หมอประสิทธิ์ คาด ก.ย.คลายล็อกนั่งกินในร้าน หากฉีดวัคซีนได้ 50%

23 ส.ค. 64

โควิดไทยสัญญาณดี! หมอประสิทธิ์ คาด ก.ย.คลายล็อกนั่งกินในร้าน หากฉีดวัคซีนได้ 50% จังหวัดไหนทำได้ดีก็จะผ่อนคลาย

เมื่อวันที่ 22 ส.ค.64 ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงแนวโน้มการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย และแนวทางผ่อนคลายมาตรการ ว่า สถานการณ์โควิด-19 ของไทย ในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นตัวเลขขณะนี้อาจดูเหมือนยังไม่ลดลง เพราะผู้ติดเชื้อใหม่ยังแกว่งอยูที่ 1.9-2 หมื่นรายต่อวัน แต่ที่เห็นชัด คือ อัตราการติดเชื้อลดลง ตัวเลขที่จะวิ่งขึ้นมากๆ ไม่เกิดขึ้นมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว

ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 300 รายต่อวัน เมื่อสอบถามข้อมูลก็พบว่า เป็นตัวเลขที่รายงานเข้าระบบช้า แต่ตอนนี้เข้าใจว่ามีการเคลียร์ตัวเลขแล้ว ดังนั้น ตอนนี้ผู้เสียชีวิตรายใหม่น่าจะอยู่ที่ 200 กว่าราย ทั้งนี้ ตัวเลขเหล่านี้หากดูวันต่อวัน อาจไม่ชัด ต้องดูตัวเลข 7 วัน แล้ว เฉลี่ยกัน เราจะเห็นว่า เส้นความชันเริ่มน้อยลงกว่าเดิมเยอะ ใกล้เข้าสู่ระนาบเส้นตรง และเมื่อถึงจุดหนึ่ง กราฟก็จะเริ่มกดหัวลงเป็นขาลง

เชื่อว่าภายในเดือนกันยายนนี้จะเห็นตัวเลขการเสียชีวิตลดลงก่อน เพราะโมเมนตัมของผู้ป่วยใหม่ที่เข้ามาแล้วต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้ออกซิเจนลดลง แต่คนที่ใช้อยู่ก่อน เช่น ที่ รพ.ศิริราช รักษากันเดือนกว่า ดังนั้น ตัวเลขการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น ก็เป็นการย้อนกลับมา อาจไม่ใช่ตัวเลขที่บอกได้ทันที แต่ตัวเลขผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยใหม่ที่มีปอดอักเสบ ใช้เครื่องช่วยหายใจ จะเป็นตัวคาดการณ์ในอนาคต ถ้าตัวเลขน้อยลงเรื่อยๆ คาดการณ์ว่า อัตราสียชีวิตจะน้อยลง และตอนนี้ เราเริ่มเห็นแนวทางจากข้อมูลสะสมรายสัปดาห์ เราเริ่มเห็นขาที่นิ่ง คงที่ และน่าจะเริ่มมีตัวเลขลงแล้ว แต่อัตราการติดเชื้อใหมจะเห็นช้าไปอีก 2-3 สัปดาห์ หากไม่มีการระบาดคลัสเตอร์ใหญ่ๆ ขึ้นมา ส่วนตัวเชื่อว่าภายในกลางเดือนกันยายนนี้ เราน่าจะเห็นตัวเลขขาลง ค่อนข้างแน่ หากดูในเวิลด์โดมิเตอร์ ก็เริ่มเห็นว่าลงเล็กน้อย อีก 2-3 สัปดาห์ต่อจากนี้น่าจะเห็นชัด

ส่วนหลักการผ่อนคลายมาตรการ ว่า ต้องดูจากข้อมูลจริง และอัตราคนที่ได้รับการฉีดวัคซีน ส่วนรูปแบบการผ่อนคลายนั้น ทุกประเทศคล้ายกันคือ ไม่ล็อกดาวน์ (Lockdown) ทั้งประเทศอีกแล้ว แต่จะล็อกตามเป้าหมาย (Target Lockdown) จังหวัดไหนทำได้ดี ก็จะผ่อนคลาย แต่มีมาตรการติดตามใกล้ชิด กิจกรรมที่สามารถควบคุมได้ สถานประกอบการ ผู้เข้าใช้บริการต่างร่วมมือ และมีการฉีดวัคซีน

อย่างไรก็ดี ปลายเดือนสิงหาคมนี้ หากจะเกิดการผ่อนคลายขึ้นในประเทศไทย ก็น่าจะมีการเสนอมาตรการนี้เข้า ศบค. ให้พิจารณา ซึ่งในอีก 2-3 วันนี้ ต้องหารือกันเลย โดยจะมีเวลาอีก 1 สัปดาห์ เพื่อดูตัวเลข หากส่งสัญญาณดีขึ้น ก็อาจมีการพิจารณา แต่ต้องตกลงเงื่อนไขกับผู้ให้บริการ หากทุกคนร่วมกัน มีโอกาสเริ่มผ่อนคลาย ซึ่งหากวกมาอีกก็ต้องมีการควบคุม สำหรับไทยอาจจะใช้เป็น เช่น การแสดงหลักฐานฉีดวัคซีนในมือถือ หรือเป็นการให้สถานประกอบการบริการจุดตรวจโควิด-19 ชนิด แอนติเจน เทสต์ คิท(ATK) ที่มีความไวและความจำเพาะดีๆ ไว้ให้ลูกค้า เพื่อตรวจก่อนเข้าใช้บริการ ก็จะเป็นมาตรการหนึ่งที่ดี

ส่วนตัวที่ติดตามดูการดำเนินการของประเทศต่างๆ เห็นว่าจุดคลายล็อกที่น่าจะปลอดภัยคือ การฉีดวัคซีนที่ 50%ของจำนวนประชากร ซึ่งในขณะนี้ไทยฉีดแล้ว 26 ล้านโดส แต่หากฉีดได้ตามเป้าหมายเดือนละ 15 ล้านโดส หรือเฉลี่ยวันละ 5 แสนโดส เมื่อรวมกันก็จะได้ประมาณ 40 ล้านโดส นั่นคือภายในกลางเดือนกันยายนนี้ ควรจะได้ฉีดได้ 40 กว่าล้านโดส เพื่อให้เข้าใกล้ตัวเลข 50% ของจำนวนประชากรคนไทย 70 กว่าล้านคน ก็ควรจะได้วัคซีน 35 ล้านคน

เราน่าจะเซฟพอที่จะคลายล็อก ทั้งนี้ ปลายเดือนสิงหาคม ตัวเลขอาจจะยังไม่ดี แต่อีก 14 วัน ให้หลัง น่าจะคลายล็อกได้ค่อนข้างปลอดภัย แต่ต้องเลือกพื้นที่และกิจกรรมให้เหมาะสม มีการติดตามอย่างเข้มงวด ซึ่งจะแปรผกผันกับความชุกของการติดเชื้อ คือ ผู้ติดเชื้อมากก็จะคลายล็อกได้น้อย แล้วค่อยผ่อนคลายต่อหากสถานการณ์ดีขึ้น อย่างเช่นปีที่แล้ว เราคลายล็อกกกันตั้ง 6 รอบ ดังนั้น เราต้องค่อยๆ คลายล็อก ส่วนตัวลึกๆ หากไม่มีคลัสเตอร์ใหม่ ดูจากตัวเลขเวลานี้แล้วก็ดูจากเคสหนักๆ ผมคิดว่าหากยังไม่ถึงจุดสูงสุดของยอดติดเชื้อ ก็น่าจะใกล้ถึงเต็มที่แล้ว แล้วอีกไม่นานก็จะถึงจุดที่วกลง ทั้งอัตราการเสียชีวิตและการติดเชื้อ ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- ถล่มยับ! ไทยรู้สู้โควิด ปล่อยคอนเทนท์เข้าใกล้ภูมิคุ้มกันหมู่ เจอทัวร์ลงซัดเฟกนิวส์!
- ยอดโควิดวันนี้ ป่วยใหม่ 19,014 รักษาหาย 20,672 ราย ตายเพิ่ม 233 คน
- ชาวปากช่องเฮ! คนไทยในฝรั่งเศส บริจาค 20 ล้าน ซื้อซิโนฟาร์ม- วัคซีน mRNA ให้ฉีดฟรี

 

 

advertisement