พ่อเลี้ยงน้องรินรับพี้ยาโกนขนเพชร อาจปลิวซุกจิ๊มิเด็ก ญาติฉุนตบไมค์สื่อทำเสียหาย (คลิป)

จากกรณีเจ้หน้าที่กู้ภัยอโสกสมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ แจ้งข่าวมาว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุ เด็กหญิงริน (นามสมมติ) อายุ 1 ปี เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ ทางเจ้าหน้าที่จึงนำศพมาชันสูติที่โรงพยาบาล พบความสงสัยในการเสียชีวิต คือ พบวัตถุต้องสงสัยในช่องคลอด เป็นขนที่อวัยวะเพศ มีร่องร่อยคล้ายกระทำชำเรา แต่ทางญาติกลับไม่ติดใจ ซึ่งทางโรงพยาบาลและเจ้าหน้าที่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต จึงมีการอายัดศพไว้ตรวจสอบก่อน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คุมแม่ - พ่อเลี้ยงสอบเข้ม ไขที่มาขนเพชรซุกช่องคลอดเด็ก 1 ขวบดับ ผงะฉี่ม่วงคู่ ป้องผัวใหม่ไม่ขืนใจลูก
- เด็กขวบเศษตายปริศนาขนเพชรคาช่องคลอด คุมพ่อเลี้ยงสอบ ญาติอ้างติดกกน.ตอนซัก

ล่าสุด วันที่ 19 ส.ค. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สมเด็จ พานายจีรพันธุ์ แจ่มแจ้ง อายุ 25 ปี พ่อเลี้ยงผู้เสียชีวิต และนางสาวปรางแก้ว มาศประสงค์ อายุ 22 ปี แม่เลี้ยงผู้เสียชีวิต ไปยังบ้านของนายจีรพันธุ์ เป็นลักษะบ้านชั้นเดียว มีห้องน้ำในตัว ติดกับห้องครัว ซึ่งพาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปดูจุดที่มีการนอน และจุดที่นายจีรพันธุ์มีการใช้คันเบ็ด ลักษะไม้ไผ่เหลาคล้ายไม้เรียวตี ด.ญ.ริน (นามสมมติ) ผู้เสียชีวิต

โดยจุดที่ 1 บริเวณที่นอน นายจีรพันธุ์ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ปกติจะนอนที่นอนกันตรงนี้ 3 พ่อแม่ลูก นอนเรียงจากซ้ายไปขวา แต่ไม่ค่อยได้นอนด้วยกัน เนื่องจากว่าตอนกลางคืนตนมักจะออกไปหาปลาที่นุ่งนา และนอนกลางวันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งวันที่ 15 ส.ค.64 ช่วงกลางวันเวลา 12.00 น. ยอมรับว่าตนและนางสาวปรางแก้วมีการเสพยาเสพติด แล้วเกิดอาการหงุดหงิดตัวเอง เลยเดินเข้าไปโกนขนเพชรตัวเองในห้องน้ำ จากนั้นเวลา 18.00 น. ด.ญ.ริน ก็เกิดอาการร้องไห้ อาเจียนลงที่นอน ตนเข้าไปล้างอ้วกตัว ด.ญ.ริน ในห้องน้ำรอบแรกแล้วกลับมานอนต่อ

รอบที่ 2 เวลาประมาณ19.30 น. ภรรยาบอกกว่าลูกอาเจียนอีกรอบ ตอนนั้นตนกำลังนอน พอรอบที่ 3 ประมาณ 21.00 น. ตนเห็นว่าลูกอ้วกใส่ตัวเองเองอีกรอบ เลยเข้าไปล้างตัว แล้วสักพัก ด.ญ.ริน ก็ร้องไห้งอแง ตนจึงใช้คันเบ็ดตีที่หลัง 2 ที ก่อนบอกให้นางสาวปรางแก้ว อุ้มไปให้ที่บ้านของนายสว่าง และนางสุวรรณ์ ช่วยดู

จุดที่ 2 บริเวณหน้าห้องน้ำ เป็นจุดที่นายจีรพันธุ์ใช้ไม้เรียวคันเบ็ดตีที่หลังของ ด.ญ.ริน 2 ครั้ง แล้วก็อุ้ม ส่วนนางสาวปรางแก้ว แม่ผู้เสียชีวิต กำลังเช็ดอ้วกอยู่ที่พื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการไม้คันเบ็ดที่ใช้ตีคล้ายไม้เรียวเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จุดที่ 3 ห้องน้ำในบ้าน เป็นจุดที่ทั้งนายจีรพันธุ์ กับนางสาวปรางทิพย์โกนขนเพชร โดยนายจีรพันธุ์โกนวันที่ 13 ส.ค. 64 ส่วนนางสาวปรางแก้ว โกนวันที่ 15 ส.ค. 64 ตำรวจเก็บใบมีดโกน 2 อันในห้องน้ำ เพื่อไปเป็นหลักฐานเพิ่มเติม

จากนั้นเดินไปยัง จุดที่ 4 เป็นบ้านของนายสว่าง และนางสุวรรณ์ ปู่กับย่า ให้ช่วยดูแล โดยพ่อและแม่ของเด็กยอมรับว่าไม่ได้สังเกตว่าลูกมีความผิดปกติ เข้าใจว่าลูกชอบอาเจียน เพื่อเรียกร้องความสนใจ

นายจีรพันธุ์ แจ่มแจ้ง อายุ 25 ปี พ่อเลี้ยงผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า ตนยอมรับว่าตีลูกจริง แต่เป็นการตีแค่ห้ามปรามลูก กระแสสังคมที่โจมตีตนและครอบครัว ตนก็เข้าใจสังคมดี เพราะตนเป็นแค่พ่อเลี้ยงไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ตอนแรกหมอแจ้งผลการตายเบื้องต้นว่า เสียชีวิตจากการไม่มีอาหารในท้องตาย พอตรวจพบขนเพชรใกล้ช่องคลอดก็มุ่งปมหาว่าตนข่มขืนลูก หาว่าตนทำร่างกายจนน้องเสียชีวิตซึ่งตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนร้องไห้ทั้งคืน เพราะสงสารเด็ก ตนเลี้ยงมานานก็รัก

ส่วนเรื่องเลือดตอนล้างก้นยังไม่ไหล พอเอากางเกงมาใส่ก็เห็นว่าเลือดกับไหลออกเลอะกางเกง สาเหตุที่ไม่ได้พาไปหาหมอเลย เพราะว่าตอนนั้นอยู่บ้านป้า ตนเป็นคนนอกพื้นที่ เลยไม่รู้ว่าต้องพาไปที่ไหน โดยป้าน้องก็บอกว่าน้องเป็นอะไรไม่รู้เลือดไหล ซึ่งตนก็ฟังมาจากพี่สาวว่า อาจจะเป็นมาจากการที่อุจจาระแข็ง แล้วเบ่งออกเลย ทำให้อวัยวะก้นฉีก แต่ก็ไม่ได้เอะใจ เพราะคิดว่าเลือดออกที่ทวารหนัก ไม่ได้คิดว่าออกที่ช่องคลอด

ตนเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนพูดอะไรไม่ได้ พูดไปก็ไม่มีใครเชื่อ ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนทำให้ลูกตาย ส่วนปมกะโหลกร้าว นางสาวปรางแก้ว เล่าว่าด.ญ.ริน ตกรถมอเตอร์ไซค์เมื่อช่วง 1 สัปดาห์ที่แล้ว และเนื่องจากด.ญ.ริน เป็นเด็กเข้มแข็ง กลัวจะไม่ได้เล่น เพราะเขาไม่มีเพื่อนเล่น เลยเก็บอาการไม่มีใครรู้ ส่วนกรณีญาติผู้เสียชีวิตสงสัยว่าตนเป็นคนก่อเหตุนั้น ตนก็เข้าใจเพราะตนเป็นแค่พ่อเลี้ยง แม้กระทั่งญาติของตัวเองยังสงสัย ซึ่งก็ไม่มีอะไรจะพูด เพราะแค่นี้ก็เสียใจมากแล้ว ให้รอผลชันสูตรออก

นางสาวปรางแก้ว มาศประสงค์ อายุ 22 ปี แม่ผู้เสียชีวิต บอกว่า ตนก็ยังคงมีความสงสัยสาเหตุการณ์เสียชีวิตของลูกสาวตัวเอง เนื่องจากลูกสาวมีอาการอาเจียนผิดปกติ ตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.64 ซึ่งเวลา 06.00 น. วันที่ 16 ส.ค.64 ตนพาลูกไปหาหมอที่อนามัย หมอบอกว่า ด.ญ.ริน ร่างกายอ่อนเพลีย น้ำตาลในเลือดตก ให้ยากับเกลือแร่มากิน ตนป้อนอะไรให้น้องกิน น้องก็อาเจียนออกมา จึงตัดสินใจพาไปหาหมอที่โรงพยาบาล แต่ก็ไม่ทัน

ส่วนเรื่องการตีลูก ตนยอมรับว่านายจีรพันธุ์มีการตีลูกจริง แต่ไม่ได้บ่อยขนาดนั้น และก็ไม่ได้ตีแรง แค่เป็นการตีสั่งสอนเวลาด.ญ.รินดื้อ และไม่เชื่อฟัง เรื่องเลือดออกที่ช่องคลอด ตนก็ไม่แน่ใจว่าเกิดจากสาเหตุอะไร มั่นใจว่านายจีรพันธุ์ไม่ได้เป็นคนทำอย่างแน่นอน เนื่องจากวันที่ไปหานางสาวสุมาลี พี่สาวของตน นายจีรพันธุ์ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แค่มาเห็นตอนที่เลือดออกแล้ว ตอนนั้นด.ญ.ริน มีอุจาระแข็ง ทำให้ก้นฉีกแล้วเลือดไหล ไม่ได้คิดว่ามันไหลออกมาจากช่องคลอด ซึ่งก็ต้องรอฟังผลชันสูตรอีกครั้ง

นายสว่าง ชมภูทัศน์ อายุ 61 ปี ปัดไมค์ผู้สื่อข่าว ไม่ตอบปมตำรวจเรียกขอขนเพชรไปตรวจ "สาเหตุที่จัดงานศพ เพราะไม่มีเงิน มีการขออนุญาตวัด แจ้งพนักงานสอบสวนแล้ว" ก่อนจะลุกจากเก้าอี้ออกไป "ตอนนี้รู้สึกเครียด ที่ถูกโจมตี ไม่ขอชี้แจงอะไรอีกแล้ว เพราะเรื่องมันจบแล้ว ส่วนผลชันสูตรรอ 45 วันออกผล หลังเข้าเยี่ยมนายจีรพันธ์ ก็รู้สึกเครียด แต่ก็ไม่ได้ให้กำลังใจอะไรมาก แค่บอกว่า ใครทำคนนั้นก็รับไป" ปู่ของผู้เสียชีวิต กล่าว

หลังจากที่มีการชี้จุด นางสาวหอมไกล จันนามิตร ญาติพ่อเลี้ยง มายืนดูเจ้าหน้าที่ตำรวจพานายจีรพันธุ์มาชี้จุด ได้มีการโผตัวเข้ากอดให้กำลังใจ ซึ่งนายจีรพันธ์ก็ทิ้งตัวซบลงตรงที่ไหล่ และมีอาการร้องไห้ โดยนางสาวหอมไกลบอกกับนายจีรพันธุ์ว่า "ไม่เป็นอะไร ถ้าเราบริสุทธิ์ก็ไม่ต้องกลัวอะไร"

นางสาวหอมไกล จันนามิตร ญาตินายจีรพันธุ์ บอกว่า ตนเป็นญาติของนายจีรพันธุ์ มีศักดิ์เป็นป้า อยู่คนละหมู่บ้านกัน บังเอิญมาแถวนี้ พอเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวนายจีรพันธ์พาตัวมาที่บ้านเลยเดินมาดู แล้วก็รู้สึกสงสารนายจีรพันธุ์ เพราะเท่าที่รู้จักกัน นายจีรพันธุ์ เป็นคนดี มักมาช่วยตนทำนาบ่อย ตนก็ให้ค่าจ้างประจำ ให้มากกว่าคนอื่นเพราะเห็นว่าเป็นหลานตัวเอง แต่นายจีรพันธุ์ก็ปฏิเสธจำนวนเงิน บอกเอานิดเดียวก็พอ

ซึ่งตอนตนทราบข่าวก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ไม่คาดคิดว่านายจีรพันธุ์จะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ทำให้เด็กเสียชีวิต เนื่องจากตนเห็นว่านายจีรพันธุ์ก็ดูรักเด็กจริง ทั้งที่ไม่ใช่ลูกของตัวเอง ดูขัดกันถ้าหากว่าเขาจะเป็นคนทำ ตนจึงให้กำลังใจกับนายจีรพันธุ์ ขอให้สู้ ๆ ถ้าบริสุทธิ์ใจก็ให้มั่นใจในกระบวนการยุติธรรม