เปิดใจ แม่โจรโคตรแสบ 1 วันชิงรถ 4 คัน ยิงคนเจ็บ-ตาย ปมติดยา ของดประกันดัดสันดาน (คลิป)

10 ต.ค. 61
จากเหตุการณ์ที่นายพรชัย ไหมคง ชาวบ้าน อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ขับรถยนต์กระบะไปจอดซ่อมที่อู่ลิ้มเจริญยนต์ ม.1 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง ก่อนที่จะอาศัยจังหวะที่เจ้าของอู่เผลอ แล้วแอบขโมยรถยนต์กระบะตอนครึ่ง ขับออกไปบ้านระวิ ต.บางพระเหนือ อ.ละอุ่น ก่อนที่จะนำรถกระบะคันดังกล่าวไป จอดซ่อนไว้ในซอยสวนปาล์มของชาวบ้าน จากนั้นไปก่อเหตุขโมยรถจักรยานยนต์ ของแรงงานชาวเมียนมา โดยได้ขับออกมาวนเวียนอยู่ในหมู่บ้านระวิ แล้วบังเอิญมาพบกับนายประทีป ชูมณี กำนันตำบลบางพระเหนือ และนายอนุวัฒ บุญเฉลียว ผู้ช่วยกำนัน โดยกำนันเห็นว่าเห็นผิดสังเกต และจำรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวได้ จึงควบคุมตัวนายพรชัยไว้ แล้วถ่ายเป็นหลักฐาน ขณะเดียวกันนายพรชัย อาศัยจังหวะที่กำนันกำลังถ่ายรูป ชักปืนขึ้นมายิงใส่ 1 นัด แต่กำนันและผู้ช่วย กระโดดหลบหนีได้ทัน และไปก่อเหตุยิงผู้อื่นเสียชีวิต กระทั่งถูกจับกุมได้ในเวลาต่อมา (อ่าน : ขโมยรถอย่างบ้าระห่ำ! 5 คันรวด ฉกรถยนต์จากอู่ ลัก จยย. กำนัน เจอเหยื่ออีกยิงดับก่อนขับหนี)
นายพรชัย ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัว
วันที่ 9 ต.ค. 61 ทีมข่าวย้อนรอยเส้นทางที่คนร้ายเริ่มก่อเหตุ โดยจุดแรกที่คนร้ายขโมยรถยนต์จากอู่ซ่อมรถ คือ อู่ลิ่มเจริญยนต์ สาขา 2 ตั้งอยู่บนถนนเพชรเกษม ต.บางริ้น อ.เมือง จ.ระนอง นายสันติ ศรีสมัย เจ้าของอู่ เล่าว่า เมื่อวานนี้ (8 ต.ค. ) ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. คนร้ายได้ขับรถกระบะ สีบรอนซ์ทอง เข้ามาที่อู่ซ่อมรถของตน ตนจึงสอบถามว่า มาซ่อมอะไร คนร้ายก็ตอบว่า มาตั้งศูนย์ถ่วงล้อ ตนเองจึงปฏิเสธไปว่าให้มาใหม่พรุ่งนี้ เพราะวันนี้มีคิวซ่อมรถยนต์ถึง 3 คัน ไม่สามารถซ่อมรถให้ทันวันนี้ได้
นายสันติ ศรีสมัย เจ้าของอู่
จากนั้นคนร้ายก็ยังอยู่ในร้านคอยเดินไปเดินมา ไม่ได้กลับไปในทันที แล้วก็ทำทีเดินคุยโทรศัพท์ แต่ช่างที่ร้านก็ไม่ได้ว่าอะไร ยังคงทำงานกันไปตามปกติ กระทั่งคนร้ายอาศัยจังหวะที่ช่างซ่อมในอู่ไม่ได้อยู่ที่หน้าร้าน ขโมยรถยนต์กระบะซึ่งเป็นของลูกค้าที่จอดไว้เตรียมรอซ่อมอยู่ริมถนน นำออกจากร้านไป ตนเองในฐานะเจ้าของอู่พอเดินออกมาก็เห็นว่ารถที่รอซ่อมหายไป 1 คัน จึงรีบสอบถามกับพนักงานในร้าน แต่ก็ไม่มีใครเอาไป จึงตัดสินใจไปดูภาพกล้องวงจรปิด จึงรู้ว่าคนร้ายที่แฝงตัวเป็นลูกค้า นำกุญแจรถยนต์ไปสตาร์ตรถ แล้วขับออกไป
ภาพกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายขณะขโมยรถยนต์
โดยคนร้ายใช้เวลากว่า 50 นาที ในการวนเวียนดูรถ และคอยสังเกตการณ์ว่ากุญแจดอกไหนเป็นของรถคันไหน ซึ่งกุญแจของลูกค้า ร้านก็จะแขวนไว้รวมกัน โดยภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะที่คนร้ายใช้เวลาเพียง 1 นาทีในการขโมยและขับรถออกไป ทั้งนี้ คนร้ายมีลักษณะเหมือนกับลูกค้าทั่วไป ไม่ได้ดูผิดสังเกตว่าจะเป็นคนร้าย ซึ่งร้านมารู้ภายหลังว่าเขาเป็นคนจาก อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ซึ่งตนเป็นคนโทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ 191 ว่ารถยนต์ของร้านหายไป และแจ้งป้ายทะเบียนไว้ ตำรวจได้โทรศัพท์กลับมาบอกว่าเจอรถคันดังกล่าวแล้ว ถูกคนร้ายนำไปใช้ก่อเหตุขโมยรถมิตซูบิชิไตตันอีกคัน แล้วยิงเจ้าของรถเสียชีวิต ส่วนรถของลูกค้า ตนคาดว่าคนร้ายน่าจะขับไปแล้วรถเสีย เพราะรถยังไม่ได้ซ่อม คนร้ายจึงเอาไปจอดทิ้งไว้ แล้วขโมยรถจักรยานยนต์ของคนอื่นอีกทอดหนึ่งก่อนจะไปก่อเหตุ อย่างไรก็ตาม ร้านไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะนี้ พอทราบว่าคนร้ายกล้าขโมยรถจากอู่ซ่อมก็รู้สึกตกใจ โดยหลังจากนี้จะเตรียมมาตรการให้พนักงานภายในร้านช่วยกันตรวจตราดูแล เพราะตอนคนร้ายขโมยรถไป ก็ไม่ได้มีพนักงานคอยเฝ้าดูรถ ส่วนรถของลูกค้าตอนนี้ยังอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเก็บไว้ตรวจสอบ ส่วนลูกค้าที่ร้านก็เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุสุดวิสัย
ภาพจำลองเหตุการณ์คนร้ายขโมยรถยนต์จากอู่นายสันติ
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่จุดที่คนร้ายหลบหนี แล้วนำรถกระบะที่ขโมยจากอู่ซ่อมรถมาจอดทิ้งไว้ในโรงรถของบ้านหลังหนึ่ง ในซอยวงแหวน-ตีนแดงเชี่ยวคล้าย พื้นที่ ต.บางพระเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง จากนั้นคนร้ายรีบเดินออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว มาเจอรถจักรยานยนต์ของชาวเมียนมาที่จอดทิ้งไว้ที่บ้านอีกหลังบริเวณปากซอย ก่อนจะขับขี่หลบหนีไป
นายเว้น ลาย หรือ นายเมา เจ้าของรถจักรยานยนต์
โดยนายเว้น ลาย หรือ นายเมา สัญชาติเมียนมา เจ้าของรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อซูซูกิ เล่าว่า วันเกิดเหตุขณะตนนำรถจักรยานยนต์มาจอดไว้ที่หน้าบ้านของเพื่อนชาวไทย ระหว่างเข้าไปนั่งคุยกับเพื่อนอยู่ในบ้าน ก็สังเกตเห็นรถกระบะคันหนึ่งขับเข้ามาในซอย จากนั้นคนขับก็เดินมายังรถจักรยานยนต์ของตน พอเขาเห็นว่ารถจักรยานยนต์เสียบกุญแจคาไว้ ก็ขึ้นคร่อมรถของตนแล้วขับออกไป ตนจึงถามเพื่อนในบ้านว่ารู้จักกับคนนั้นหรือไม่ เพื่อนตนจึงตอบว่าไม่รู้จัก ตนจึงรีบบอกเพื่อนว่าเขาเอารถของตนไป จากนั้น เพื่อนก็พาคนขับตามรถของคนร้ายไป กระทั่งขับไปยังจุดสกัด มีฝนตกลงมา คนร้ายได้เอาเสื้อกันฝนที่ตนวางไว้หน้ารถจักรยานยนต์มาสวมใส่ โดยจอดรถอยู่ข้างทาง ตนเองจึงนำรถไปตัดหน้าสกัดรถของคนร้ายแล้วหยิบลูกกุญแจรถจักรยานยนต์ออก ทำให้คนร้ายไม่สามารถขับขี่ไปไหนได้ต่อ ตนจึงสอบถามคนร้ายว่าเป็นคนไทยหรือเปล่า เขาก็ตอบว่าเป็นคนไทย ตนจึงถามว่าทำไมถึงทำแบบนี้ แต่คนร้ายก็บ่ายเบี่ยงแล้วพูดกลับไปกลับมาว่าตัวเองเป็นคนเมียนมา ตนจึงสอบถามเป็นภาษาเมียนมาว่าทำไมถึงมาเลือกรถตน รถตนเก่าแล้ว ไม่ไปเลือกคันดี ๆ กว่านี้ แต่คนร้ายกลับไม่ตอบ ตนจึงบอกว่าอย่าทำอีก แล้วก็ไล่ไปให้พ้น แต่ขณะนั้นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาพอดี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็ถามคนร้ายว่า มีบัตรประชาชนหรือไม่ แต่คนร้ายปฏิเสธว่าไม่มี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจึงเอาโทรศัพท์มาถ่ายรูปคนร้ายไว้ ก่อนจะบอกว่าให้พวกตนเฝ้าคนร้ายไว้ แล้วเดี๋ยวผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านจะกลับมา
ภาพจำลองเหตุการณ์คนร้ายขโมยรถจักรยานยนต์ของกำนัน
จากนั้นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านก็ขับรถออกไป ขณะที่กำลังเฝ้าคนร้ายอยู่ คนร้ายได้ทำทีวิ่งหนีไป เพื่อนตนจึงบอกว่า “อย่าวิ่ง” พอพูดเสร็จคนร้ายได้นำอาวุธปืนออกมาจากกระเป๋า พวกตนจึงรีบถอยห่างจากตัวคนร้ายไปคนละทิศทาง จังหวะเดียวกัน กำนันของหมู่บ้านได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาพอดี พอกำนันลงจากรถ เพื่อนตนจึงรีบบอกไม่ให้กำนันเข้าไปเพราะคนร้ายมีปืน กำนันจึงลงจากรถโดยไม่ได้ถอดกุญแจ คนร้ายจึงอาศัยจังหวะเดินไปยังรถของกำนันแล้วเอารถของกำนันเตรียมขับออกไป ขณะเดียวกันเพื่อนตนก็ได้หยิบขวดน้ำส้มขึ้นมาเขวี้ยงไปที่คนร้าย คาดว่าน่าจะโดนที่บริเวณลำตัวคนร้าย คนร้ายจึงหันมาใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มคนที่มาสกัดไป 1 นัด แต่โชคดีที่ไม่โดนใครได้รับบาดเจ็บ แล้วคนร้ายก็ขับรถหนีออกไป ทั้งนี้ ตนเองทราบมาว่าคนร้ายได้กลับไปที่จุดเดิมที่จอดรถกระบะทิ้งไว้ แล้วกลับไปเอารถของตัวเองขับหนีออกไป ซึ่งตนไม่ทราบว่าเขาเดินทางต่อไปยิงคนในหมู่บ้าน เพราะตนและชาวบ้านคนอื่น ๆ ยังอยู่ที่จุดเกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม ตนเองไม่เคยเห็นหน้าคนร้ายเข้ามาในหมู่บ้านมาก่อน อีกทั้งคนร้ายยังพูดจาวกไปวนมา ไม่คิดว่าเขาจะพกพาอาวุธปืนด้วย ซึ่งในวันพรุ่งนี้คาดว่าตำรวจจะนำตัวคนร้ายไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตนเองก็อยากจะถามเขาว่าเพราะอะไร ทำไมทำอย่างนี้ ตนเองไม่ได้รู้สึกโกรธเคือง แต่รู้สึกไม่สบายใจที่มาก่อเหตุเช่นนี้และทำร้ายคนในหมู่บ้านตน
นายนุวัฒน์ บุญเฉลียว หรือ นุช ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน
นายนุวัฒน์ บุญเฉลียว หรือ นุช ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง หมู่ 5 บ้านระวิ ต.บางพระเหนือ อ.ละอุ่น จ.ระนอง เล่าว่า เมื่อวานนี้ได้รับแจ้งจากลูกบ้านว่ามีคนขโมยรถจักรยานยนต์ของคนในหมู่บ้าน แต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นคนไทยหรือเมียนมา ตนจึงรีบออกไปดูจุดเกิดเหตุโดยไม่ได้พกพาอาวุธไปป้องกันตัว เมื่อไปถึงจุดสกัดตัวคนร้าย ก็เจอชาวเมียนมา 1 คน ชาวไทย 1 คน และคนร้าย เมื่อตนสอบถามคนร้ายว่าเป็นคนไทยหรือไม่ คนร้ายก็ตอบว่าเป็นคนไทย ตนจึงขอตรวจดูบัตรประชาชน แต่คนร้ายอ้างว่าไม่มี ตนจึงสอบถามต่อว่าบ้านอยู่ที่ไหน คนร้ายก็ไม่ตอบ ทำท่าทีขัดขืน ตนจึงบอกให้นั่งลง แต่คนร้ายก็ไม่นั่ง แล้วพยายามจะเดินหนี ตนดูท่าทางแล้วคล้ายกับคนมีลักษณะเมายา และสังเกตว่าคนร้ายน่าจะมีอาวุธปืน ตนจึงตัดสินใจให้ลูกบ้านเฝ้าคนร้ายไว้ แล้วกลับบ้านไปเอาอาวุธปืน จากนั้นตนได้โทรศัพท์ไปแจ้งกำนันให้มาที่จุดสกัด ระหว่างทางเจอกำนันขับรถสวนมาพอดี กำนันจึงเดินทางไปยังจุดสกัด ส่วนตนเดินทางกลับไปที่บ้าน โดยภายหลังลูกบ้านมาเล่าให้ตนฟังด้วยว่า คนร้ายมีการนำอาวุธปืนขึ้นมาข่มขู่ แล้วพูดใส่ลูกบ้านตนว่า “มึงจะเอาหรือ นี่กูมีในกระเป๋า มึงจะเอาหรือ” ลูกบ้านตนจึงเดินถอยหลัง พอกำนันไปถึงจุดสกัด ชาวบ้านก็เตือนอย่าเข้าไปใกล้ คนร้ายจึงอาศัยจังหวะนำรถของกำนันขับขี่หนีไป ขณะเดียวกันได้ใช้อาวุธปืนกระบอกเดิม ยิงสวนมาที่กลุ่มของชาวบ้าน เพราะมีชาวบ้านรายหนึ่งเขวี้ยงขวดไปที่คนร้ายหวังให้หยุดรถ แต่กระสุนปืนไม่ได้โดนใคร
ภาพจำลองเหตุการณ์คนร้ายยิงเจ้าของอู่ก่อนขโมยรถยนต์
จากนั้นคนร้ายก็เอารถกำนันไปจอดทิ้งไว้ในซอยเดิมที่เขาทิ้งรถกระบะ เมื่อเขาเอารถยนต์กระบะออกมา ก็ขับผ่านที่บ้านของช่างแมว หรือนายจำนง โสนเส้ง ผู้ตาย ซึ่งเป็นช่างซ่อมรถจักรยานยนต์ในหมู่บ้าน พอคนร้ายเห็นรถกระบะมิตซูบิชิไตตันของช่างแมวจอดอยู่ ก็เอารถตัวเองไปจอดท้ายรถของช่างแมว แล้วเดินไปขโมยรถช่างแมว ขณะนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นเพื่อนแฟนช่างแมว ได้พูดเตือนว่า มีคนจะขโมยรถแล้ว ช่างแมวจึงรีบวิ่งไปที่หน้าบ้าน แต่คนร้ายปิดประตูรถหนี จังหวะที่คนร้ายกำลังจะออกไปได้เปิดประตูรถ แล้วใช้อาวุธปืนยิงไปที่หน้าอกของช่างแมว 1 นัด ส่งผลให้ช่างแมวเสียชีวิตทันที โดยขณะนั้นตนอยู่ห่างจากจุดที่ช่างแมวโดนยิงไปประมาณ 150 เมตร พอได้ยินเสียงปืนดัง ตนและกำนันก็รีบวิ่งขึ้นรถไป ซึ่งขณะนั้นรถของช่างแมวที่คนร้ายขโมยมายังขับสวนกับรถของตน โดยที่ตนไม่รู้ว่าใครเป็นคนขับ และไม่ทราบว่าคนร้ายมีการเปลี่ยนรถขณะก่อเหตุ พอตนขับรถไปช่วยชีวิตช่างแมว ก็รีบนำส่งโรงพยาบาล โดยคนร้ายได้หลบหนีไปทางเส้นถนนหาดส้มแป้น ตนมาทราบภายหลังว่าคนร้ายนำรถช่างแมวไปทิ้งไว้ที่ห้วยหลุง ซึ่งรถติดหล่มไว้ แล้วคนร้ายก็เดินเท้าขึ้นเขาไปประมาณ 10 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในหมู่บ้านมาก่อน เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับคนร้ายได้ ครอบครัวของช่างแมวก็รู้สึกดีใจมาก ที่ผ่านมาช่างแมวเป็นคนนิสัยดี เข้ากับชาวบ้านได้ทุกคน อีกทั้งยังเป็นเจ้าหน้าที่จิตอาสากู้ชีพ และเป็นชุดรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน แต่กลับต้องมาเกิดเหตุอย่างนี้ หลังจากนี้หมู่บ้านก็จะคอยสอดส่องระวังคนที่แปลกหน้าเข้ามา หากพบคนต้องสงสัยก็จะคอยโทรศัพท์เตือนกันให้ระมัดระวังตัว
นางแพรว (นามสมมติ) แม่ของผู้ต้องหา
ด้านนางแพรว (นามสมมติ) แม่ของผู้ต้องหา เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ได้รับแจ้งจากตำรวจว่า พบรถของตนถูกคนร้ายนำไปใช้ก่อเหตุหลบหนี โดยนำรถไปทิ้งไว้ในอู่ซ่อม ซึ่งมีชื่อตนเป็นเจ้าของ ตนจึงยอมรับว่าเป็นรถของตนที่ให้ลูกชายไว้ใช้ พอทราบข่าวก็ตัดสินใจเดินทางกลับจาก จ.พัทลุง ไปหาลูกที่หมู่บ้านทับขอน จ.ชุมพร เมื่อเข้าไปถึงบ้านก็พบลูกชายนอนสลบไม่สวมใส่เสื้อผ้า มีเลือดไหลเต็มร่างกาย เนื่องจากถูกคู่อริใช้อาวุธปืนยิงมาระหว่างเดินทางขึ้นเขากลับบ้าน ซึ่งตนยังไม่ทันได้สอบถามรายละเอียดกับลูกชายว่าเกิดเหตุดังกล่าวได้อย่างไร เนื่องจากลูกชายอยู่ในอาการเมายา พูดคุยไม่รู้เรื่อง ทั้งนี้ ลูกบอกตนเพียงว่า ตั้งใจนำรถไปซ่อมที่อู่ แต่รอนานมากก็ไม่ได้ซ่อม จึงเอารถกระบะอีกคันเพื่อกลับบ้าน โดยที่ลูกชายตนตอบไม่ได้ว่าทำไมไปเอารถกระบะคนอื่นมาใช้ แล้วระหว่างทาง รถที่ลูกขับมาเกิดยางแบน จึงไปจอดแล้วใช้รถคันอื่นแทน และนำรถของผู้นำหมู่บ้านมาใช้ด้วย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ ตนทราบมาจากตำรวจ แต่ลูกตนก็ยังให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มากนัก เพราะยังอยู่ในอาการเมาสารเสพติด นางแพรว เล่าต่อว่า ขณะนี้ลูกตนก็ยังไม่รู้ตัวว่าไปยิงคนอื่นเสียชีวิต เขาก็ยังโวยวายกับตนว่าตำรวจจับเขามาขังทำไมในเมื่อเขาไม่ได้ทำอะไรผิด ตนจึงปลอบใจไปให้อยู่ไปก่อน ส่วนเรื่องสารเสพติด ตนเองทราบมาตลอดว่าลูกเสพยามาหลายปี แต่เขาบอกตนเสมอว่าเขาจะเลิกแล้ว เพราะสารเสพติดเป็นสิ่งไม่ดี เขาแค่อยากลอง ลองให้รู้ พอรู้ว่าไม่ดีก็เลิก ซึ่งตนเองไม่เคยเห็นหลักฐานว่าเขาเสพอยู่หรือไม่ อีกทั้งตนไม่ทราบว่าเขาเสพสารเสพติดประเภทใด ที่ผ่านมา ตนเองก็เคยชวนเขาไปบำบัด และซื้อยามาให้เขากินเพื่อให้อาเจียน แต่เขาก็ไม่ยอมไปบำบัดอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว โดยหลังจากนี้ยืนยันว่าตัวเองจะไม่ประกันตัวลูกชาย และจะให้เขาเข้ารับการบำบัด ตนอยากให้เขาเปลี่ยนแปลงความประพฤติของตัวเอง ตนไม่ได้อยากให้ลูกชายเป็นคนไม่ดี แต่เมื่อเขาโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ตนเองก็ไม่สามารถมาบอกหรือสั่งให้เขาทำตามได้ทุกอย่าง เมื่อเขาทำผิด ตนเองก็ทำอะไรไม่ได้ ส่วนพฤติกรรมของเขาที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเลียนแบบเกมส์ GTA นั้น ตนเองไม่แน่ใจว่าเขาเล่นหรือไม่ หากเล่นเกมในโทรศัพท์ ก็ต้องเห็นเขาอยู่กับโทรศัพท์ตลอดเวลา แต่เขาก็ยังไปทำไร่ทำสวน ตนจึงไม่แน่ใจว่าเขาติดเกมหรือเลียนแบบพฤติกรรมมาจากเกมหรือไม่ นางแพรว ยอมรับว่า ตนรู้สึกเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต ตอนนี้ก็อยากเข้าไปขอโทษครอบครัวเขา แต่ยังไม่กล้า เพราะเชื่อว่าเขายังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจอยู่ ซึ่งหากมีอะไรที่ตนสามารถช่วยเหลือได้ ตนก็ยินดีที่จะชดใช้ แล้วจะหาคนกลางเข้าไปเจรจากับครอบครัวผู้เสียชีวิต เพราะสิ่งที่ลูกชายตนทำนั้น เป็นตอนที่เขากระทำไปโดยไม่รู้ตัว และขาดสติในการยั้งคิด ตนไม่อยากให้เกิดแบบนี้ และขอกราบขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตอีกครั้ง หากตนทดแทนตรงไหนได้ไม่เหลือบ่ากว่าแรง ตนก็จะทำ เพราะตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์นี้จริง ๆ

 

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ