กรณี ร.ต.ท.ปฎิญญา จิรันดอน รอง สว.(สอบสวน) สน.คันนายาว ได้รับแจ้งเหตุ นายธนภัทร ชนะกุลพิศาล หรือ ทอยทอย อายุ 21 ปี นักแสดงซีรีส์ “Why r u the series” เพราะรักใช่เปล่า ใช้อาวุธมีดแทง น.ส.ชัชสรัญ หรือ พิม อายุ 25 ปี เสียชีวิตในบ้านพัก ถนนเลียบคลอง 2 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เมื่อไปถึงบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปภายในห้องนอนชั้น 2 พบศพฝ่ายหญิง สภาพนอนหงายเสียชีวิตบนพื้นห้องข้างเตียงนอน สวมชุดเดรสสีดำลายดอกไม้ มีบาดแผลถูกแทงที่หน้าอกกว่า 20 แผล ส่วนผู้ก่อเหตุยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ข้างตัวมีมีดปอกผลไม้ยาวประมาณ 5 นิ้ว เปื้อนเลือดตกอยู่
จากการสอบสวนเบื้องต้น นายธนภัทร ให้การรับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุได้นั่งดื่มเบียร์กันอยู่ด้านล่าง 2 คน กระทั่งช่วงเวลา 22.00 น. ของวันที่ 5 ส.ค.64 ขึ้นห้องนอนตามปกติ เกิดมีปากเสียงทะเลาะกันเรื่องที่ตนต้องทำงานในวงการบันเทิง จากนั้นฝ่ายหญิงได้พูดในทำนองว่า ให้เก็บของออกไปจากบ้าน แล้วเดินลงไปหยิบมีดที่ห้องครัว ตนกลัวว่าจะหยิบทำร้าย จึงจะเข้าไปแย่งมีด และกลายเป็นเหตุให้น.ส.ชัชสรัญ ถูกแทงเข้าที่หน้าอกหลายครั้งจนเสียชีวิต
ล่าสุดวันที่ 6 ส.ค.64 เวลาประมาณ 15.00 น. นางบุณยาณัฐ เอี่ยมสอาด แม่ของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางมาจัดการเอกสารที่นิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อนำเสื้อผ้าที่นำมาจากบ้านในช่วงเช้ามาเปลี่ยนให้ ก่อนจะขอรับร่างของลูกสาวไปประกอบพิธีทางศาสนา ทีมข่าวสังเกตว่านางบุณยาณัฐ อยู่ในอาการโศกเศร้าและน้ำตาไหลตลอดเวลา
ในเวลา 16.00 น. แม่และครอบครัวของผู้ตายได้รับศพของผู้ตายขึ้นรถกู้ภัย แม่มีอาการคล้ายจะเป็นลม ครอบครัวต้องเข้าไปประคอง สังเกตได้ว่าทางครอบครัวอยู่ในสภาวะโศกเศร้าอย่างหนัก มีเสียงสะอื้นอยู่ตลอดเวลา
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่สถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ ทราบว่าผู้ตายมีแผลกว่า 20 แผล ล้วนเกิดขึ้นที่บริเวณหน้าอก ลึกทะลุปอด จำนวน 2 แผล และมี 1 แผลที่บริเวณลำคอ แพทย์ลงความเห็นการเสียชีวิตว่าอวัยวะช่วงอกบาดเจ็บอย่างรุนแรง เนื่องจากการถูกจ้วงแทง
สำหรับบรรยากาศงานสวดพระอภิธรรมคืนแรก ที่วัดบึงทองหลาง ย่านลาดพร้าว ศาลา 14 แขกเริ่มทยอยกันเดินทางมาร่วมงานในเวลา 17.00 น. พระสงฆ์ 4 รูป สวดอภิธรรมในเวลาประมาณ 17.30 น. เนื่องจากติดคำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ขอความร่วมมือกลับบ้านในเวลาตามรัฐบาลกำหนด บรรยายเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เพื่อนสาวคนสนิทของผู้ตายมีอาการสะอื้นในบางช่วง หลังจากที่เสร็จสิ้นพิธีในเวลาประมาณ 17.50 น. ครอบครัวก็ได้กรวดน้ำให้กับผู้ตายบริเวณกระถางต้นไม้หน้าศาลา
จากนั้น พี่สาวผู้ตายได้นำข้าวกะเพราหมูสับไข่ดาว มาวางบริเวณหัวโลงของผู้เสียชีวิต พร้อมกับเข้าไปพูดคุยกับผู้ตายใกล้ ๆ โลงศพด้วยเสียงสะอื้น จับใจความได้ว่า "ไปอยู่ดี ๆ กับพ่อนะ"
สำหรับ น.ส.ชัชสรัญ หรือ พิม เธอเกิดวันที่ 6 ต.ค.2539 เพิ่งจะอายุ 25 ปี โดยจากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของน.ส.ชัชสรัญ เมื่อวันที่ 8 ก.ค.64 ที่ผ่านมา เธอโพสต์ข้อความเกี่ยวกับโรคซึมเศร้า ที่เป็นมานานกว่า 2 ปี สาเหตุมาจากการถูกคนที่รักทำร้าย รักคนอื่นมากกว่าตัวเอง ทำให้คิดจะฆ่าตัวตายหลายครั้ง ยาที่ดีที่สุดของคนป่วยแบบนี้คือ "ความรัก" และ "ความเข้าใจเขาจริง ๆ" เพราะคนเหล่านี้เขารักตัวเองไม่ได้ พร้อมลงรูปตัวเองที่มีบาดแผลบริเวณใบหน้า
น.ส.ชัชสรัญ เขียนไว้ในเฟซบุ๊กว่า "โรคที่ไม่มีใครอยากจะเป็น โรคที่คนบางคนไม่เคยเข้าใจ โรคที่ทำให้พิมฆ่าตัวตายมาเป็นสิบ ๆ ครั้ง โรคที่พังชีวิตพิมแทบทุกอย่าง พิมต่อสู้กับโรคนี้พยายามที่จะหายมาตลอด แต่ก็จบตรงที่ไม่เราพังชีวิตตัวเอง เราก็ดันไปรักใครมากกว่าตัวเองเสีย จนเขามาพังชีวิตเรา เชื่อเถอะไม่มีใครอยากจะป่วยเป็นแบบนี้
มีคนชอบพูดกับพิมว่าพิมก็มีทุกอย่างแล้ว ทำไมยังไม่หยุดเป็นอะไรแบบนี้ พวกคุณเคยได้ยินคำว่า มีทุกอย่างแต่ไม่มีความสุขไหม มีแต่คนถามว่าพิมไม่รักตัวเอง ไม่รักคนรอบตัวบ้างเหรอ รักสิ พิมรักคนพวกนี้จะตาย แต่เข้าใจไหมคำว่าเซลล์สมองมันไม่ปกติ มันพัง กระบวนการคิดมันไม่เหมือนคนทั่วไป พิมอยากให้เคสของพิมเป็นตัวอย่างให้ทุกคนพยายามเข้าใจคนป่วยประเภทนี้ โดยเฉพาะคนที่คุณรัก
ยาที่ดีที่สุดของคนป่วยแบบนี้คือ ความรัก และความเข้าใจเขาจริง ๆ เพราะคนเหล่านี้เขารักตัวเองไม่ได้ พิมเข้าใจดีว่าอยู่กับคนป่วยแบบพิมมันเหนื่อย แต่บางทีคุณอาจจะเป็นเหตุผลสุดท้ายให้คน ๆหนึ่งฝืนมีชีวิตอยู่ต่อด้วยซ้ำ อย่าเห็นว่าโรคนี้เป็นเรื่องตลก อย่าเห็นว่าเขาแค่อยากเรียกร้องความสนใจ เพราะบางทีเขาฆ่าตัวตายสำเร็จ คุณจะไม่ตลกกับมันเลย อย่าดูถูกความเจ็บปวดของใคร ถ้าไม่รู้ว่าเขาผ่านอะไรมาบ้าง สิ่งที่พิมเจอมามันหนัก และหนักเกินกว่าผู้หญิงคนนี้จะต้องเจอจริง ๆ พิมก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรความทรมานมันจะจบลงสักที"
ส่วนอีกโพสต์ที่น.ส.ชัชสรัญ แชร์ผ่านเฟซบุ๊ก เป็นข่าวของนักแสดงหนุ่มไวท์ ที่ครอบคัวถูกหนุ่มสุดกร่างทำร้ายบนถนน พร้อมเขียนข้อความว่า “ต่ำ”
ขณะที่ในวันที่ 28 ก.ค.64 เวลา 08.12 น. เธอโพสต์เฟซบุ๊กว่า "แค่เธอก็พอ #PT" คล้ายกับว่ามีความกังวลบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องความรัก เนื่องจากการติดแฮชแท็ก #PT อาจจะสื่อได้ว่าฝ่ายชายยังไม่พร้อมเปิดตัวเธอในฐานะแฟนสาวในที่สาธารณะหรือไม่
ขณะที่ความเคลื่อนไหวของฟากนายทอยทอย ก็มักจะใช้อินสตาแกรมส่วนตัว เข้ามากดไลก์รูปภาพ และโพสต์ต่าง ๆ ของฝ่ายหญิงเสมอ ๆ
ในวันที่ 6 ก.ค.64 เวลา 10.57 น. น.ส.พิม ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า "ตอนที่โลกใบนี้หนักที่สุด คงเป้นตอนร้องไห้" ต่อมาเวลา 11.01 น. เธอโพสต์อีกว่า "สักคนภูมิใจที่มีเรา"
ในวันที่ 7 ก.ค.64 เวลา 19.38 น. น.ส.พิม ยังได้โพสต์ภาพเกี่ยวกับดวงดาว พร้อมข้อความว่า "ดาววันนี้ไม่เห็นเหมือนวันก่อนแล้ว" และระบายความในใจว่า "แค่อยากเป็นคนที่มีความสุข แม้ว่าฉันพยายามทำดีที่สุดแล้ว แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันพลาดตอนไหน ใจก็มีอยู่แค่นี้ จะให้แหลกสลายอะไรนักหนา เหนื่อยจนไม่รู้เอาคำไหนมาอธิบาย เจ็บจนน้ำตามันไหลออกมาตลอด ถ้าโลกมันโหดร้ายนัก ทำไมไม่ปล่อยให้ฉันไปสักที"
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ติดต่อสัมภาษณ์วิดีโอคอลกับ น.ส.วี ญาติของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า พี่พิมเป็นคนที่นิสัยดี ตลก อัธยาศัยดี ทราบมาตลอดว่าพี่สาวมีอาการป่วยเป็นโรคไบโพลาร์และซึมเศร้า ยอมรับว่าตกใจมากเมื่อทราบข่าวช่วงเช้าประมาณ 05.00 น. ตนโกรธมาก ๆ ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นกับครอบครัวคนใกล้ชิดตัวเอง ส่วนตัวไม่เคยทราบว่าพี่สาวคบกับนายทอยทอย รู้สึกว่าเขาเหมือนเพิ่งจะคุยกัน ยอมรับว่าทราบมาตลอดเรื่องแฟนเก่าของพี่พิม ที่มักจะมีเรื่องทำร้ายร่างกายกันด้วย เพราะว่าพี่พิมป่วยเป็นโรคไบโพลาร์ สภาพจิตใจของพี่พิม เวลาทะเลาะกับแฟน ก็จะหนัก เมื่อมาเจออีกคนก็ยังไม่สมหวัง คิดว่าพี่สาวคงจะมีสภาพจิตใจย่ำแย่ เพราะพี่สาวเป็นคนค่อนข้างคาดหวังในความรักสูง พี่พิมเป็นคนรักใครแล้วรักมาก ตนเห็นข่าวว่าโดนแทง 20 แผล ความรู้สึกแย่มาก แค่ไม่กี่แผลก็รู้สึกแย่มากแล้ว มันไม่ควรจะมีเหตุการณ์แบบนี้ด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะโมโหแค่ไหนก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ครอบครัวกำลังเตรียมตัวขึ้นไปงานศพ เพราะว่าครอบครัวของตนอยู่ จ.เพชรบูรณ์ เป็นห่วงคุณแม่พี่พิมด้วย เพราะมีลูกสาว 3 คน พี่พิมเป็นคนสุดท้อง เขารักและเป็นห่วงพี่พิมมาก ๆ เจอเหตุการณ์แบบนี้ยิ่งเป็นห่วง สุดท้ายคงอยากบอกพี่พิมว่า "พี่ไม่ต้องเจ็บต้องปวดอะไรอีกแล้วนะ น่าจะเจ็บมาพอแล้ว ขอให้โลกที่พี่กำลังจะไปเจอ เป็นโลกที่มีความสุขมากกว่านี้ ส่วนผู้กระทำขอให้ชดใช้ในส่วนที่ทำ ขอให้เขาได้รับในสิ่งที่ทำทุกอย่าง"
