ล่าแท็กซี่ใจเหี้ยม ชนลุงดับ ซิ่งหนี - ลูกสาวสุดเศร้า ยันดูคลิป 50 รอบ พ่อข้ามอย่างระวัง (คลิป)

กรณีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (23 ก.ย.) ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Airrin KO เผยแพร่ภาพคลิปวิดีโอ ของกล้องหน้ารถคันหนึ่ง เห็นรถแท็กซี่เขียวเหลือง ไม่ทราบป้ายทะเบียน ชนเข้ากับคนข้ามถนน โดยผู้โพสต์ระบุข้อความว่า “ขอความกรุณาช่วยแชร์คลิปเหตุการณ์นี้เพื่อให้ผู้พบเห็นเหตุการณ์อุบัติเหตุรถชนคนที่หน้าตลาดยิ่งเจริญ (สะพานใหม่) ประตู 3 วันที่ 21 ก.ย. 61 เวลา 23.50 น. ไปให้ข้อมูลทะเบียนรถแท็กซี่เขียวเหลือง ที่ชนคนแล้วหนี ตอนนี้ผู้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตแล้ว อยากให้ผู้กระทำความผิดออกมารับผิดชอบ ขอบคุณคลิปจากกล้องหน้ารถของพลเมืองดีที่ให้กับสน.บางเขน มากๆนะคะ จากครอบครัวนายอิทธิพล วงษา” นั้น

วันนี้ 25 ก.ย. 61 ทีมข่าวได้เดินทางมายังวัดราชนิยมธรรม ที่มีพิธีสวดพระอภิธรรมศพ นายอิทธิพล วงษา อายุ 60 ปี เป็นวันที่ 3 โดยมีญาติที่มาร่วมงานท่ามกลางบรรยากาศความโศกเศร้า

น.ส.ณิชานันท์ วงษา อายุ 36 ปี ลูกสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเพิ่งมาทราบข่าวช่วงข้ามวันที่ 22 ก.ย. เวลา 02.00 น. โดยทางโรงพยาบาลโทรศัพท์มาบอกว่าพ่อประสบอุบัติเหตุอาการโคม่า เลือดคั่งในสมอง โดยแพทย์โทรศัพท์มาปรึกษาตนว่าจะให้ผ่าตัดหรือไม่ มีโอกาสรอด 50 : 50 โดย 50% คือเสียชีวิต และอีก 50% คือเป็นเจ้าชายนิทรา ไม่มีโอกาสฟื้น ตนจึงตัดสินใจไม่ผ่าตัด และรีบเดินทางมาดูอาการพ่อที่โรงพยาบาล ก่อนที่ท่านจะสิ้นใจในเวลาประมาณ 03.00 น.

จากนั้นรุ่งเช้า เวลาประมาณ 08.00 น. น้าชายตนไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สน.บางเขน จากนั้นตนก็ไปที่ป้อมตำรวจบริเวณนั้น ซึ่งตำรวจก็ส่งคลิปวิดีโอจากกล้องหน้ารถของพลเมืองให้ แต่มุมที่ได้ยังไม่ค่อยชัดเจน ตนจึงประสานขอกล้องวงจรปิดจากหน่วยงานต่าง ๆ จนได้ภาพจากกล้องวงจรปิดจาก บ.อิตาเลียนไทย ในวันนี้ที่จับภาพเหตุการณ์ได้อย่างชัดเจน น.ส.ณิชานันท์ กล่าวต่อว่า เมื่อได้ภาพตนก็พยายามดูเหตุการณ์กว่า 50 รอบ เพื่อที่จะให้เห็นว่าพ่อของตนประมาทจริงหรือไม่ แต่ก็พบว่าพ่อมองรถแล้วก่อนจะข้ามถนน และข้ามด้วยความระวัดระวัง แต่แท็กซี่ที่มาชนไม่ได้ชะลอรถเลย ราวกับว่าไม่ได้มองถนนอยู่

น.ส.ณิชานันท์ ยืนยันว่า จุดที่พ่อตนข้ามถนนเป็นทางเดินสำหรับคนข้ามถนน โดยในตอนเช้าจะมีพนักงานของบริษัทที่ก่อสร้างรถไฟฟ้ามาโบกรถให้คนข้ามด้วย ซึ่งคนในละแวกนั้นก็ใช้ข้ามถนนมาตลาดอยู่บ่อยครั้ง เพียงแต่ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืนจึงทำให้ไม่มีคนโบกรถให้ เมื่อถามว่าจุดดังกล่าวมีสะพานลอยหรือไม่ น.ส.ณิชานันท์ กล่าวว่าตนไม่แน่ใจว่ารื้อไปแล้วหรือไม่ เพราะไม่ได้สังเกต น.ส.ณิชานันท์ กล่าวต่อว่า พ.ต.อ.อำนาจ อินทรศวร ผกก.สน.บางเขน ก็มาร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมด้วย ได้มาบอกกับทางญาติว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างจริงจัง โดยยืนยันกับทางครอบครัวว่าภายใน 1-2 วัน จะมีความคืบหน้า ทำให้ตนรู้สึกสบายใจขึ้น ทั้งนี้อยากฝากไปถึงคนขับแท็กซี่ว่าให้ออกมาแสดงตัวมารับผิดชอบในสิ่งที่ทำ เพราะภายหลังจากที่ขับรถชน คนขับก็ไม่ลงมาดูผู้บาดเจ็บเลย แต่กลับหลบหนี ซึ่งหากคนขับจะลงมาดูผู้บาดเจ็บบ้างตนก็คงจะไม่เอาเรื่อง แต่กลับหลบหนีไป ไม่สนใจเลยว่าคนเจ็บจะเป็นอย่างไร นอกจากนี้ สำหรับผู้เห็นเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ ตนอยากให้เข้ามาบอกเบาะแสกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน หรือจะทักมาทางเฟซบุ๊กตนก็ได้ เพราะขณะนี้ทั้งทางครอบครัว และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กำลังไล่ดูกล้องวงจรปิดอยู่ แต่ยังขาดเพียงทะเบียนรถแท็กซี่คันดังกล่าว จึงทำให้ยังไม่ทราบตัวคนขับ

ด้านนายศักดิ์ชาย วงษา อายุ 57 ปี น้องชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ทราบข่าวเมื่อวันที่ 22 ก.ย. เวลาประมาณ 00.30 น. โดยภรรยามาเรียกที่บ้านบอกว่าพี่ชายถูกรถชน เมื่อทราบข่าวก็รีบไปที่โรงพยาบาลทันที โดยได้พูดคุยกับแพทย์บอกว่าพี่ชายก้านสมองตายแล้ว และมีเลือดคั่งในสมอง โดยแพทย์บอกเลยว่าคืนนี้ก็ไม่รอด ให้ตัดสินใจว่าจะผ่าตัดหรือไม่ ซึ่งหากผ่าตัดก็ไม่สามารถฟื้นขึ้นมาได้อยู่ดีเพราะก้านสมองตายแล้ว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนคาดว่าพี่ชายอาจจะข้ามไปซื้อบุหรี่ที่ตลาด เพราะพี่ชายเป็นคนสูบบุหรี่ โดยจากคลิปวิดีโอก็เห็นว่าพี่ชายข้ามถนนระมัดระวัง และมีการหยุดรอรถ อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าบริเวณดังกล่าวมีสะพานลอยเช่นกัน ซึ่งบางครั้งพี่ชายก็จะใช้สะพานลอย ส่วนวันที่เกิดเหตุตนก็ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมจึงไปข้ามตรงนั้น อย่างไรก็ตาม ฝากไปถึงคนขับแท็กซี่ว่าให้ออกมาแสดงความรับผิดชอบหน่อย ไม่ใช่หายไปเลยแบบนี้