พิษโควิด โรงแรมศรีพัฒนา เมืองโคราช ประกาศปิดตัว ขายโรงแรมในราคา 250 ล้านบาท และอุปกรณ์ไฟฟ้า ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างในราคาถูก
วันนี้ (21 สิงหาคม 2564) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงแรมศรีพัฒนา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้นำป้ายข้อความว่า “ขายเครื่องใช้ อุปกรณ์ต่างๆ” มาปิดไว้ที่บริเวณด้านหน้าประตูทางเข้าโรงแรม ภายหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจซบเซา ซึ่งทางผู้บริหารโรงแรมศรีพัฒนา ได้ประกาศปิดกิจการไปตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2563 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นได้ทำรั้วกั้นบริเวณด้านหน้า และจ้าง รปภ.มาเฝ้าอยู่นานนับปี ก่อนที่จะเริ่มประกาศขายเครื่องใช้อุปกรณ์ต่างๆ ภายในโรงแรมทั้งหมด ในราคาถูก พร้อมกันนี้ยังได้ประกาศขายโรงแรมแห่งนี้ ในราคา 250 ล้านบาทด้วย
ทั้งนี้จากการสอบถาม รปภ.ที่เฝ้าโรงแรม บอกว่า หลังจากทางโรงแรมได้ประกาศขายเครื่องใช้ และอุปกรณ์ต่างๆ ก็มีผู้ให้ความสนใจเข้ามาซื้อเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น โทรทัศน์ พัดลม และเครื่องเสียง เป็นต้น ได้มีร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่า มาเหมาซื้อไปขายต่อเกือบ 90% แล้ว ขณะเดียวกันในส่วนเครื่องใช้ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ถ้วย ชาม ก็มีร้านอาหารมาเหมาซื้อไปต่อเนื่อง ขณะนี้ก็เหลือไม่มากนัก เนื่องจากของใช้ต่างๆ ขายถูกมาก อย่างเช่น เครื่องปรับอากาศ ขายราคาเครื่องละ 1,000 บาท โทรทัศน์ ขายเครื่องละ 600 บาท เป็นต้น ส่วนตัวโรงแรมนั้น ทราบมาว่าทางเจ้าของได้ประกาศขายในราคา 250 ล้านบาท ซึ่งก็มีนักลงทุนทั้งชาวไทย และชาวญี่ปุ่น ให้ความสนใจมาติดต่อดูหลายคนแล้ว แต่ติดปัญหาเรื่องการกู้ธนาคารอยู่ จึงยังไม่ได้ขาย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับโรงแรมศรีพัฒนา ถือว่าเป็นโรงแรมขนาด 3.5 ดาว สูง 8 ชั้น มีห้องพักทั้งห้องมาตรฐาน ห้องสวีต และห้องครอบครัว รวม 183 ห้อง พร้อมภัตตาคาร ห้องจัดเลี้ยง สระว่ายน้ำกลางแจ้ง คาราโอเกะ นวดแผนโบราณ อาหารนานาชาติ โดยมีผู้ก่อตั้งคือ พล.อ.กฤษณ์ สีวะรา อดีต รมว.กลาโหม และอดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อปี 2510 กระทั่งในปี 2554 หรือเมื่อ 9 ปีก่อน นายรัฐประทีป กีรติอุไร หนึ่งในผู้ก่อตั้งหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา ทำสัญญาเช่ากับเจ้าของ เข้าบริหารงานในนาม บริษัท โคราชศรีพัฒนา จำกัด ก่อนจะหมดสัญญาเช่าเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 2563 และประกาศปิดกิจการเพราะได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ปัจจุบันมีทายาทของ พ.ต.อ.กฤษณ์ สีวะรา ครอบครองอยู่ แต่ไม่ได้ต้องการประกอบกิจการต่อ จึงจนนำมาสู่การประกาศขายโรงแรม เครื่องใช้ และอุปกรณ์ต่างๆ ของโรงแรมทั้งหมดในครั้งนี้
