วันแรกรถตู้หมดอายุ 10 ปี ห้ามวิ่ง ผู้ประกอบการวอนขนส่งฯ ยืดเวลาเป็น 15 ปี

วันที่ 1 ต.ค. 61 เป็นวันแรกที่กรมการขนส่งทางบก จะไม่อนุญาตให้รถตู้โดยสารปรับอากาศร่วมบริการสาธารณะ ที่มีอายุการงานเกิน 10 ปี มาวิ่งรับผู้โดยสาร ซึ่งบริเวณวินรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นับเป็นอีกหนึ่งจุดที่อาจจะได้รับผลกระทบเพราะเป็นจุดที่มีรถใกล้หมดอายุจำนวนมากที่สุด ถึง 815 คัน ขณะที่ช่วงเช้าที่่ผ่านมากรมการขนส่งทางบกพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เพื่ออำนวยความประชาชน และมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนอย่างแน่นอน เนื่องจากได้มีการประสานร่วมกับ ขสมก. และ บขส. ในการเตรียมรถไว้รองรับประชาชนเพียงพอ ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ติดตามการใช้บริการรถตู้โดยสารสาธารณะ ของประชาชนบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ซึ่งบริเวณวินรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นับเป็นอีกหนึ่งจุดที่อาจจะได้รับผลกระทบเพราะเป็นจุดที่มีรถใกล้หมดอายุจำนวนมากที่สุด ถึง 815 คัน ทั้งนี้ พบว่า ตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ยังคงมีรถตู้โดยสารที่อนุสาสรีย์ชัยสมรภูมิ ให้บริการผู้โดยสารในแต่ละเส้นทาง แม้ว่าวันนี้ จะมีรถตู้ที่มีอายุการงานเกิน 10 ปี จะไม่สามารถเข้ามาวิ่งรับผู้โดยสารได้

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมเจ้าหน้าที่จาก กรมการขนส่งทางบก ร่วมกับ พล ม.2 รอ. และ ขสมก. ลงพื้นที่อำนวยความสะดวกประชาชน ในการใช้บริการรถตู้โดยสารประจำทาง ตามแผนการรองรับเพื่อการติดตามและแก้ไขปัญหาการเดินรถตู้โดยสารประจำทาง พร้อมประเมินสถานการณ์การเดินรถอย่างต่อเนื่อง ความเพียงพอของจำนวนรถ ไม่ให้ส่งผลกระทบแก่ประชาชนผู้ใช้บริการ

โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้ส่งเจ้าหน้าที่จากกองตรวจการไปสำรวจตั้งแต่ต้นทางรถตู้โดยสาร การให้บริการเป็นไปตามปกติ ยังไม่มีเรื่องร้องเรียน ซึ่งคณะทำงานได้มีการตั้งศูนย์วอลรูม ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อแก้ปัญหา และการสำรองรถ เพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน เบื้องต้นจะ ให้ผู้ประกอบการรถตู้เส้นทางต่างๆเพิ่มเที่ยววิ่งให้มีความถี่มากขึ้น โดยผู้ประกอบการ ให้ความร่วมมือกับภาครัฐเป็นอย่างดี ส่วนของการรอคิวการขึ้นรถตู้ ก็จะเป็นไปตามคิวและระยะเวลาการให้บริการ

ขณะที่คนขับรถตู้โดยสาร ที่วิ่งส่งผู้โดยสาร ระหว่าง บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไป ม.ธรรมศาสตร์รังสิต เปิดเผย ว่า ต้องการให้กรมการขนส่งทางบก ขยายเวลาการใช้งานของรถตู้โดยสาร จาก 10 ปี เป็น 15 ปี เพื่อยืดอายุการใช้งานให้คุ้มค่า เพราะเจ้าของรถทุกคนตรวจเช็กสภาพรถให้มีความพร้อมในการใช้งานอยู่เสมอ