กรณีอาสาสมัครกู้ภัยได้เดินทางไปยังโครงการบ้านเอื้ออาทรนนทบุรี วัดกู้ 3 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังได้รับร้องจากประธานเคหะชุมชนวัดกู้ 3 ว่ามีเด็กชาย 2 คนพี่น้องผู้เป็นพี่ติดเชื้อโควิด-19 มีอาการหายใจเหนื่อยหอบ จึงอยากให้อาสาสมัครเข้าไปดูอาการ
ล่าสุดวันที่ 9 ส.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ นายศุภกร (สงวนนามสกุล) อายุ 15 ปี ผู้ป่วยโควิด-19 ระบุว่า ขณะนี้ตนอยู่ในบ้านกับน้องชาย โดยแยกกันอยู่คนละห้อง ซึ่งตนและน้องชายจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา ตนเริ่มมีอาการตัวร้อน ไข้ขึ้นสูง และมีอาการปวดหัวไอ หายใจไม่สะดวก โดยระหว่างที่พูดคุยกับทีมข่าวก็ยังคงมีอาการไออยู่ตลอดเวลา
ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าทานยาตามอาการ ซึ่งตนพบเชื้อโควิด-19 แต่น้องชายยังไม่ได้ตรวจหาเชื้อ ตนจึงอยากให้หน่วยงานสาธารณสุข เดินทางเข้ามาตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับน้องชาย เพื่อที่จะได้ทราบว่าจะมีเชื้อโควิด-19 หรือไม่ เพราะจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
ส่วนเรื่องอาหารการกินนั้น มีเพื่อนบ้าน มีคุณพ่อคุณแม่ติดต่อให้นิติช่วยเหลือนำอาหารมาแขวนไว้ให้ที่ประตู ตอนนี้ตนและน้องชาย เริ่มมีอาการเครียด เนื่องจากน้องชายกังวลว่าจะติดเชื้อโควิด-19 ที่สำคัญอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือเรื่องถังออกซิเจน เพราะตนรู้สึกว่ามีอาการหายใจลำบาก หายใจไม่สะดวก ประกอบกับไออย่างต่อเนื่องและตลอดเวลา
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมายังโครงการบ้านเอื้ออาทรนนทบุรี วัดกู้ 3 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายฐิติพงศ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า ครอบครัวของตนพักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 83/15 ชั้น 2 โดยพักอาศัย ด้วยกันทั้งหมด 4 คน ดังต่อไปนี้
1.นายฐิติพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 43 ปี
2.นางปารมี (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ภรรยา
3.นายศุภกร (สงวนนามสกุล) อายุ 15 ปี ลูกชายคนโต
4.ด.ช.วรัญญู (สงวนนามสกุล) อายุ 10 ปี ลูกชายคนเล็ก
โดยเมื่อประมาณวันที่ 28 ก.ค.64 ภรรยาเริ่มมีอาการ ไอ ตัวร้อน และวันที่ 29 - 30 ก.ค.64 อาการเริ่มหนักขึ้นไอตลอด และเวียนศีรษะ จึงได้ตัดสินใจเดินทางไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ที่โรงพยาบาล แต่โรงพยาบาลระบุว่าไม่สามารถตรวจหาเชื้อได้ กระทั่งวันที่ 4 ส.ค.64 ตนและ ภรรยาเดินทางไปยังโรงพยาบาล เวิลด์ เมดิคอล เซ็นเตอร์ เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 และทราบผลพบเชื้อในวันที่ 6 ส.ค.64 ทั้งคู่ จึงได้เดินทางพาลูกชายทั้ง 2 คนไปยังโรงพยาบาลปากเกร็ด 2 เพื่อที่จะตรวจหาเชื้อโควิด-19
ทั้งนี้โรงพยาบาล สามารถตรวจให้ได้เพียงคนเดียว คือ ลูกชายคนโต ส่วนลูกชายคนเล็กโรงพยาบาลไม่ได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เนื่องจากว่าไม่มีอาการป่วย ต่อมาช่วงเย็นวันที่ 6 ส.ค.64 โรงพยาบาลเดินทางมารับตนและภรรยาไปรักษาตัว ในวันที่ 9 ส.ค.64 โรงพยาบาลแจ้งผลว่าลูกชายติดเชื้อโควิด-19 ตนจึงอยากวิงวอนขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 ให้กับลูกชายคนเล็ก หากทราบผลเป็นบวกทั้งคู่จะได้ให้เขารักษาตัวด้วยกัน
แต่หากโรงพยาบาลเดินทางมารับตัวลูกชายคนโตก่อน ตนอยากให้มีหน่วยงานคอยช่วยเหลือเรื่องอาหารการกินให้แก่ลูกชายคนเล็ก แต่ถือว่ายังโชคดีที่มีเพื่อนบ้าน และทางเคหะ คอยให้การช่วยเหลือ เรื่องอาหารการกินอยู่ในขณะนี้
