West Ham United 3 - 1 Manchester United
อาการหนักจริงๆ สำหรับ แมนฯ ยู หลังจากทำแต้มหล่นเป็นว่าเล่น ร่วงกราวรูดมาอยู่อันดับ 10 ของตาราง ในเกมอภิมหาช็อค เมื่อไปเยือนลอนดอน สเตเดียม ของขุนค้อน เวสต์แฮม แต่ไม่ได้พกทีเด็ดตัวจี๊ดอย่าง "เมสซี่อังกฤษ" เจสซี่ ลินด์การ์ด และ อเล็กซิส ซานเชส ไปแก้เกม ทำให้ลูกทีมของกุนซือเก้าอี้ร้อน โจเซ่ มูริญโญ่ บุกไปพ่ายขุนค้อนเละเทะ หลังจากโดนนำไปก่อน 2-0 แต่ใจกำลังมา แรซฟอร์ด ลงมาตีไข่แตกให้ทีม แต่สุดท้ายความนิ่งไม่พอก็ทำให้ทุกอย่างพังพินาศ กองหลังมัวแต่เหม่อปล่อยให้ อาเนาท์โตวิช หลุดเข้าไปปิดบัญชีล่อเป้าอย่างง่ายดาย เป็นคำถามตัวโตๆ เลยว่า ถึงเวลาเปลี่ยนผู้จัดการทีมใหม่แล้วหรือยัง?
Arsenal 2 - 0 Watford
มีคนเคยบอกไว้ว่า ซีซั่นนี้ดูปืนใหญ่ให้ดูแค่ครึ่งหลัง ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริงเสียแล้ว เพราะลูกทีมของ "โลกิ" อูไน เอเมรี่ ครึ่งแรกเกมไม่มีอะไรเลยจริงๆ มาหลายนัดแล้ว ก่อนที่กุนซือมาดเท่จะเนรมิตรการแก้เกมในครึ่งหลัง ดลบัลดาลชัยให้กับทีม บอกเลยว่านาทีนี้ดู อาร์เซน่อล เปิดแค่ครึ่งหลังก้พอ สนุกกว่าเยอะ!! แต่ดูเหมือนมาเรื่อยๆ ไม่มีปัญหา สื่อก็กระพือข่าวเรื่องล้มโต๊ะต่อสัญญา อาร์รอน แรมซี่ กองกลางไดนาโมของทีมเป็นที่เรียบร้อย ทำให้เจ้าตัวอาจจะไม่ได้อยู่ในถิ่น เอมิเรตต์ สเตเดี้ยม ต่อในฤดูกาลหน้า
Everton 3 - 0 Fulham
สบายหายห่วงจริงๆ สำหรับ จอร์แดน พิคฟอร์ด มือ 1 ทีมชาติอังกฤษคนปัจจุบัน ในเกมที่ทอฟฟี่สีน้ำเงินสอนบอลน้องใหม่เจ้าสัวไปขาดลอย เพราะตลอด 90 นาที ไม่ต้องเซฟให้เมื่อยมือแม้แต่ครั้งเดียว ทีมเยือน ฟูเเล่ม ยิงทิ้งยิงขว้างออกไปหมด ไม่มีลูกใดเข้ากรอบเลย ทำให้นัดนี้โรงงานทอฟฟี่ตบเด็กไปแบบง่ายๆ ด้วย 2 ประตูของ กิลฟี่ ซิเกิร์ดสัน และอีกประตูของกองหน้าป้ายแดง แซงค์ โตซุน
Huddersfield Town 0 - 2 Tottenham Hotspur
เมื่อ แฮรี่ เคน เข้าฟอร์ม ก็ยากที่จะหาใครมาหยุด ทอตต์แน่ม หลังจากเหมา 2 ประตู พาทีมบุกกำชัย ในวันที่เล่นไม่ดีแต่มีแต้ม ก็เป็นอีกจุดเด่นของสเปอร์สที่มีมาหลายซีซั่นแล้ว น่าสนใจว่าปีนี้จะได้ลุ้นไปถึงช่วงไหน หรือว่าจะเหลวเป๋ว ท่าดีทีเหลวเหมือนเดิม ที่อุตส่าห์มีลุ้นแชมป์ แต่กลับปล่อยมือชูถ้วยทิ้งไปซะอย่างนั้นบ่อยๆ นัดนี้ถือว่าเป็นแรงใจที่ดีก่อนจะต้องรับมือต่างดาวในถ้วย UCL กลางสัปดาห์
Manchester City 2 - 0 Brighton & Hove Albion
สนามฟุตบอลเค้าเล่นกัน 22 คน 2 ฝั่ง แต่เหมือนเรือใบสีฟ้าไม่คิดอย่างนั้น ในเกมตบเด็ก ไบรท์ตัน ไม่มีความหวังใดๆ แชม์เก่าครองบอลเคาะเล่นไปมาสนุกเท้า จนนักเตะทีมเยือนแทบจะไล่ไปเล่นกันเองที่บ้าน ได้ 2 ประตูชิลล์ๆ จาก ราฮีม สเตอริ่ง ตั้งแต่ครึ่งแรก ก่อนที่ อเกวโร่ จะบวกประตูที่ 2 ปิดท้าย ท่ามกลางความเหนือชั้น ครองเกม 82 ต่อ 20 และโอกาสทำประตู 20 ต่อ 2!!!
Newcastle United 0 - 2 Leicester City
อาการหนักจริงๆ สำหรับสาลิกาดง นิวคาสเซิล หลังจากปีก่อนรอดตกชั้นได้หวุดหวิด ปีนี้น่าจะเข้าอีหรอบเดิม แข่งไป 7 นัด มีแค่ 2 แต้ม หรือถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่ต้องลาลีคสูงสุด เกมนี้สู้จิ้งจอกสยามไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว โดนจุดโทษไปก่อนตั้งแต่ครึ่งแรก เริ่มครึ่งหลังทรงพอได้แต่โดนยิงย้ำชัยไปอีก สงสารก็แต่กุนซือ ราฟาเอล เบนิเตซ เพราะงบประมาณจากเจ้าของสโมสรจำกัดจำเขี่ยเสียเหลือเกิน
Wolverhampton Wanderers 2 - 0 Southampton
ฟุตบอลเค้าวัดกันที่ประตู!! ถือเป็นเกมที่แลกสนุกสูสี แต่ทีเด็ดทีขาดเป็นเจ้าบ้านที่ทำได้ดีกว่า 2 ประตูท้ายเกมไม่ได้มาเพราะโชคช่วย ส่งผลให้ทีมตัวแทนจากโปรตุเกส น่าจะมีแนวโน้มรอดตกชั้นปีนี้มากกว่าอีก 2 ทีม มากที่สุด ด้วยทรงบอลรวมถึงชื่อชั้นนักเตะแต่ละคน ที่เรียกว่าแทบจะเอานักเตะทีมชาติโปรตุเกสมาทั้งทีม นี่ถ้ามี คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกคนคงจะแปลกดีพิลึก!!
Chelsea 1 - 1 Liverpool
บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์นี้ ศึกชิงตำแหน่งจ่าฝูงของ 2 ทีมที่ยังไร้พ่าย จบกันไปแบบสมานฉันท์แบ่งแต้ม ทั้งๆ ที่แฟนขาประจำและขาจร รวมถึงกองแช่งเด็กผีทั้งหลายที่หวังให้ทีมรักจะไม่เดินเดียวดาย โดยการลุ้นให้หงส์แดงพังพาบไปเป็นเพื่อน ทุกสายตาต้องช็อคตาตั้ง เมื่อลูกยิงมหัศจรรย์ของ ดาเนียล สเตอริจ ในนาทีที่ 89 กลายเป็นประตูสุดสวยไปหน้าตาเฉย กองเชียร์หงส์แดงก็เลยยังคุยข่มไปได้อีก 1 สัปดาห์ ว่าแต้มเท่าจ่าฝูงนะจ๊ะ ในขณะที่เจ้าบ้านยังคงเหมือนเดิม ทำดีได้แค่ไหนก็ตามแต่ ยังมีจุดให้กุนซือ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ต้องไปติวเข้มอยู่อีกหลายจุด
Cardiff City 1 - 2 Burnley
ผีเข้าจริงๆ สำหรับ โจ ฮาร์ท ผู้รักษาประตูของเบิร์นลี่ย์ เกมนี้สวมบทพระเอกสุดยอดพาทีมบุกชนะน้องใหม่ คาร์ดิฟฟ์ ถึงถิ่น ที่ต้องชมอดีตนายทวารทีมชาติอังกฤษผู้นี้ก็เพราะ โอกาสยิงทั้งเกมเจ้าบ้านเหนือกว่าบานตะไท 11 ต่อ 3 ครั้ง แต่พี่โจโชว์ฟอร์มซูเปอร์เซฟไว้ได้หมดจด รวมถึงการฉวยโอกาสที่น้อยนิดของกองหน้า ที่เปลี่ยฯโอกาสยิงเข้ากรอบ 2 ครั้ง เป็น 2 ประตู คว้าชัยไปได้ในที่สุด
AFC Bournemouth 2 - 1 Crystal Palace
มาเงียบๆ ไต่อันดับเรื่อยๆ สำหรับ เดอะ เชอร์รี่ ที่วันนี้ได้สองประตูต้นเกมและท้ายเกม ทำให้ บอร์นมัธ ทะยานขึ้นสู่อันดับ 7 อย่างคูลๆ ต้อนตือ ปราสาทเรือนแก้ว กลับลอนดอนไม่ถูกเลยทีเดียว หรือปีนี้ พาเลซ จะต้องหนีตกชั้นอีกปีกันนะ??
