จากกรณี รถเก๋งโตโยต้า โซลูน่า สีน้ำเงิน ทะเบียนบง 9413 นราธิวาส เกิดระเบิดขึ้นภายในบริเวณบ้านพักกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 415 บ้านบางนอน หมู่ 1 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง ส่งผลให้ ส.อ.สุพัฒน์ธนชัย มากประสิทธิ์ ทหารชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย มทบ.44 เสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยญาติของผู้เสียชีวิตไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย หรืออุบัติเหตุ แต่คิดว่ามีผู้ไม่หวังดีตั้งใจทำให้เกิดขึ้นนั้น (อ่าน :
สุดโหด “ส.อ.” สตาร์ตเก๋งบึ้มร่างเละคาค่ายทหาร แม่พุ่งเป้าแก๊งยา ฆ่าล้างแค้น)
วันที่ 8 ต.ค. 61 ทีมข่าวสำรวจร้านซ่อมรถยนต์ในระแวกใกล้เคียงกับบ้านของ ส.อ.สุพัฒน์ธนชัย มากประสิทธิ์ ทหารชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย มทบ.44 โดย
นายโจ (นามสมมติ) ช่างซ่อมรถยนต์ ระบุว่า ตนเองคุ้นเคยกับสิบเอกหมึก ในฐานะคนบ้านเดียวกัน โดยสิบเอกหมึกมีนิสัยใจคอที่เป็นคนขี้เล่น ชอบพูด ชอบคุย เรียกได้ว่าเป็นคนดี ก่อนที่สิบเอกหมึกจะกลับไปค่ายที่จังหวัดระนอง ตนยังทักทายสิบเอกหมึกและพูดคุยกัน เมื่อทราบข่าวจึงรู้สึกตกใจว่า เกิดเหตุระเบิดในหน่วยงานราชการได้อย่างไร เมื่อก่อนเคยได้ยินสิบเอกหมึกเล่าว่า ตอนไปปฏิบัติหน้าที่ เจอเหตุการณ์ถูกยิงที่ จ.นราธิวาส แต่ตนไม่ได้สอบถามว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ
นายโจ เล่าต่อว่า ตนเองไม่เคยเห็นสิบเอกหมึกพกพาอาวุธปืนหรือระเบิด ส่วนเรื่องซ่อมรถยนต์ ที่ผ่านมาตนไม่เคยเห็นสิบเอกหมึกโทรศัพท์เรียกช่างไปซ่อมรถแต่อย่างใด และไม่เคยเห็นรถคันนี้พังหรือเสียจนต้องซ่อม แม้ว่าสิบเอกหมึกจะใช้รถยนต์คันนี้เป็นประจำ และส่วนตัวคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่รถยนต์จะเกิดระเบิดขึ้นเอง เพราะสิบเอกหมึกเป็นคนที่ดูแลรถด้วยตนเอง ไม่น่าจะเกิดความประมาท ส่วนตัวไม่มั่นใจว่าเรื่องที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวข้องกับงานที่เขาทำหน้าที่หรือไม่
ขณะที่
นายพิษณุพงษ์ ทองปาน รุ่นพี่คนสนิทผู้ตาย เปิดเผยว่า สิบเอกหมึกเดินทางมาหาตนที่บ้าน ก่อนจะเดินทางกลับค่ายที่จังหวัดระนอง จากนั้นเขาก็กลับไปทำงาน แล้วสิบเอกหมึกก็เดินไปสตาร์ทรถเตรียมเดินทางกลับ แต่ปรากฎว่ารถกลับสตาร์ทไม่ติด ต้องสตาร์ทอยู่นาน จนกระทั่งรถติด และสิบเอกหมึกก็เดินทางไป โดยตนไม่เห็นว่าเขาเรียกช่างมาซ่อมแต่อย่างใด
นายพิษณุพงษ์ กล่าวต่อว่า หน้าที่ของสิบเอกหมึกขณะอยู่ จ.ระนอง คือ ดูแลตรวจสอบและจับกุมผู้ต้องหาในคดียาเสพติด จับผับบาร์และสิ่งผิดกฎหมาย แต่ขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ใน จ.นราธิวาส สิบเอกหมึกเป็นทหารพราน โดยขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้น เคยมีผู้ก่อความไม่สงบ ซุ่มดักยิงรถยนต์ขณะสิบเอกหมึกและเพื่อนทหารอยู่บนรถ ทำให้รถยนต์เกิดพลิกคว่ำ เมื่อผู้ก่อการร้ายมาถึงก็เอาปืนจ่อยิงศีรษะของเพื่อนทั้งสองของสิบเอกหมึกเสียชีวิต แต่โชคดีที่สิบเอกหมึกไม่เป็นอะไร เพราะมีต้นหญ้าบังร่างเขาไว้ แต่ครั้งนั้นมีอาการบาดเจ็บหนัก นอนสลบอยู่ 3-4 วัน เรียกว่าเป็นปาฏิหาริย์ที่สิบเอกหมึกรอดชีวิตมาจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น
นอกจากนี้ สิบเอกหมึกยังเคยรอดชีวิตเป็นปาฏิหาริย์ครั้งที่ 2 ขณะกำลังสตาร์ทรถยนต์คันนี้ เขาก็ถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงเข้ามาในรถ 30-40 นัด ทำให้รถเกิดรูพรุนทั้งคัน และกระสุนเฉี่ยวศีรษะสิบเอกหมึกไป แต่กลับรอดชีวิตมาได้เพราะห้อยพระหลวงพ่อรุ่งที่ตนเคยมอบให้ไว้ และเขาก็ยังพูดกับตนอยู่เลยว่า “ถ้าผมโดนหน 3 ผมคงไม่รอดแล้วพี่” และเหตุระเบิดรถยนต์ครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 3 ที่คร่าชีวิตของสิบเอกหมึก
ทั้งนี้ ตนมองว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ คนร้ายจงใจเอาชีวิตของสิบเอกหมึก เพราะรถยนต์คันนี้เป็นของเขา หากคนร้ายนำระเบิดไปวางไว้ในรถทหาร ก็เป็นไปได้ว่าจะถูกระเบิดใส่คนอื่น ตนจึงมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่ามีคนตั้งใจนำระเบิดไปวางไว้ในรถของสิบเอกหมึก และยืนยันว่าสิบเอกหมึกไม่เคยพกพาระเบิด รวมถึงไม่เคยมีการพกพาอาวุธปืนไว้กับตัว ฉะนั้น ตนจึงมองว่าร้อยละ 70 มีคนไม่หวังดีกับเขา และเชื่อว่านิสัยโผงผาง ทำงานตรงไปตรงมา ไม่เคยกลัวใครของน้องชาย อาจไปทำให้เกิดความขัดแย้งหรือขัดใจกับคนอื่น
ส่วนตัวตนเองยังคงติดใจเรื่องการตาย หากเรื่องการวางระเบิดอยู่ในค่ายทหารมีจริง ก็ไม่รู้ว่าคนทางค่ายทหารจะมีใครออกมาพูดหรือไม่ แต่ทั้งนี้ สิบเอกหมึกกับความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงานเขา ที่ตนทราบมาคือทั้งหมดค่อนข้างมีความสนิทสนมกัน ไม่เคยเห็นว่าเขามีปัญหากับเพื่อนร่วมงาน แล้วเขายังเคยบอกตนด้วยว่าเขามีความสุขกับคนในค่ายที่จ.ระนอง และถือว่าทุกคนดีกับน้องของตน
นายพิษณุพงษ์ ยังกล่าวต่อว่า แล้วหากเส้นทางเข้าออกของค่ายทหารนั้นมีคนนอกเข้าออกได้ ก็มีโอกาสเป็นไปได้ที่กลุ่มคนร้ายเป็นคนข้างนอก แต่โดยส่วนตัวตนยังเชื่อว่าคนในค่ายน่าจะมีส่วนรู้เห็น และเชื่อว่าเหตุดังกล่าวเกิดจากปัญหาเรื่องงานของน้องชายที่ทำอยู่ มากกว่าประเด็นอื่น ๆ สำหรับความรู้สึกตอนนี้ของตน แน่นอนว่าต้องเสียใจ แต่ตนต้องทำใจ และคิดว่า "น้องตายเพื่อชาติ" ซึ่งถ้าน้องตายเพื่อหน้าที่ก็ตายไป ตนรู้สึกภูมิใจแล้ว เพราะเขาจะตายไปอย่างไม่เสียดายชีวิต
ด้าน
นางสาวชญาน์นันท์ มากประสิทธิ์ หรือ อ้อย พี่สาวของผู้ตาย ระบุว่า วันนี้ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ทหารโทรมาแจ้งว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น เชื่อว่ามีคนจงใจก่อเหตุนำระเบิดไปผูกติดไว้กับรถยนต์ของสิบเอกหมึก ตนจึงเชื่อว่าเหตุการณ์นี้เป็นการฆาตกรรมน้องชายตน แต่จะเป็นกลุ่มบุคคลใดที่ก่อเหตุนั้น ตนเองไม่สามารถระบุได้ ซึ่งหากเจ้าหน้าที่สามารถตามจับคนร้ายมาได้ ตนต้องการถามเขาว่าทำไมถึงต้องทำน้องชายตนขนาดนี้
เบื้องต้น ครอบครัวไม่ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงหรือผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ แต่งานสวดอภิธรรม เจ้าหน้าที่ทหารเป็นประธานในพิธีและมาคอยอำนวยความสะดวกภายในงาน ตนรู้สึกดีใจที่ทหารไม่ได้ทิ้งครอบครัวของตน แต่ทั้งนี้ในส่วนรายละเอียดการเยียวยาหรือการเลื่อนชั้นยศ ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ