 4 ซม. มีบาดเเผลใต้คางซ้าย 4 ซม. แขนด้านซ้าย 1.5 ซม. ข้อพับในด้านซ้าย 2 ซม. หัวเข่าด้านขวา 1-2 ซม. เบื้องต้น คาดว่าเป็นปมการขัดแย้งของครอบครัว

ล่าสุด วันที่ 6 ก.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บ้านควนตอ ม.8 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ตั้งอยู่กลางป่ายางท้ายหมู่บ้าน ในที่เกิดเหตุยังมีร่อยรอยคราบเลือดที่หน้าประตูบ้าน ใกล้กับคราบเลือดยังมีมีดพร้าที่มีคราบเลือดติดอยู่ 1 เล่ม ส่วนบริเวณบ้านมีรถจอดอยู่ 3 คัน ปิกอัพ 1 คัน และรถจักรยานยนต์ 2 คัน ภายในบ้านไม่มีคนอยู่ แต่ไฟยังเปิดอยู่

นายบ่าว อายุ 37 ปี เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร บอกว่า เมื่อคืนนี้ 20.00 น. ตนนั่งกินเหล้าอยู่หน้าบ้าน ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 6 นัด แต่ไม่ได้ออกไปดูเพราะว่าไม่รู้เสียงปืนดังมาจากทางไหน ไม่นานรถกู้ภัยก็วิ่งเข้ามาจึงรู้ว่าเพื่อนบ้านที่เป็นคู่ผัวเมียถูกยิงเสียชีวิต ตนยังไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตถูกยิงด้วยเรื่องอะไร แต่ผู้เสียชีวิตใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวแค่ 2 คน

ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจได้ขออนุมัติศาลจังหวัดทุ่งสง ออกมาจับนายสมภักดิ์ รอดภัย หรือ เปี๊ยก อายุ 34 ปี ในข้อหา ฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็น เร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์

เวลา 16.00 น. นายเปี๊ยกถูกตำรวจรวบตัวไว้ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ระหว่างทางที่จะย้อนกลับมาขอมอบตัว ที่ หมู่ 3 บ้านควนโตน ต.สามตำบล อ.จุฬาภรณ์ จ.นครศรีธรรมราช กับผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งตำรวจใช้เวลาสืบสวนจับกุมตัวนายเปี๊ยกได้ภายใน 24 ชั่วโมง

โดยตำรวจเค้นสอบนายเปี๊ยกประมาณ ทีมข่าวถามว่าก่อเหตุจากปมเหตุขัดแย้งเรื่องที่ดินหรือไม่ มีอะไรจะขอโทษหรือบอกอะไรกับครอบครัวผู้ตายหรือไม่ นายเปี๊ยกไม่ปริปาก มีสีหน้าเครียดตลอดเวลา จากการสอบสวนเบื้องต้นนายเปี๊ยกให้การรับสารภาพ และจะมีการนำตัวนายเปี๊ยกไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันพรุ่งนี้

ที่งานศพ นางสาวทราย (นามสมมติ) ลูกสาวของนายบุญธรรมผู้ตาย และภรรยาของนายเปี๊ยก คนก่อเหตุ เจ้าตัวก็มาร่วมงานศพของพ่อตัวเองที่วัดควนแดงบนด้วย ไม่ขอพูดหรือให้ข้อมูล เพราะยังคงเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และรู้สึกหดหู่ เนื่องจากฝั่งคนก่อเหตุก็คือสามี ฝั่งผู้เสียชีวิตก็คือพ่อแท้ ๆ ของตัวเอง

ส่วนศพของนางอุมา ญาติได้นำศพมาจัดพิธีทางศาสนาที่บ้านในหมู่ 5 ต.ทุ่งโพธิ์ อ.จุฬาภรณ์ ห่างจากวัดที่ตั้งศพนายบุญธรรมแค่ 500 เมตร บรรยากาศในงานศพมีเพียงญาติของนางอุมาเท่านั้น

น.ส.อัญธิกา ปานรักษ์ อายุ 26 ปี เป็นลูกสาวของนางอุมา เปิดใจกัว่า ตนได้เจอกับแม่ครั้งสุดท้ายก็คือช่วงเย็นก่อนจะเกิดเหตุ หลังจากที่แม่กลับมาที่บ้าน แต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก เพราะว่าตัวแม่เองเวลามีปัญหาอะไรมาก็ไม่เคยบอก เพราะกลัวว่าตนจะไม่สบายใจ แต่ตนแอบไปแอบได้ยินที่แม่มายืนคุยกับญาติที่หน้าประตูว่าไปมีเรื่องและมีปัญหากับนายเปี๊ยกมา หลังจากได้ยินก็ไม่ได้เอะใจ เพราะคิดว่าเรื่องปัญหานี้เป็นปัญหากันมานานแล้ว

จนกระทั่งช่วง 20.00 น. มีญาติโทรมาบอกว่าได้ยินเสียงปืนดังขึ้นตรงจุดที่แม่อาศัยอยู่หลายนัด ตนก็เลยโทรไปหาแม่ แต่แม่ไม่รับโทรศัพท์ จึงชวนแฟนขับรถออกไปดูแม่ ก็ภาวนาระหว่างทางว่าเสียงปืนที่ญาติได้ยินคงไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับแม่ พอไปถึงที่เกิดเหตุ ก็เห็นกู้ภัยกำลังเก็บศพนายบุญธรรมอยู่ ใจก็ชื่นขึ้นมา เพราะไม่เห็นศพแม่ จากนั้นตนและแฟนได้ยินเสียงกู้ภัยพูดกันว่ามีอีกศพ ตนก็ให้แฟนเดินเข้าไปดูว่าอีกศพเป็นศพใคร แฟนเดินกลับมาบอกว่าอีกศพคือศพแม่ ตอนนั้นใจแทบสลาย ทำอะไรไม่ถูก พูดอะไรไม่ออก ได้แต่เดินไปดูศพแม่แล้วก็ยืนร้องไห้รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำไมคนที่ทำร้ายแม่มันโหดร้ายขนาดนี้

ก่อนหน้านี้ตนเคยเตือนกับแม่แล้วว่าถ้าหากมีปัญหากับครอบครัวนายบุญธรรมก็กลับมาอยู่บ้าน เดี๋ยวลูกสาวคนนี้จะทำงานหาเงินเลี้ยงแม่เอง แต่แม่ก็บอกแค่ว่าต้องอยู่ช่วยลุงบุญธรรมทำงาน เพราะลุงบุญธรรมไม่มีใคร ตนก็ได้แต่เข้าใจว่าแม่มีความสุขดีแล้ว และไม่คิดมาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น แม่จากไปโดยไม่ร่ำลากันสักคำ ส่วนตัวยอมรับว่าไม่เคยรู้จักหรือพูดคุยกับนายเปี๊ยก แต่เคยพูดคุยกับนางทราย ลูกสาวของนายบุญธรรม ซึ่งนางทรายเคยโทรมาพูดกล่าวหาแม่กับตนว่าจ้องจะเอาสมบัติของนายบุญธรรม ตนก็ได้แต่บอกไปว่าแม่กับตนไม่เคยคิดจะหวังสมบัติของนายบุญธรรม บอกแม่แล้วแต่แม่ยืนยันจะอยู่กับนายบุญธรรมด้วยความรัก

ถ้าหากตำรวจจับตัวนายเปี๊ยกได้ ก็อยากจะถามว่ายิงแม่ของตนทำไม มีปัญหาอะไรทำไมไม่พูดจากันดี ๆ ทำแบบนี้มันไม่แมนเลย ซึ่งแม่ก็เป็นเพศเดียวกันกับแม่ของเขา

นอกจากนี้ ญาติบอกว่านายเปี๊ยกก็มีปากเสียงกับนางอุมาอย่างรุนแรง จับใจความได้ว่าเรื่องที่ดินและเรื่องกล้วยด่างที่มีราคาสูงหลักแสนบาท จากนั้นนายเปี๊ยกก็ยิงใส่นางอุมาที่หัว 1 นัด และยิงไปที่หลังอีก 4 นัด จนนางอุมาล้มกองไปนอนที่พื้น ส่วนนายบุญธรรมเห็นว่าเมียถูกยิงก็พยายามลุกขึ้นยืน ขณะที่ในมือถือมีดพร้าอยู่ จนทำให้นายเปี๊ยกเข้าใจว่าจะหยิบมีดขึ้นมาฟัน แล้วก็รัวยิงใส่นายบุญธรรมอย่างไม่ยั้ง จนนายบุญธรรมล้มไปนอนจมกองเลือด ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป