เพชรบูรณ์ ผู้เสียหายหญิง 2 ราย หอบเอกสาร หลักฐาน ร้องผู้สื่อข่าว หลังถูกหลอกลวงสั่งซื้อลอตเตอรี่ สูญเงินรวมกันกว่า 15 ล้านบาท เผยพฤติกรรมคนละแบบ รายหนึ่งถูกนำลอตเตอรี่มาวนซ้ำ อีกรายกลายเป็นลอตเตอรี่ทิพย์
วันที่ 5 กันยายน 2564 ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นหญิงสาว 2 ราย ได้หอบหลักฐานการโอนเงิน และเอกสารการแจ้งความ ร้องผู้สื่อข่าว หลังจากถูกคู่กรณี ซึ่งเป็น 2 พยาบาลสาวร่วมมือกัน หลอกลวง คนหนึ่งนำลอตเตอรี่มาขาย ขณะที่อีกคนทำทีติดต่อขอซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลเล่มเดียวกัน ก่อนนำกลับมาวนขายให้กับลูกค้ารายอื่นๆ ต่อไป ทำให้ได้รับความเสียหาย รวมเป็นเงินทั้งหมด 15,918,000 บาท แม้ทั้งคู่ จะเข้าแจ้งความแล้ว โดยกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์ แต่ว่าคดียังไม่คืบ จึงออกเดินหน้าขอความเป็นธรรม
โดยเหตุการณ์ดังกล่าว ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อ นางสาวกุสุมาพร ศรีแสน อายุ 37 ปี อยู่ 199/102 หมู่ 13 ต.สะเดียง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ หนึ่งในผู้เสียหาย ซึ่งมีอาชีพจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้นำหลักฐานเข้าร้องสื่อ หลังจากถูก นางสาวเอ และ นางสาวบี หญิงสาว 2 ราย ซึ่งเป็น เจ้าหน้าที่พยาบาลในโรงพยาบาลแห่งหนึ่งของ จังหวัดเพชรบูรณ์ ทำทีเสนอขายสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือลอตเตอรี่ให้ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด จึงเกิดความสนใจ จนเกิดทำการติดต่อซื้อขายกันขึ้น
โดยในตอนแรกนั้น ผู้เสียหายได้ทำการสั่งซื้อลอตเตอรี่ พร้อมทั้งมีการโอนเงินจ่ายให้เต็มจำนวน ซึ่งพอถึงวันรับลอตเตอรี่นั้น นางสาวเอ (ขอสงวนชื่อนามสกุล) คู่กรณีบุคคลที่ 1 ก็จะนำลอตเตอรี่ มามอบให้จริง แต่ว่าไม่ครบตามจำนวนเงินที่สั่งซื้อ โดยอ้างว่าเดี๋ยวไปตามส่วนที่เหลือมาเพิ่มให้ ขณะเดียวกัน ก็ทำทีอ้างว่าจะแนะนำลูกค้ามารับซื้อต่อ จากนั้นก็มีนางสาวบี (ขอสงวนชื่อนามสกุล) คู่กรณีบุคคลที่ 2 ซึ่งทราบภายหลังว่า คู่กรณีทั้ง 2 เป็นเพื่อนกันได้มาทำทีขอซื้อลอตเตอรี่จากผู้เสียหาย พร้อมทั้งจ่ายเงินสดซึ่งผู้เสียหาย ก็ไม่ได้เอะใจอย่างใด
ต่อมา นางสาวเอ (ขอสงวนชื่อนามสกุล) คู่กรณีบุคคลที่ 1 ก็ได้นำลอตเตอรี่ในส่วนที่ค้างอยู่มาเติมให้จนเต็ม โดยที่ผู้เสียหายไม่ได้สงสัยเลยว่าลอตเตอรี่ ที่นำมาให้เพิ่มเติมนั้น คือ ลอตเตอรี่ที่ขายไปให้นางสาวบี (ขอสงวนชื่อนามสกุล) บุคคลที่ 2 ก่อนถูกนำมาเวียนเทียน มอบให้แก่ผู้เสียหายเป็นอยู่เช่นนี้ระยะหนึ่ง กระทั่งมาระยะหลังเริ่มมีปัญหาเกิดขึ้น เมื่อคู่กรณีคือนางสาวบี (ขอสงวนชื่อนามสกุล) บุคคลที่ 2 เริ่มไม่จ่ายเงินสด และขอเครดิต นำลอตเตอรี่ไปขายก่อน พร้อมไม่ยอมจ่ายเงินในส่วนนี้
กระทั่ง งวดล่าสุด ได้มีการสั่งซื้อ และตกลงกันว่า จะนำลอตเตอรี่ มามอบให้กับผู้เสียหาย ภายในวันที่ 20 กรกฎาคม 2564 เวลาประมาณ 20.00 น. แต่พอถึงเวลานัดหมาย คู่กรณีกลับไม่มีสลากมาให้และยอมรับว่าไม่มีสลากมาให้ได้แต่อย่างใด และไม่มีเงินมาคืนให้ด้วย ทำให้สูญเงินในครั้งนี้ กว่า 7 ล้านบาท และที่เจ็บใจไปกว่านั้น ระยะหลังผู้เสียหาย เริ่มสงสัยว่าลอตเตอรี่ในส่วนที่เหลือ จากการให้ไม่ครบจำนวน ในแต่ละงวดนั้น กลับถูกนำมาวนให้กับทางผู้เสียหายซ้ำ จึงแอบถ่ายเลขสลากเก็บเอาไว้พอรับลอตเตอรี่ส่วนที่เหลือ ผลก็คือ เลขสลากคือชุดเดียวกันเลยโป๊ะแตกขึ้นมา
ส่วนผู้เสียหายอีกราย (ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ) เล่าว่า ตนเองนั้น จะทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ติดต่อหาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลกับสาวพยาบาล ซึ่งเป็นคู่กรณีหญิงทั้ง 2 เพื่อนำมาขายต่อให้กับผู้ที่มาสั่งซื้อลอตเตอรี่จากตนอีกครั้ง โดยทำการซื้อขายกันมานานกว่า 9 เดือน หรือ ทั้งหมด 18 งวดแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา ตนก็จะต้องโอนเงินสดเพื่อสั่งซื้อลอตเตอรี่ ตามราคาที่ตกลงกันในแต่ละงวด ซึ่งก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ได้ลอตเตอรี่มาครบตามจำนวนทุกครั้ง
กระทั่งล่าสุด ช่วงเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้ตกลงรับมอบลอตเตอรี่กัน แต่ปรากฏว่างวดนี้ กลายเป็นลอตเตอรี่ทิพย์ เพราะคู่กรณีทั้ง 2 อ้างว่าไม่มีลอตเตอรี่ มาให้ ทำให้ตนต้องสูญเงินไปกว่า 8 ล้านบาท หนำซ้ำเงินจำนวนนี้ ก็เป็นเงินของคนขายลอตเตอรี่ ที่ฝากซื้ออีกที จึงต้องแสดงความรับผิดชอบ กู้ยืมเงินมาจ่ายคืนไปแล้วบางส่วน และต้องหาคืนให้ครบตามจำนวนทั้งหมด แต่หลังจากพากันไปแจ้งความ กลับพบว่า ยังไม่มีความคืบหน้า และคู่กรณีทั้ง 2ก็ยังคงใช้ชีวิต ทำงานตามปกติ
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยัง สาวพยาบาล ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่า หลอกขายลอตเตอรี่ทำให้ทราบว่าเรื่องดังกล่าวเกิดจากตนนั้นได้ทำการซื้อขายกับผู้เสียหายมานานแล้ว ซึ่งงวดที่มีปัญหานั้นเกิดจากการที่ตนนั้นหมุนเงินไม่ทัน ตนจึงทำการซื้อลอตเตอรี่ในราคาที่ตกลงกันไม่ได้ แต่ตนนั้นรับปากว่ายังไงรับผิดชอบแน่นอน ซึ่งได้แจ้งทางผู้เสียหายไปคราวๆ แล้ว แต่ด้วยที่ว่าจำนวนเงินนั้นค่อนข้างเยอะ โดยทางผู้เสียหายนั้นก็ได้ไปตามกระบวนการของกฎหมาย ทางตนนั้นก็ไปตามขั้นตอนที่ตำรวจนั้นทุกครั้ง ซึ่งตอนนี้ชื่อเสียงตนนั้นไม่มีใครมาให้เครดิตแล้ว เพราะด้วยจำนวนเงินนั้นค่อนข้างเยอะ
ตนอยากจะวอนขอร้องหลายฝ่ายเห็นใจตนด้วย จากกรณีที่เงินได้รับจากผู้เสียหายมาแล้วนั้น เราได้แจ้งว่าเราหมุนเงินไม่ทัน นั้นด้วยเพราะเหตุที่ว่าเรานั้นรับเงินมาแล้ว เราหาลอตเตอรี่ในราคาที่ตกลงกันไม่ได้ เราจึงต้องไปซื้อในราคาที่แพงกว่า ตนจึงพยายามไปหากู้เงินทางอื่นมาหมดแล้ว จนทำให้ขาดสภาพคล่อง พอเป็นแบบนี้หนักๆ หลายครั้งจึงทำให้ตนนั้นขาดทุน แต่ตนนั้นยืนยันว่า ตนนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะไปฉ้อโกงแต่อย่างใด ซึ่งตอนนี้ทางผู้เสียนั้นก็ได้ไปดำเนินการหลายอย่างแล้ว ทั้งโพสต์โซเชียล ร้องศูนย์ดำรงธรรม รวมไปถึงร้องหน่วยงานตนสังกัดของตน ตนนั้นยอมรับว่าเครียดมาก ซึ่งยอดเงินนี้ตนนั้นได้ทำการติดต่อกันมาจากหลายคน ตนนั้นไม่มีเจตนาที่จะหนีเลย พยายามดิ้นรนอยู่ ไปทำงานปกติ ซึ่งทีแรกตนคิดว่าหมุนเงินทัน คิดว่าจะเคลียร์ยอดค้างได้ แต่สุดท้ายก็ขาดสภาพคล่องจริงๆ
จากการสอบถามนางสาวกุสุมาพร ศรีแสน ผู้เสียหาย เล่าว่าคนที่โกงลอตเตอรี่นั้นเป็นข้าราชการ ในส่วนของตนนั้นสูญเงินไปประมาณ 8 ล้านบาท ส่วนพี่อีกคนนั้นประมาณ 7 ล้านกว่าบาท รวมทั้งหมด 15 ล้าน โดยคนที่หลอกนั้นใช้วิธีการโดย คนแรก(นางสาวเอ )นั้นเข้ามาทำความรู้จักก่อนว่า จะมีลอตเตอรี่ นั้นให้ ซึ่งเรานั้นต้องโอนเงินจองไปก่อน พอถึงวันที่นัดหมาย ก็จะเอาลอตเตอรี่ มาให้เรา โดยทำแบบนี้ครั้งแรก
พอรอบถัดไปนั้น นางสาวเอ คนแรก ก็จะแนะนำคนซื้อให้เรา (นางสาวบี) โดยแนะนำมาเหมือนเป็นคนซื้อ แต่เขาก็จะอ้างว่าทั้งนางสาวเอ และนางสาวบี ไม่รู้จักไม่ได้สนิทอะไรกัน โดยคนที่ 2 คือ (นางสาวบี) นั้นมาทำที ตัดลอตเตอรี่ ไปโดยจ่ายเป็นเงินสดครั้งละ 1-2 ล้าน พอทำแบบนี้ได้ 4-5 ครั้ง ครั้งต่อไปนั้นได้ขอค้างจ่ายกับเรา โดยได้บอกว่าเมื่อรับสลากจากเราไปแล้ว จะขอเคลียร์ภายใน 4-5 วัน ตนนั้นมารู้ตัวก็ต่อเมื่อได้รับลอตเตอรี่ ไม่ครบตามที่ตกลงกัน ซึ่งมีเหตุการณ์อยู่หนึ่งครั้งเป็นการวนลอตเตอรี่ คือ (นางสาวเอ ) ขายลอตเตอรี่ให้เรา (นางสาวบี ) มารับซื้อแล้ว (นางสาวเอ) ก็มีลอตเตอรี่เพิ่มมาขายให้เราอีก ที่เรารู้เพราะว่าเราได้มีการถ่ายเลขเล่มสลาก ก่อนที่เราจะส่งให้(นางสาวบี) เราจึงเอะใจว่า 2 คนนี้ไม่รู้จักกันหรือ เพราะว่าเป็นคนแนะนำมาให้เรา โดยตอนนี้ได้ดำเนินการแจ้งความแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีการติดต่อจากอีกฝ่ายแต่อย่างใด
ส่วนผู้เสียหายอีกราย (ไม่ขอเปิดเผยชื่อ) เล่าว่า ตนเองนั้นจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางติดต่อหาซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล กับคู่กรณีหญิงทั้ง 2 เพื่อนำมาขายต่อให้กับผู้ที่มาสั่งซื้อจากตนอีกครั้ง โดยทำการซื้อขายกันมานานกว่า 9 เดือน หรือ ทั้งหมด 18 งวดแล้ว ซึ่งที่ผ่านมา ตนก็จะต้องโอนเงินสดเพื่อสั่งซื้อลอตเตอรี่ ตามราคาที่ตกลงกันในแต่ละงวด ซึ่งก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ได้ลอตเตอรี่ครบตามจำนวนทุกครั้ง
กระทั่งล่าสุดเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้ตกลงรับมอบลอตเตอรี่กันแต่ปรากฏว่า งวดนี้กลายเป็นลอตเตอรี่ทิพย์ เพราะคู่กรณีทั้งสอง อ้างว่าไม่มีลอตเตอรี่มาให้ ทำให้ตนต้องสูญเงินไปกว่า 8 ล้านบาท หนำซ้ำเงินจำนวนนี้ ก็เป็นเงินของคนขายลอตเตอรี่ฝากซื้ออีกที จึงต้องแสดงความรับผิดชอบ กู้ยืมเงินมาจ่ายคืนไปแล้วบางส่วน และต้องหาคืนให้ครบตามจำนวนทั้งหมด แต่หลังจากพากันไปแจ้งความ กลับพบว่ายังไม่มีความคืบหน้า และคู่กรณีทั้งสองก็ยังคงใช้ชีวิต ทำงานตามปกติ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สมรักษ์ คําสิงห์ ถูกโกงลอตเตอรี่ 11.7 ล้านบาท เตรียมเข้าแจ้งความวันนี้ 15.00 น.
- ยายจ้างวินมอเตอร์ไซค์ไปขึ้นเงินลอตเตอรี่ 8 พัน ถูกเชิดหายไป ติดต่อไม่ได้
- รวบสาวปลอมลอตเตอรี่รางวัลที่ 2 หวังเคลมเงินแสน อ้างผัวสั่งให้เอามาแลก