ประจักษ์ชัย ไหทองคำ  ดัน  เอ๋ มิรา  ขึ้นแท่นนางเอก MV

10 ส.ค. 64

หลังจากมีกระแสโด่งดังในโลกโซเชียล สำหรับสาว เอ๋ มิรา อดีตภรรยาของ ครูไพบูลย์ ที่เพิ่งผ่านเรื่องราวดราม่ากัน ล่าสุด ประจักษ์ชัย ไหทองคำ นายห้างไหทองคำเรคคอร์ด ก็ไม่รอช้า คว้าตัว  เอ๋ มิรา  มาร่วมแสดงมิวสิควิดีโอ เพลง “ดนไป่” (ดนไป่ แปลว่า นานหรือยัง) ของนักร้องสาวลูกทุ่งอินดี้ “นิวส์เตย” โดยนายห้างประจักษ์ชัยก็ได้โพสต์ภาพบรรยากาศต่างๆ ขณะถ่ายทำมิวสิควิดีโอเพลงนี้ให้ได้ชมกัน ซึ่งก็ได้รับกระแสตอบรับล้นหลาม มีชาวเน็ตเข้ามาปักหมุดรอชมมิวสิควิดีโอเพลงนี้กันเพียบ

ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ก็เลยขอวิดีโอคอลไปพูดคุยกับ เอ๋ มิรา และ  นายห้างประจักษ์ชัย ถึงเรื่องนี้กันสักหน่อย โดยสาวเอ๋ มิรา ก็เผยกับเราว่าเพลงนี้ถือเป็นมิวสิควิดีโอเพลงแรกเลย สะท้อนชีวิตจริง เป็นเรื่องราวของผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่กับแฟน มีความรักด้วยกันแล้วแฟนก็นอกใจ

s__91430927

และที่หลายคนพูดถึงคงเป็นซีนน้ำตาที่มีการปล่อยภาพนิ่งออกมาจนหลายคนชมเรื่องการแสดงของเธอ ซึ่งเรื่องนี้ “เอ๋ มิรา” บอกว่า ขณะที่ถ่ายทำก็ดูรูปของลูกชายแล้วก็ร้องไห้ออกมาได้เลย และถ่ายทำกันแค่เพียง 1 วันเท่านั้น

อีกหนึ่งเรื่องที่ชาวเน็ตฮือฮาเป็นอย่างมาก สำหรับนักแสดงร่วมในมิวสิควิดีโอเพลงนี้ที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกับบุคคลที่เพิ่งมีข่าวดราม่ากับเอ๋ไป เรื่องนี้เจ้าตัวก็บอกว่าหน้าตาของทั้งคูกฌคุ้นๆ อยู่ แต่ถ้าคนจะนำไปโยงกับชีวิตจริง ก็แล้วแต่มุมมองคนคิด เราก็พยายามสื่อในส่วนของเรา ในความรู้สึกของเราจริงๆ ต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจ และทุกคนที่ให้โอกาสตัวเองมายืนถึงจุดนี้

ส่วนเรื่องราวของอดีตคนรัก  เอ๋ มิรา บอกกับเราว่า ไม่ได้ติดต่อกันเลย ตนก็ทำงานในส่วนของตน เรื่องที่ผ่านมาก็พูดไปหมดแล้ว ต่อจากนี้ขอเริ่มชีวิตใหม่ เรื่องที่อีกฝ่ายจะฟ้องเพื่อนของตน ในตอนนี้ก็ยังไม่ได้มีหมายอะไร

 นอกจากนี้ทางด้านของ นายห้างประจักษ์ชัย ก็ยังได้เล่าถึงโปรเจกต์ในครั้งนี้ให้ฟังด้วยว่า เพิ่งจะเกิดโปรเจกต์นี้เมื่อ 4 วันที่แล้ว โดยตนไปรู้จักกับครูเพลงที่ทำเพลงนี้ไว้ เมื่อ 3-4 เดือนที่แล้ว มีนักร้องดังมาโคฟเวอร์เพลงจนเป็นสิบๆล้าน เราเห็นกระแสก็เลยอยากทำเอ็มวี พอดีเพื่อนแนะนำให้รู้จักเอ๋ ก็เลยได้ชวนน้องว่าถ้ามีโอกาสจะมาทำเอ็มวีร่วมกันไหม กล้าแสดงเอ็มวี กล้าแอคติ้งไหม ก็เป็นห่วงว่าน้องอาจจะยังไม่ถนัดเรื่องมุมกล้อง แต่ก็ชวนมา น้องก็โอเค ก็เลยรีบถ่ายกันด่วน เส้นเรื่องก็ปรับในคืนนั้น กล้องก็ปรับ โลเคชั่นก็หาที่ห่างไกลผู้คนหน่อย ทำงานอยู่ในเซฟโซนอย่างด่วนเลย ก็เลยต้องตัดต่อวันนี้แล้วก็จะปล่อยเอ็มวีในวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค. 64) เวลา 15.00 น.

เมื่อถามว่าเห็นกระแสคนอยากมาติดตามรู้สึกอย่างไรบ้าง “นายห้างประจักษ์ชัย” ก็บอกว่าดีใจ หลังจากที่วงการเพลงมันเงียบเหงาไปนาน กระแสยูทูปหรือโซเชียลมันโดนโรคภัยไข้เจ็บ เรื่องโควิด วัคซีน การเมือง คนก็เครียดเรื่องโรคภัยอยู่แล้ว พอมีกระแสเพลงดราม่าหรือการกำเนิดศิลปินคนดังในโซเชียลแต่ละครั้งมันมีประเด็นที่จะเกิดได้ยาก ในส่วนของน้องเอ๋ เราขอออกตัวก่อนว่าในการทำเพลงเราเป็นค่ายเพลง ทางค่ายของอาจารย์ (ไพบูลย์) ก็เป็นค่ายเพลง แต่เราไม่ได้มีความขัดข้องหมองใจหรือมีการผิดใจอะไรกันในการทำเพลง น้องเขาก็จบกันด้วยดี เขาก็แยกย้ายกันทำงานด้วยดี ผมแค่เป็นคนนึงที่มีเพื่อนรู้จักกับเอ๋ และเอ๋ก็ยินดีที่จะมาทำเอ็มวีกับเรา ซึ่งหลังจากถ่ายเอ็มวีนี้เสร็จ ก็จะทำเพลงให้เอ๋ ทีมงานก็เลยเตรียมเพลงแล้วก็จะใส่เสียงน้องเอ๋เข้าห้องอัดแล้วก็ทำดนตรี แล้วก็ถ่ายเอ็มวีปล่อยภายใน 7 วันนี้ ชื่อเพลงว่า “ฟ้ามีตา”

ถามว่ายากไหม สำหรับการทำงานเพลงครั้งแรกของเอ๋ “นายห้างประจักษ์ชัย” เผยว่า ช่วงที่เอ๋ อยู่ค่ายของอาจารย์ (ไพบูลย์) เขาก็เคยผลักดันนักร้องอยู่แล้ว พอน้องเขารู้บทบาท น้องเขามีความเกี่ยวข้องกับการทำโปรดักชั่นอยู่บ้าง เวลาเข้าฉากเข้ากล้องน้องก็เลยรู้สึกบิ้วท์ง่าย คิดถึงลูกก็ร้องไห้จริงได้เลย

ส่วนเรื่องนักแสดงร่วมในมิวสิควิดีโอเพลงนี้ที่มีหน้าตาละม้ายคล้ายกับบุคคลที่เพิ่งมีข่าว ดราม่ากับเอ๋ไปนั้น “นายห้างประจักษ์ชัย” ก็บอกว่าเป็นคนที่รู้จักกัน เราพยายามที่จะให้มีคาแรคเตอร์ที่เป็นที่จดจำในการสื่อของเรา เป็นเส้นเรื่องที่ช่วยกันคิด น่าจะเป็นแรงดึงดูดมาให้น้องเอ๋ อยากให้น้องเอ๋มีตัวตน ไม่ใช่ว่าเป็นนางเอกเอ็มวีเพลงนี้แล้วก็จบไปหรือไปทำธุรกิจร้านเสริมสวยก็จบไป เราก็เลยชวนว่าน้องมีกระแสพอจะร้องเพลงได้ หรือรีวิวสินค้าได้ เราอยากจะเป็นส่วนหนึ่งในการต่อยอดความดังของน้องที่มีอยู่ให้ได้มีรายได้เสริมขึ้นมาเพื่อที่จะได้สร้างครอบครัวใหม่แล้วก็เพื่อลูกในอนาคต ด้วยความบริสุทธิ์ใจ และกำลังจะเซ็นสัญญาร่วมงานกัน 2 ปี ถ้าน้องอยากอยู่ต่อก็ว่ากัน ในการทำงานมันเป็นเรื่องของการลงทุน มีคนหลายคนเข้ามาร่วมด้วย มันก็จะได้เป็นโฟกัสเดียวจะได้ส่งเสริมน้องไปถึงจุดได้เร็วขึ้น

ถามว่ากลัวกระแสดราม่าไปพาดพิงอีกฝ่ายไหม เจ้าตัวบอกว่า ตนก็จะทำในส่วนที่ทำได้ เราก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปขยี้ให้เป็นข่าวที่เสียหาย เพราะมันจบด้วยคำพิพากษาของสังคมอยู่แล้ว อันไหนถูกไม่ถูก เราก็พยายามบอกน้องเอ๋ให้มองไปข้างหน้า น้องไม่ต้องไปขยี้ข่าวไปดราม่าเสียดายโอกาสหรือไปหมกมุ่นกับเรื่องเดิมๆ ให้มองไปว่าเราอยู่ที่ไหนก็ต้องทำงาน แล้วถ้าไม่ทำตอนนี้เราจะไปทำอะไร ก็เลยชวนน้องมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ มาเป็นแบรนด์สินค้าตัวเองไหม เราก็จะช่วยสนับสนุน ก็ชวนกันมา ส่วนเรื่องดราม่าเราห้ามกันไม่ได้ตอนนี้ยังไม่โดนอะไรมาก ตนบอกเสมอว่าตนไม่ใช่นักฉวยโอกาส ตนไม่ใช่นายทุน ตนเป็นผู้ลงทุนหาโอกาสดีๆให้น้องได้สัมผัสความดังได้ไปต่อยอดเป็นนักแสดงในละคร เป็นนักร้องอย่างมืออาชีพ เราไม่ได้ผิดใจกันค่ายเทปก็ไม่ได้ผิดใจกัน กับ อ.ไพบูลย์ เราก็เป็นพันธมิตรที่ดี มันเป็นเรื่องของการทำงานเพลง ถ้าน้องไม่ได้อยู่ตรงนี้น้องก็ต้องมีคนอื่นเอาไปต่อยอด เราก็เลยเสนอว่าเราเป็นพวกกันมีเพื่อนสนิทด้วยกัน เราจะสบายใจไหมถ้าจะมาร่วมงานกันซึ่งก็ไม่ใช่ค่ายไหทองคำ แต่เป็นค่ายที่ตั้งขึ้นมาใหม่เพื่อให้น้องเอ๋ มิร่าโดยตรงเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หลุดพ้นสักที เอ๋ มิรา อดีตภรรยา ครูไพบูลย์ โพสต์ข้อความ ความจริงจะชนะทุกอย่าง ลั่นไม่ขอจองเวรกับใคร!

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส