คลายล็อกดาวน์ 1 กันยา รถเมล์ ห้ามแออัดเกิน 75% ให้บริการ ตี 5 ถึง 3 ทุ่ม

1 ก.ย. 64

คลายล็อกวันแรก รถเมล์นั่งได้ไม่เกิน 75% เที่ยวแรกเริ่ม ตี 5 เที่ยวสุดท้าย 3 ทุ่ม

องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางทุกคัน ไม่ให้เกินร้อยละ 75 ของความจุผู้ใช้บริการ ตามที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 32) ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2564

นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้ออกข้อกำหนดตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 32) ลงวันที่ 28 สิงหาคม 2564 จำนวน 8 ข้อ เพื่อใช้เป็นข้อปฏิบัติในการแก้ไขและบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ให้คลี่คลายลงโดยเร็ว โดยข้อที่ 7 กำหนดให้หน่วยงานที่ให้บริการระบบขนส่งสาธารณะทุกประเภท ในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และการขนส่งสาธารณะระหว่างจังหวัดทุกประเภททั่วราชอาณาจักร ให้เป็นไปตามแนวทางที่ ศปก.ศบค. กำหนด โดยจำกัดจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการไม่เกินร้อยละ 75 ของความจุผู้โดยสาร สำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท รวมทั้งจัดให้มีการเว้นระยะห่างและการปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณะสุขที่ทางราชการกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยพิจารณาจัดการให้บริการขนส่งสาธารณะให้เพียงพอต่อความจำเป็น และตามเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางของประชาชน โดยให้มีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป

ขสมก. จึงปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าว โดยมีรายละเอียด ดังนี้

1. จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการรถโดยสารประจำทางทุกคัน ไม่ให้เกินร้อยละ 75 ของความจุผู้ใช้บริการ ตามที่กำหนดไว้ในใบอนุญาต ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2564 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น

2. ให้บริการรถโดยสารประจำทาง ตั้งแต่เวลา 05.00 - 21.00 น. (เวลา 21.00 น. คือ เวลาที่รถโดยสารกลับถึงอู่จอดรถ) ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น โดยเพิ่มความถี่ในการปล่อยรถ ช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า (05.00 - 08.00 น.) และช่วงเวลาเร่งด่วนเย็นถึงเวลาก่อนรถโดยสาร หยุดให้บริการ (16.00 - 21.00 น.) ให้มีระยะห่างกันไม่เกิน 5 - 10 นาที หรือจัดเดินรถให้สอดคล้องกับความต้องการใช้บริการของประชาชน

3. ให้บริการรถโดยสาร วันธรรมดา ไม่น้อยกว่า 20,000 เที่ยว/วัน วันเสาร์ - วันอาทิตย์ ให้บริการรถโดยสาร ไม่น้อยกว่า 18,000 เที่ยว/วัน หรือจัดเดินรถให้สอดคล้องกับความต้องการใช้บริการของประชาชนในแต่ละช่วงเวลา

4. ปล่อยรถโดยสารคันสุดท้าย ออกจากท่าปลายทางประมาณ 20.00 น. เพื่อให้พนักงานสามารถนำรถกลับเข้าอู่จอดรถได้ทันเวลา 21.00 น. โดยปรับเพิ่มความถี่ในช่วงการปล่อยรถ 3 คันสุดท้าย ให้มีระยะห่างกัน 5 - 10 นาที ซึ่งรถโดยสาร 3 คันสุดท้าย จะติดป้ายข้อความบ่งชี้บริเวณหน้ารถโดยสาร ดังนี้

4.1 เหลือรถ 2 คันสุดท้าย

4.2 เหลือรถ 1 คันสุดท้าย

4.3 รถคันสุดท้าย

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID - 19) ได้แก่ การสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งขณะใช้บริการรถโดยสาร นั่งหรือยืนตามจุดที่กำหนด กรณีผู้ใช้บริการเต็มจะต้องรอใช้บริการรถโดยสารคันถัดไป รวมทั้ง ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ เตรียมตัวกลับบ้านก่อนเวลา 18.00 น. เพื่อลดความแออัดของผู้ใช้บริการบนรถโดยสาร ในช่วงเวลาก่อนรถโดยสารหยุดให้บริการ (20.00 - 21.00 น.) ซึ่งจะทำให้การดำเนินการตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมบนรถโดยสาร เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รถไฟฟ้า บีทีเอส ยกเลิกตั๋วเที่ยวเดินทาง 30 วัน เติมเที่ยวได้ถึง 30 ก.ย.นี้
- สปสช.เตรียมแจก ชุดตรวจโควิด ATK ฟรีคนละ 2 ชุด รับที่ร้านขายยา
- หมอมนูญ หลังหายป่วยโควิด อาจผมร่วง 300 เส้น นาน 6 เดือน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ