ศาลชลบุรีสั่งจำคุก 10 ปี "ลุงวิศวะ" ยิงโจ๋ ม.4 ดับ ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา สั่งชดใช้ 3.4 แสน

27 ก.ย. 61
จากกรณีนายสุเทพ โภชน์สมบูรณ์ อายุ 50 ปี วิศวกรใช้อาวุธปืนยิงนายนวพล ผึ่งผาย หรือปอนด์ อายุ 17 ปี เสียชีวิต หลังจากที่มีปากเสียงกับนายนวพลพร้อมพวก เรื่องที่จอดรถ บริเวณร้านอาหารย่านอ่างศิลา ต.อ่างศิลา อ.เมือง จ.ชลบุรี จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ และเป็นข่าวโด่งดังเมื่อวันที่ 4 ก.พ.2560 ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น  (อ่าน : ลุงวิศวะยิงเด็ก 17 เครียด หลังทนายส่วนตัวเผย เจอข้อหา “ฆ่าคนตายโดยเจตนา” )
ศาลจังหวัดชลบุรี
วันที่ 27 ก.ย. 61 นายสุเทพ โภชน์สมบูรณ์ ลุงวิศวกรใช้อาวุธปืนยิงนายนวพล ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษา ที่ศาลจังหวัดชลบุรี โดยทางศาลพิเคราะห์ เห็นว่า พยานหลักฐานรับฟังได้ว่าจำเลยพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควรและโดยไม่ได้รับอนุญาต แล้วใช้อาวุธปืนยิงผู้ตายจริง หลังเกิดเหตุมิได้หลบหนีไปไหน และยอมรับกับเจ้าพนักงานตำรวจในทันทีว่าเป็นคนยิงคนตาย ประกอบกับผู้ตายมีส่วนร่วมในการกระทำผิด เห็นสมควรลงโทษจำเลยในสถานเบา ฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา จำคุก 15 ปี ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจำคุก 10 ปี ฐานพาอาวุธปืน ปรับ 4,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงปรับ 2,000 บาท ยกคำร้องขอเข้าร่วมเป็นโจทก์ของนางสาวมณีพร ผึ่งผาย มารดาของผู้ตาย และให้ถือว่านางสาวมณีพรอยู่ในฐานะผู้ร้องขอให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเท่านั้น ให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทน จำนวน 340,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 3.5 ต่อปี นับแต่วันยื่นคำร้องขอเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่ผู้ร้อง
นายสุเทพ โภชน์สมบูรณ์ วิศวกร (แฟ้มภาพ)
ในส่วนของกลุ่มเพื่อนของนายนวพล คือ นายณัฐวุฒิ โสมทัศน์, นายอดิศร แสนศักดิ์ และนายกมล แจ่มวัย ในข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน ร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน และร่วมกันทำร้ายผู้อื่น ซึ่งนายณัฐวุฒิกับพวกรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ที่รุมทำร้ายลุงสุเทพ ศาลจังหวัดได้มีการพิจารณา จำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่เนื่องจากเห็นว่าผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และยังเป็นเยาวชน โทษจำ ให้รอลงอาญา คุมประพฤติเป็นเวลา 2 ปี และนายนิพนธ์ ทองสี คนขับรถตู้ถูกฟ้องในข้อหาจอดรถลักษณะกีดขวางการจราจร สั่งปรับ 1,000 บาท หลังจากนั้น นายวันชัย แสงสุวรรณ์ ทนายฝ่ายผู้เสียชีวิต เผยว่า เป็นเรื่องปกติของจำเลยที่ต้องมีสีหน้าเครียด แต่ก็ยังยังยืนต่อศาลเป็นการป้องกันตัว แต่ทางศาลเห็นว่าจำเลยสมัครใจเข้าไปมีส่วนร่วมทะเลาะวิวาทมาตลอดตั้งแต่เกิดเรื่อง จึงได้มีการพิพากษาดังกล่าว

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ