เพื่อนผู้กำกับโจ้เปิดใจสมัยวัยรุ่นไม่ใช่คนโหด สงสัยอะไรทำโจ้เปลี่ยน (คลิป)

เมื่อวันที่ 27 ส.ค.64 นายที เพื่อนสมัยมัธยมของ ผกก.โจ้ ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการทุบโต๊ะข่าว อมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 ว่า ในช่วงที่เรียนสมัยมัธยมศึกษาตอนต้น ตนกับโจ้เป็นเพื่อนกัน จากนั้นจึงสนิทกันในชั้น ม.2 มักจะไปขี่รถเที่ยวเล่นกัน เพราะเขาชอบความเร็ว ตอนนั้นเท่าที่อยู่ด้วยกัน โจ้ก็ไม่มีวี่แววว่าจะไปเป็นตำรวจหรือไม่ กระทั่งต่างคนต่างแยกย้ายไปเรียนตามที่ตัวเองชอบ และขาดการติดต่อกันไปประมาณ 20 ปี ตนจึงมาทราบว่าโจ้ไปเป็นตำรวจ แต่ตนก็ไม่ได้ติดตามว่าเขาไปสังกัดหน่วยไหน

"ยอมรับว่าผมตกใจมากที่เห็นคลิป เพราะเราเคยเป็นเพื่อนกัน เพื่อนๆ ในรุ่นก็ถามว่าตอนนี้โจ้หน้าตาเป็นไง เรียนรุ่นเดียวกันเหรอ เราก็พูดคุยกันว่าโจ้คนไหน เมื่อทุกคนได้ฟังการแถลงข่าว แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนตกใจ และไม่มีใครอยากจะเชื่อ เพราะสมัยเรียนฐานะทางบ้านเขาก็ปานกลาง ไม่ได้ร่ำรวย และอย่างที่ผมบอกกว่า 20 ปี ไม่รู้เขาไปผ่านอะไรมา หรือองค์กรสังคมไปเปลี่ยนแปลงเขาหรือไม่ เพราะเราไม่ได้ติดต่อกันทุกปี" เพื่อนรายนี้ กล่าว 

สำหรับตนคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการพลั้งมือ หากดูจากคลิปโจ้พยายามจะเค้นเอาข้อมูลบางอย่าง จนทำให้ผู้ต้องหาคดียาเสพคิดเสียชีวิตในที่สุด แต่ในฐานะเพื่อนตั้งแต่สมัยเด็ก ภาพจำที่ตนจดจำกันได้ก็มีแต่เรื่องดี ๆ ในสมัยเด็ก แต่ตอนที่เขาไปเป็นผู้กำกับแล้ว ตนก็ไม่รู้ว่านิสัยใจคอของเขาเป็นอย่างไร เพราะอย่างที่ตนบอกเราไม่ได้ติดต่อกันนานมาก ๆ ตนจึงอย่าบอกว่าอย่าเหมารวมคนที่เคยใกล้ชิดโจ้ ว่าทุกคนจะมีพฤติกรรมเหมือนกัน รวมทั้งจำเป็นต้องพิจารณาจากองค์กรที่โจ้สังกัดด้วยว่าภาพลักษณ์เป็นอย่างไร

นายที ยังกล่าวด้วยว่า อะไรที่เกิดขึ้นไปแล้ว มันเรียกกลับคืนไม่ได้ ตนในฐานะเพื่อนสมัยเด็กก็ยอมรับว่าตกใจ และรู้สึกว่าหลังจากนี้เขาจะใช้ชีวิตอย่างไร จุดจบของคดีจะออกมาเป็นแบบไหน สำหรับตนไม่รู้ว่าความผิดชั่วดีใครจะคิดอย่างไร แต่หากรู้ตัวว่าได้กระทำผิดไปแล้ว และมีสำนึกจริง ๆ ตนเชื่อว่าให้อภัยได้ แต่สังคมจะให้อภัยหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องที่สำคัญ เพราะตนไม่สามารถไปคิดแทนสังคมได้ และเขาจะต้องรับผลที่กระทำไว้นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวสรุปคำให้การของ ผู้กำกับโจ้ ดังต่อไปนี้

โดย #ผู้กำกับโจ้ ให้การอ้างว่า : ลูกน้องมันแจ้งผมว่าจับผู้ต้องหาได้ และไปเจอรูปถ่ายในโทรศัพท์ ยาไอซ์ 1 กก. และยาบ้าล็อตใหญ่ ประมาณ 1-2 หมื่นเม็ด ผมเลยพยายามถาม แต่เขาไม่บอกความจริงผมเลยต้องเอาถุงมาคลุมหัว ที่ทำไปผมต้องการข้อมูลที่ซ่อนยาครับ ผมยอมรับผิดแต่ผู้เดียว เพราะลูกน้องห้ามแล้ว ผมทำเพื่องานจริง ๆ ครับ

#ผู้กำกับโจ้ : ที่ผมเอาถุงคลุมหัว 6 ใบ เจตนาเพราะไม่อยากให้เขาเห็นหน้าผม แต่เขาเอามือฉีกออก เลยต้องใส่กุญแจมือไพร่หลัง ผมสาบานต่อหน้าพระที่ห้อยคอ ชีวิตผมรับราชการไม่มีเรื่องเงินครับ ผมคุยกับแฟนเขาบอกว่า เขาเสพยาทุกวัน แล้วนอนน้อย จึงคาดว่าสาเหตุเสียชีวิตจากการเสพยา ผมก็เลยคิดว่าเป็นเพราะยาเสพติด พาส่งรพ.

#ผู้กำกับโจ้ : ผมยอมรับผิดทุกประการ ยอมติดคุกตลอดชีวิต แต่ผมยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจฆ่าเขา ที่ทำเพราะอยากได้ข้อมูลยาที่ทำลายพี่น้องประชาชนในนครสวรรค์ ผมขอโทษพี่น้องปชช.ที่ผิดพลาดไป ผมขอโทษพ่อแม่ กราบขอโทษ ผบ.ตร. ตำรวจดี ๆ มีอีกเยอะครับ ผมผิดเองไม่มีการตบทรัพย์ครับ

#ผู้กํากับโจ้ : ผมยืนยันว่าไม่เคยทำแบบนี้ ตั้งแต่ทำงานนครสรรค์มา แต่เคสนี้มีลูกค้ารายใหญ่อยู่ภาคกลาง มันเป็นการตัดสินใจของผมคนเดียว ผมรับผิดเพราะประสบการณ์ผมน้อย อายุผมยังน้อย ผมเลยรีบสั่งให้ถอดกล้องออก ไหน ๆ ก็มีกล้องพังอยู่แล้ว เลยเปลี่ยน ส่วนกล้องในห้องผมไม่ทราบครับว่ามี