สังหารโหด 2 พี่น้องตัดไม้คาดรุกที่เจ้าถิ่น พยานเผยกระบะปริศนาซุ่มยิงคาถนน (คลิป)

18 ส.ค. 64

กรณี พล.ต.ต.วรา เวชชาภินันท์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง, ร.ต.ท.ชาญณรงค์ สันซัง ร้อยเวร สภ.เขาชัยสน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องกว่า 10 นาย และเจ้าหน้าที่กู้ภัยพัทลุงเข้าตรวจสอบเหตุยิงกันตายริมถนนสายเชีย (เพชรเกษม) ฝั่งขาขึ้นหลักกิโลเมตรที่ 1185 พื้นที่ ม.8 บ้านหัวหรั่ง อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง

418190780643

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบศพ นายบุญยงค์ ปัญญาจิตร อายุ 31 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ริมถนน ข้างรถฮอนด้าเวฟ ทะเบียน 1 กฐ 7432 พัทลุง ล้มอยู่ สภาพศพมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกโม่ ไม่ทราบขนาด บริเวณชายโครงขวา ด้านหลัง และบริเวณแขนขวารวม 3 นัด และบริเวณหน้ารถ เจ้าหน้าที่พบเครื่องเลื่อยยนต์จำนวน 1 เครื่อง

738550862597

ห่างออกไปประมาณ 10 เมตร พบศพนายพงศ์นิช ปัญญาจิตร อายุ 26 ปี น้องชาย เสียชีวิตอยู่ข้างรถสามล้อพ่วง ทะเบียน 1 กค 1632 พัทลุง ซึ่งภายในรถมีท่อนไม้อยู่เต็มคันรถ สภาพศพถูกยิงด้วยอาวุธปืน คาดว่ากระบอกเดียวกัน เข้าที่บริเวณราวนมขวาชายโครงซ้ายสะบักหลัง ด้านขวา และไหล่ขวารวม 4 แผล เหตุเกิดเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 17 ส.ค. 64

644836

ล่าสุด วันที่ 18 ส.ค. 64 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบคราบเลือดบนถนนและในพงหญ้า พบร่องรอยดินพรวนขึ้นมาซึ่งเป็นจุดนายพงศ์นิช นอนเสียชีวิต แต่ถัดไปเพียง 1 เมตร ทีมข่าวพบต้นไม้ใหญ่แขวงทางหลวงพัทลุง 2 ต้นมีร่องรอยถูกตัดโค่น 1 ต้น และถูกตัดออกไป 1 กิ่ง 1 ต้น คาดว่าเป็นต้นไม้ที่ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 มาตัดก่อนถูกยิง

889523893586

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดอีโอดี กองบังคับการตำรวจภูธรพัทลุง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ หาวัตถุพยานในที่เกิดเหตุพบหัวกระสุนปืนขนาด .357 สอดคล้องหัวกระสุนที่พบในศพผู้เสียชีวิต แต่ในที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุน

717766

นางสาวนาเดีย (นามสมมติ) อายุ 35 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า เวลาประมาณ 19.00 น. ได้ยินเสียงปืนดังรัว ประมาณ 4 นัด แต่ตนไม่ได้ออกมาดู คิดว่าวัยรุ่นเบิ้ลรถ และบิดกุญแจ ทำให้เครื่องยนต์เสียงดังคล้ายปืน อีกทั้งช่วงเวลานั้นในย่านนี้มืดสนิท แม้แต่ไฟส่องสว่างบนถนนก็ไม่มี ตนก็มักจะเข้าบ้านเตรียมตัวนอน และไม่กล้าออกมา ต่อมาไม่นานก็พบตำรวจมาเต็มพื้นที่ ก็ยังคิดแค่ว่ารถชนกัน จนรุ่งเข้าถึงรู้ว่าเหตุคนถูกยิง ซึ่งตนก็ไม่รู้จักกับผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน

ส่วนต้นไม้ข้างทางในที่เกิดเหตุ ก่อนหน้ายังยืนต้นปกติดีทั้ง 2 ต้น แต่เมื่อวานหลังเลิกงานขับผ่านจุดนั้นก็พบว่าต้นไม้เป็นตอ ถูกตัดไป 1 ต้นแล้ว แต่ก็ไม่พบคนที่มาตัดไม้ สำหรับบริเวณนี้ตนไม่ค่อยได้สังเกตว่ามีใครมาตัดไม้ข้างทางบ้าง เพราะตนออกไปทำงานแต่เช้า และเย็นก็กลับบ้าน ส่วนผู้ตายทั้ง 2 ก็ไม่เคยเห็นมาก่อนว่ามีการมาตัดไม้ในย่านนี้

440811

เวลาประมาณ 11.00 น. ชาวบ้านและครอบครัวของผู้เสียชีวิตนำศพ นายบุญยงค์ ปัญญาจิตร อายุ 31 ปี และนายพงศ์นิช ปัญญาจิตร อายุ 26 ปี ไปฝังที่กุโบร์บ้านควนนาช่อง ต.เขาชัยสน ทำพิธีฝังคู่กัน ตามหลักการศาสนาอิสลาม บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบง่าย

355145

นางหลัม หละนคร อายุ 54 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายคนโตมีเมีย และแยกครอบครัวไปก่อนจะเลิกลากับเมียและกลับมาอยู่บ้านได้ 3 ปี ส่วนคนน้องก็ทำอาชีพตัดไม้ต่าง ๆ มานานแล้ว วันเกิดเหตุในช่วงเช้าลูกชายคนโตออกไปตัดไม้ตั้งแต่ 09.00 น. ก่อนกลับเข้าบ้านช่วง 15.00 น. มาบอกลูกคนที่ 4 ซึ่งนอนอยู่ให้ไปช่วยขึ้นไม้ที่ตัดไว้ จากนั้นลูกคนที่ 4 ก็ลุกจากที่นอนออกไปช่วยและขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างออกไปก่อน แต่ลูกชายคนโตขี่รถจักรยานยนต์อีกคันตามไปทีหลัง จากนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกทั้ง 2 คน

224627

ซึ่งทั้ง 2 คนมีอาชีพตัดไม้ ส่วนใหญ่ก็ไปตัดไม้ป่า ไม้ยางตามบ้านคนที่ชาวบ้านอนุญาต และไม้ริมทางที่การทางอนุญาต บางครั้งก็ไปซื้อไม้และไปขายต่อ เพื่อเอาไปขายนำเงินมาเลี้ยงพ่อที่พิการติดเตียง และหาเงินจุนเจือครอบครัว ที่ผ่านมาลูก ๆ ไม่เคยมีปัญหากับใครเลย ทั้งปัญหาส่วนตัว และเรื่องยาเสพติด แม้ทั้งคู่จะเสพยาจริงแต่เสพเพื่อให้ทำงานได้ ไม่ได้เสพหนักหรือติดงอมแงมอะไร แต่จริง ๆ ก็ยืนยันไม่ได้เต็ม 100 เพราะลูกทั้ง 2 คนไม่ค่อยปรึกษา ไม่ค่อยเล่าอะไรให้ตนฟัง แต่ตนสงสัยแค่เรื่องตัดไม้ เพราะไม่รู้ว่าระหว่างลูกไปตัดไม้จะขัดแย้งกับใครหรือไม่ ตนจึงไม่แน่ใจว่าเรื่องนี้เป็นชนวนทำให้ลูกโดนฆ่าหรือไม่

885445

อย่างไรก็ตาม ตนนอนคิดมากทั้งคืนว่าใครฆ่าลูก นอนไม่หลับ กินข้าวไม่ลง แต่วันนี้พอทำใจได้ คิดว่าขอให้ต่างคนต่างอยู่เพราะลูกตายไปแล้ว เอาคืนไม่ได้ แต่การสูญเสียเหมือนเสียเสาหลักไป จากนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกันต่อ สำหรับทางคดีก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ ถ้าจับได้ก็เป็นบุญของลูก ตนไม่แค้น ไม่อาฆาต เพราะไม่มีอะไรดีขึ้น มีแต่เสียกับเสีย

ทั้งนี้ ระหว่างสัมภาษณ์มีนายประยูร ปัญญาจิต อายุ 50 ปี พ่อผู้เสียชีวิต ซึ่งป่วยติดเตียงมานาน 2 ปีแล้วนั้น นั่งฟังการสัมภาษณ์อยู่ด้วย ในช่วงทายที่ทีมข่าวสอบถามผู้เป็นแม่ ถึงการที่ลูกทั้ง 2 คนดูแลแม่และพ่อ ดูแลครอบครัวมาตลอด ทำให้ผู้เป็นพ่อถึงกับร้องไห้โฮออกมา

813451

ด้านนายปรีเปรม เพ็งโอ อายุ 60 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 บ้านบ้านหัวหรั่ง เปิดเผยว่า นิสัยลูกบ้านทั้ง 2 คนก็นิสัยดี แต่การทำงานก็จะแตกต่างกันไป และครอบครัวนี้ไม่ได้มีอาชีพเป็นหลักแหล่ง ส่วนใหญ่ตัดไม้ไปขายจุนเจือครอบครัว บางครั้งก็แอบตัดของชาวบ้านบ้าง เพราะมีชาวบ้านมาร้องเรียนหลายครั้ง แต่ชาวบ้านก็ไม่ได้เอาเรื่อง และตนได้ตักเตือนทั้งคู่ไปบ้างแล้ว บางครั้งเป็นไม้โค่นล้มข้างทาง บางทีคนตัดไม้เจ้าอื่นจองไว้แล้ว แต่ทั้งคู่อาจไปขนตัดหน้าบ้างก็มี แต่ล่าสุดที่เกิดเหตุเป็นต้นไม้ริมถนน ไม้ล้ม กิ่งหัก ไม่น่าจะเกี่ยวกับใคร และเรื่องไม้ตนว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะไม้มีเยอะแยะมากมาย ไม่น่าจะโกรธหรือฆ่าแกงกันได้ ส่วนเรื่องทะเลาะวิวาทกันระหว่างวัยรุ่นในหมู่บ้านก็ไม่พบ

ดังนั้น มีเรื่องเดียวที่ตนกังวลคือเรื่องยาเสพติด กลัวว่าผู้เสียชีวิตไปเอายามา แต่ไม่ได้จ่ายเงิน เบี้ยวเงิน แต่จริง ๆ คนในหมู่บ้านก็ไม่เคยฆ่าแกงกัน ทุกคนในหมู่บ้านก็ยังงงกันอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น หมู่บ้านมีมากกว่า 400 หลังคาเรือน ทุกคนทราบเรื่องนี้กันหมด ไม่มีใครต้องสงสัย

cg

พล.ต.ต.วรา เวชชาอภินันต์ ผบก.ภจ.ว.พัทลุง ให้ข้อมูลว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าครอบครัวนี้ค่อนข้างน่าสงสาร และน่าเห็นใจ เพราะก่อนหน้านี้มีพ่อเป็นเสาหลักจองครัวครัว นำพาลูก ๆ รับจ้างทำงานก่อสร้าง มีอาการป่วยช่วยตัวเองไม่ได้มา 2 ปี จากนั้นนายบุญยงค์ ปัญญาจิตร ลูกชายคนโต ก็เป็นเสาหลักนำน้อง ๆ ทำงาน

โดยแนวทางต่อจากนี้กำลังเร่งสอบสวนญาติพี่น้องและคนในครอบครัวต่อ ต้องสืบว่าผู้ตายมีความขัดแย้งกับใครบ้าน อาชีพที่ทำขัดแย้งกับใครบ้าง รวมถึงประวัติผู้ตายซึ่งตอนนี้คาดว่าน่าจะมีคดีติดตัว เพราะมีข้อมูลว่าอยู่ระหว่างคุมประพฤติ กำลังตรวจสอบอยู่ ขณะนี้จึงตั้งทีมสืบสวน แบ่งหน้าที่กันทำงานทั้งการติดตามเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างบ้านผู้เสียชีวิต และที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะเส้นทางที่ผ่านจุดเกิดเหตุว่ามีกล้องวงจรปิดหรือไม่

พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นสวนยาง หลักฐานได้คือหัวกระสุน 2 หัว ค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ไม่พบปลอกกระสุน คาดเป็นกระสุนปืน .38 กับ .357 และยังรอผลพิสูจน์ ส่วนแวดล้อมมีเพียงปากชาวบ้านที่พูดต่อกันว่ามีรถกระบะจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม มีกระบะตามผู้ตายทั้ง 2 มายิงในที่เกิดเหตุ และมีคนร้ายถึง 3 คน คาดว่าคนร้ายน่าจะก่อเหตุยิงคนเป็นพี่ก่อน และน้องเห็นจึงวิ่งไปช่วย และถูกยิงรวดถึง 4 นัด ตามกระสุนที่อยู่ในตัวผู้ตาย 2 นัด และข้างตัวอีก 2 นัด

ปมที่ตั้งไว้ให้น้ำหนักไปที่เรื่องนิสัยส่วนตัว ชอบลักเล็กขโมยน้อย โดยเฉพาะการแอบตัดไม้ชาวบ้าน ส่วนประเด็นรองลงมาคือเรื่องยาเสพติด เพราะการสืบสวนพบแค่ว่าเป็นแค่ผู้เสพ และอีก 3 ประเด็นคือ เหตุเฉพาะหน้า ปัญหาส่วนตัว และเรื่องชู้สาว และยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส