เปิดใจเสี่ยมือถือเปิดศาลเตี้ยเตะก้านคอโจร ชี้ทำโทษแลกโดนจับ ยั้งแรงกลัวน็อก (คลิป)

19 ส.ค. 64

จากกรณีโซเชียลแชร์คลิปเหตุการณ์ชายคนหนึ่ง พ่อค้าขายมือถือออนไลน์ใช้เฟซบุ๊ก "เก่ง นักเลงมือถือ" เตะก้านคอชายรายหนึ่ง ซึ่งปลอมเฟซบุ๊กแอบอ้างเพื่อหลอกเหยื่อในการซื้อขายโทรศัพท์มือถือนั้น

602111

วันที่ 19 ส.ค. 64 นายพร้อมภัณฑ์ คำพงษ์ เจ้าของบริษัทนักเลงมือถือ ผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย เปิดเผยว่า ตนเองเป็นผู้เสียหายจากการที่ถูกปลอมเฟซบุ๊ก คนก่อเหตุใช้ชื่อตนเองในเฟซบุ๊กเป็นชื่อเดียวกัน ภาพเดียวกัน เพื่อนำไปหลอกลวงลูกค้าที่ต้องการซื้อมือถือในเพจเฟซบุ๊กของตน โดยวิธีการคือจะทักไปในเฟซบุ๊กของเหยื่อ ก่อนเสนอราคา เสนอการชำระเงินว่าผ่อนได้ ที่สำคัญจะได้สินค้าในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด ทำให้มีเหยื่อหลงเชื่อ

762390

คนก่อเหตุที่หลอกลวงเหยื่อไม่ได้มีแค่ชายที่ตนเองเตะ ยังมีอีกหลายคนที่ปลอมชื่อเฟซบุ๊กตน และนำไปหลอกเหยื่ออีกจำนวนมาก เพราะมีคนทักหาตนเป็นร้อยกรณี แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากแนะนำให้ไปแจ้งความ แต่ผู้เสียหายหลายคนก็จะบอกว่าแจ้งความแล้ว แต่เรื่องก็นิ่งเงียบไป วันนี้ก็มีผู้เสียหายเป็นลูกค้าตนทักมาถึง 3 ราย มีผู้เสียหายเกิดขึ้นทุกวัน กรณีในคลิปเป็นคนก่อเหตุหลอกลวงที่ถือว่ามีความเสียหายต่ำที่สุด คนไม่แน่ใจยอดที่ชัดเจน แต่ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท ทั้งนี้ ตนเองไม่รู้จักคนร้ายมาก่อน ตนมีการตามตัวตามชื่อบัญชีที่มีการโอนเงินไป และติดต่อไปหา ก่อนจะนัดเพื่อเจรจา ซึ่งถือเป็นการตักเตือน

ส่วนกรณีในคลิปเกิดขึ้นเมื่อ 17 ส.ค. 64 ตนเองคุยกับคนร้าย มีการเสนอทางเลือก 2 ทางคือ นำตัวส่งตำรวจ กับขอให้ตนเองทำโทษ ซึ่งผู้ก่อเหตุขอร้องตนให้ทำโทษ เนื่องจากมีลูกเล็ก ไม่อยากติดคุก เวลานั้นตนเองคิดอะไรไม่ออกถึงเตะไปตามคลิป แต่ตนก็กลัวว่าคนร้ายจะเป็นอะไรหนัก จึงยั้งเท้าไว้อยู่ หลังจากจบคลิปตนเองให้ผู้เสียหายมานั่ง หาน้ำให้กิน มีการขอโทษกัน 2 ฝ่าย ก่อนจะปล่อยกลับบ้าน ตนยังบอกคนร้ายว่าหากไม่มีงานทำ ตกงาน ก็ให้มาทำงานกับตนได้ มาเปิดหน้าเปิดตาทำงานเลย ไม่ต้องไปหลอกลวงคน

ทั้งนี้ หลังคลิปแชร์ออกไปไม่ได้มีผลกระทบกับยอดขาย มีเพียงคำเป็นห่วงที่คอมเมนต์กันเข้ามาเท่านั้น ตนขอฝากให้ลูกค้ามีสติในการซื้อขาย ฝากถึงคนที่ทำผิดให้หยุดการกระทำได้แล้ว โดยตอนนี้ยังมีผู้ก่อเหตุอีกหลายคนทักเหยื่อไปทั่ว บางคนก่อเหตุแล้ว ถูกจับได้ ก็กลับมาก่อเหตุอีก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส