เฒ่าตัณหากลับลูบก้นเด็กเจอแม่ต้อนปีนบ้านหนี เหยื่อเก่าโผล่แฉล้วงเสื้อเขี่ยอก (คลิป)

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความว่า "อนาจารหลานกูเหรอ ตอนนี้ได้หนีไปแล้ว ฝากทุกคนช่วยแชร์ ชายสูงวัยร่างสูง ผมขาว อายุค่อนข้างมาก สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว นุ่งโสร่ง" โดยใจความภายในคลิปวิดีโอทราบว่าเป็นเหตุการณ์ที่ญาติ ๆ ของเด็กหญิงรายหนึ่ง อ้างว่าชายสูงอายุคนนี้ได้กระทำอนาจารเด็ก ด้วยการลูบหลัง แขน และก้น แต่ชายดังกล่าวปฏิเสธอ้างว่าเวลาขายน้ำ แล้วมืออาจจะพลาดไปโดนก้นเด็กโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่วนเรื่องเรียกเด็กเข้ามากินน้ำฟรี ยอมรับว่าเรียกเข้ามาจริง แต่เป็นเรื่องปกติที่ผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก

ทั้งนี้ ภายในคลิปยังมีการถกเถียงกัน กระทั่งชายดังกล่าวกลับเข้าไปภายในบ้าน ก่อนจะเปลี่ยนกางเกง และปิดประตูบ้าน กระโดนหนีทางหลังคาบ้าน ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เปิดประตูเข้าไป ก็ไม่พบชายดังกล่าวแล้ว เหลือเพียงรถจักรยานยนต์ และของส่วนตัว ทิ้งไว้ดูต่างหน้า

ล่าสุดวันที่ 30 ส.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี จึงลงพื้นที่ไปยังบ้านเลขที่ 42 ซอย 15 รัตนอุทิศ ก่อนทราบชื่อว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายจันณรงกรณ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 64 ปี อาชีพขายน้ำผลไม้ มาเช่าบ้านหลังดังกล่าวอยู่เพียงลำพัง เมื่อทีมข่าวมาถึงก็พบว่าประตูบ้านล็อกกุญแจ พบเพียงรถจักรยานยนต์จอดอยู่หน้าบ้าน 2 คัน และเป็นรถจักรยานยนต์ที่ดัดแปลงเป็นรถเร่ขายน้ำ 1 คัน

นางดวงพร (นามสมมติ) อายุ 31 ปี แม่ของเด็กหญิงผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (31 ส.ค.64) ตำรวจจะเรียกน้องสาว ที่เห็นเหตุการณ์ ลูกสาว และตนไปสอบปากคำ และเตรียมออกหมายเรียกและหมายจับต่อไป ในส่วนของหลักฐานตอนนี้รอเพื่อนบ้านให้ภาพจากกล้องวงจรปิดมา ตนก็ไม่รู้ว่าจะจับภาพเหตุการณ์ไว้ได้หรือไม่ แต่ส่วนใหญ่มีเด็กที่เคยเรียนโรงเรียนในย่านนี้หลายคน เล่าเรื่องราวให้ฟังว่าเคยถูกกระทำเหมือนลูกสาวของตน ตอนนี้มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก แต่คนถูกกระทำแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นจับหน้าอก จับก้น ลูบแก้ม เป็นต้น

"ชายคนนี้จะออกอุบายว่า จะเลี้ยงน้ำฟรีบ้าง จะให้เงินบ้าง แต่เน้นเฉพาะเด็กผู้หญิง ซึ่งในขณะนั้นเด็กบางคนก็คงไม่กล้าที่จะบอกผู้ปกครอง จนทำให้ชายคนนี้ได้ใจ ส่วนในพื้นที่ทราบมาว่าเขาก่อเหตุกับเด็กคนอื่น ๆ อีก 4 คน" นางดวงพร กล่าวให้ฟัง 

อย่างไรก็ตาม ตนมีความกังวลว่าเรื่องนี้จะเงียบ แต่ก็พยายามที่จะดำเนินการให้ถึงที่สุด และหวังว่าตำรวจจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างรวดเร็ว เพราะหากปล่อยให้ลอยนวลแบบนี้ เขาอาจจะไม่ก่อเหตุแค่จับหรือลูบ แต่อาจจะลวงเด็กไปทำอย่างอื่นหรือไม่ ตนมองแล้วว่าชายคนนี้น่าจะมีอาการป่วยทางจิต เพราะก่อเหตุเรื่อยมาจนกลายเป็นนิสัย ตนจึงอยากฝากเรื่องนี้ให้ตำรวจเร่งดำเนินการ

ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยกับ น.ส.สายฝน (นามสมมติ) อายุ 22 ปี ผู้เสียหายอีกราย เปิดเผยว่า ตอนนั้นตนอายุ 10 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.5 หลังเลิกเรียนตนก็จะไปอุดหนุนน้ำผลไม้ที่ร้านของชายรายนี้เป็นปกติเหมือนลูกค้าทั่วไป และต่อมาก็เริ่มสนิทกันมากขึ้น แต่เขาเริ่มมีพฤติกรรมแปลก ๆ ด้วยการจับแขน จับขา และก็ทำตัวสนิทสนมมากเกินไป จากนั้นใช้นิ้วเขี่ยที่หน้าอก แต่ตอนนั้นตนก็คิดว่าทอนเงินเป็นความบังเอิญ คงไม่มีอะไร และไม่กล้าบอกแม่ด้วย เพราะปกติแม่จะบอกเสมอว่าห้ามเข้าใกล้คนแปลกหน้า

แต่ต่อมาลุงพยายามใช้มือเขี่ยหน้าอก และล่อด้วยการยื่นเงินให้ 10 บาท แล้วบอกว่า "ถ้าไม่มีเงินกินขนม ให้มาหาลุงได้ ที่ร้านลุงมีน้ำให้กินฟรีฎ ตนก็เริ่มคิดว่าไม่เหมาะสม และก็ไม่รู้ว่าเพื่อนคนอื่น ๆ เคยโดนเหมือนตนหรือไม่ ซึ่งตอนนั้นยอมรับว่าไม่กล้าบอกใคร เพราะคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร รวมถึงกลัวว่าแม่จะดุด่าจึงไม่กล้าพูดออกไป

"พอมีข่าวออกมาแบบนี้ หนูก็เห็นในคอมเมนต์ และพบว่าเด็กที่เรียนโรงเรียนในย่านนั้น ถูกกระทำเหมือนกัน และหนูก็จำลุงคนนี้ได้ติดตา และตกใจมากที่เห็นคลิป หนูจึงรีบทักไปหาเจ้าของคลิปทันทีว่าเคยถูกกระทำแบบนี้เช่นกัน" ผู้เสียหาย กล่าว 

อย่างไรก็ตาม สำหรับตนมองว่านิสัยและพฤติกรรมแบบนี้ไม่เหมาะสม และลุงก็อายุมากแล้ว ตนจึงอยากให้ผู้เสียหายดำเนินคดีเอาผิดผู้ชายคนนี้อย่างถึงที่สุด เพราะขณะนี้เรื่องราวของตนก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ตนไม่รู้ว่าจะเรียกร้องความเสียหายได้จากส่วนไหนบ้างหรือไม่