สธ.เผยชะลอซื้อซิโนแวค ตั้งแต่เดือนตุลาคมจะระดมฉีด แอสตร้าเซนเนก้า และ ไฟเซอร์ ส่วนคนที่หายป่วยจากโควิด ภายใน 3 เดือน ต้องได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการประชุมของศูนย์ปฏิบัติฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข (ศปก.สธ.) มีมติอนุมัติสูตรฉีดวัคซีนโควิด-19 ของประเทศไทย โดยอาศัยคำแนะนำจากคณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันป้องกันโรคและอิงจากผลการวิจัยในต่างประเทศใหม่ๆ มีคำแนะนำกำหนดสูตรฉีดวัคซีน คือ
1.วัคซีนสูตรไขว้ซิโนแวคเป็นเข็ม 1 ตามด้วยแอสตร้าเซนเนก้าเป็นเข็ม 2 (Sv+Az) ห่างกัน 3-4 สัปดาห์ กลุ่มเป้าหมายอายุ 18 ปีขึ้นไป
2.สูตรแอสตร้าฯ เข็มที่ 1 ตามด้วยไฟเซอร์เป็นเข็มที่ 2 (Az+Pz) ห่าง 4-12 สัปดาห์ สำหรับกลุ่มที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โดยจะมีการใช้อย่างแพร่หลายในเดือนหน้า (ต.ค.)
3.สูตรการฉีดวัคซีนในกลุ่ม บูสเตอร์สำหรับคนฉีดซิโนแวค 2 เข็ม กำหนดให้ฉีดเข็ม 3 ด้วยแอสตร้าฯ (Sv+Sv+Az) เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน
ส่วนคนที่หายป่วยจากโควิด -19 จำนวนหลายแสนคน คณะกรรมการเห็นตรงกันว่า ควรมีการฉีดวัคซีนหลังจากหายป่วยแล้วอย่างน้อย 1 เดือน และภายใน 3 เดือน ต้องได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน
นพ.โสภณ กล่าวว่า จากสถานการณ์ปัจจุบัน มีประชากรไทยรับวัคซีนไปแล้ว 34 ล้านโดส ส่วนการจัดหาวัคซีนเพื่อให้เพียงพอกับเป้าหมายการฉีดที่ 70% ในส่วนวัคซีนซิโนแวค จะมีการนำเข้าถึงเดือน ต.ค.นี้ โดย ก.ย.และ ต.ค. และมีวัคซีนเข้ามาเดือนละ 6 ล้านโดส จากนั้นจะหยุดนำเข้าเพื่อปรับมาให้สอดคล้องกับสูตรการฉีดวัคซีนในเดือน ต.ค. ที่จะมีการเริ่มฉีด Az+Pz แทน
สำหรับการพิจารณาสั่งซื้อซิโนแวคจากนั้นต่อไปจะทำต่อเมื่อพบว่ามีการพัฒนาวัคซีนในสูตรใหม่ๆ ที่ครอบคลุมการระบาดหรือวัคซีนในเด็ก เนื่องจากวัคซีนเชื้อตายถือว่าเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ การชะลอซื้อซิโนแวค เพราะต้องรอดูวัคซีนรุ่นใหม่ของเขาที่เจาะจงกับสายพันธุ์ปีนี้ ซึ่งวัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันเป็นวัคซีนที่พัฒนามาจากเชื้ออู่ฮั่นทั้งสิ้น
ส่วนวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจะมีจำนวนวัคซีนเข้ามาเพิ่มมากขึ้นในเดือน ก.ย. จำนวน 7.3 ล้านโดส และ ต.ค. จำนวน 10 ล้านโดส และ พ.ย.และ ธ.ค.เดือนละ 13 ล้านโดส ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ จะมีวัคซีนเข้ามา ก.ย. จำนวน 15.3 ล้านโดส ต.ค. จำนวน 24 ล้านโดส และพ.ย.และ ธ.ค. เดือนละ 23 ล้านโดส