วันที่ 1 ส.ค. 64 เมื่อเวลา 13.00 น. ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความอาสา พาผู้เสียหายชื่อนายศักดิ์สิทธิ์ คำมูล หรือ แต้ม อายุ 24 ปี, น.ส.สาวิตรี หรือ โม อายุ 18 ปี และ น.ส.เอ อายุ 16 ปี เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.วีระพงศ์ อะภัยวงศ์ รอง สว. (สอบสวน) สภ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ ดาบตำรวจพร้อมพวกรวม 6 คน ในข้อหารีดเอาทรัพย์ กรรโชกทรัพย์ ลักทรัพย์ กักขังหน่วงเหนี่ยว ทำร้ายร่างกาย และความผิดอื่น ๆ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
แฉดาบตำรวจคดีดังตบทรัพย์เด็ก 16 อุ้มกระทืบรีดครึ่งแสน เหยื่อผวาถูกบีบค้ายา
นอกจากนี้ วีรกรรมของดาบตำรวจรายดังกล่าวถูกเปิดเผยขึ้นมาอีก โซเชียลโพสต์คลิปใหม่ ที่นายดาบตำรวจฉุดกระชาก นายสุวรรณ์ รปภ.โรงงานพลาสติก พยายามจะลากชึ้นท้ายรถกระบะ ซึ่งทาง พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ได้ยืนยันกับทีมข่าวแล้วว่าทุกข่าวที่นำเสนอ คือดาบตำรวจคนเดียวกันจริง ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนแล้ว
วันที่ 3 ส.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมายังที่เกิดเหตุ ย่านนิคมอุตสาหกรรมบางพลี ต.บางเพรียง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เป็นซอยตัน มีโรงงานตั้งอยู่หลายโรงงาน นายพีรเดช วรรณสุข อายุ 36 ปี ผู้จัดการโรงงานผลิตชั้นวางของ ตรงข้ามโรงงานทำพลาสติก ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า เหตุการณ์ฉุดกระชาก รปภ. เกิดขึ้นในช่วงเช้าวันที่ 19 ก.ค. ซึ่งเป็นเหตุต่อเนื่องจากมาคืนวันที่ 18 ก.ค.
ในคืนวันที่ 18 ก.ค. เวลาประมาณ 22.00 น. ดาบตำรวจเดินทางมากับพวกอีก 3 คน รวม 4 คน ด้วยกระบะคันที่เป็นข่าวฟันเก๋งและกระบะอีก 1 คัน เมื่อมาถึงดาบตำรวจกับพวกก็ได้บุกเข้าไปยังห้องพักคนงาน บุกรุกพร้อมโวยวายว่ามีคน 3 คนขับรถกระบะขาว ซึ่งจอดอยู่หน้าโรงงานไปดักทำร้ายพวกเขา ตนที่นอนอยู่ในโรงงานเมื่อทราบเหตุจึงรีบออกมา ตนชี้แจงไปว่ารถกระบะสีขาวที่จอดหน้าโรงงานเป็นรถของตน จอดนิ่ง ๆ หน้าโรงงานมา 2 วันแล้ว ไม่มีทางที่ใครจะขับรถออกไปก่อเหตุได้
จากนั้นดาบตำรวจทำท่าคล้ายจะชักปืน คนงานประมาณ 20 คนจึงถือไม้ออกมาล้อมกลุ่มของดาบตำรวจ เพราะพวกตนไม่ทราบได้เลยว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ต้องการอะไรจึงบุกรุกเข้ามายามวิกาล แต่อีกฝ่ายก็ยังพยายามที่จะหยิบปืนออกมาขู่ ตนจึงพยายามห้ามเหตุ โดยบอกว่า "จะยิงก็ยิง มีกระสุนกี่นัด มีคนถือไม้ 20 กว่าคน แลกกันมันไม่คุ้ม" แล้วอีกฝ่ายจึงถอยออกไป
โดยนายดาบได้เข้ามาพูดคุยกับตน ตนจึงขอดูบัตร แต่อีกฝ่ายไม่ยอมให้ดู อ้างว่าเป็นสายสืบภาคจะมาตามจับยาเสพติด ตนจึงเถียงกลับไปว่าทำไมอ้างมั่ว เพราะเมื่อกี้บอกมาตามหาคนดักทำร้ายบอกว่ามาผิดโรงงาน ตนจึงคิดว่าไม่สมควร เนื่องจากอีกฝ่ายบุกรุกเข้าไปส่วนห้องพักคนงาน จากนั้นต่างฝ่ายก็ได้แยกย้ายกันในเวลาประมาณเที่ยงคืน
กระทั่งรุ่งเช้า 19 ก.ค. เวลาประมาณ 08.00 น. ตนจึงได้เดินทางไปแจ้งความไว้ เมื่อตนเดินทางกลับมายังโรงงาน ในเวลาประมาณ 10.00 น. ตนก็ได้ยินเสียงนายสุวรรณ รปภ.โรงงานพลาสติก เยื้องกับโรงงานของตน ตะโกนส่งเสียงร้อง เกาะรั้วโรงงานบอกว่า "เขาจะเอาผมไปฆ่า มันเอาปืนจ่อผม"
เมื่อออกมาดูเหตุ จึงพบดาบคนเดิมในเสื้อผ้าชุดเดียวกันกับเมื่อคืน กำลังฉุดยื้อกับนายสุวรรณ รปภ.โรงงานพลาสติก อีกทั้งยังมีการทำร้ายร่างกาย เตะ กระทืบ ตนจึงข้าไปเจรจา เข้าไปขอดูบัตรตำรวจ คราวนี้เขาได้หยิบบัตรออกมาให้ดูแบบเร็ว ๆ อ้างว่าเป็นตำรวจที่จ.ปทุมธานี ซึ่งตนมองไม่ทัน ตนรู้สึกตะขิดตะขวงใจ เพราะเขาอ้างว่าเป็นตำรวจคนละพื้นที่กับเมื่อคืน ตนจึงถามว่าอีกฝ่ายได้ประสานงานกับตำรวจในท้องที่หรือยัง ตนโทรหาตำรวจ สภ.คลองด่าน เพื่อให้เข้ามาระงับเหตุ ระหว่างรอเจัาหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองด่าน ตนจึงได้ให้คนงานช่วยทำแผลให้กับนายสุวรรณ รปภ.โรงงานพลาสติก ซึ่งมีรอยช้ำตามร่างกาย และส้นเท้าเปิดเป็นแผลจากการถูกลาก
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองด่านมาถึง นายสุวรรณจึงถูกพาตัวไปสถานีตำรวจ ส่วนดาบตำรวจก็เดินทางตามไปเช่นกัน จากนั้นในช่วงเย็น นายสุวรรณ รปภ. ก็ได้ติดต่อมาบอกตนว่าคุยกับตำรวจเสร็จแล้ว ยืนยันว่าเป็นตำรวจจริง ซึ่งตามจับยาเสพติดหาข้อมูลจากเขา ทั้งนี้ ตนคิดว่าการกระทำของนายดาบเกินเหตุไปมาก ไม่เกรงใจสายตาประชาชน หตุการณ์ฉุด รปภ. ก็มีคนเห็นไม่ต่ำกว่า 80 คน
ตนได้ติดตามข่าวจึงทราบว่ารถกระบะของดาบตำรวจที่ขับมาที่โรงงานของตนกับโรงงานของ รปภ. คือคันที่เป็นข่าวดาบฟันเก๋งในวันที่ 29 ก.ค. 64 จากเหตุการณ์นี้ทำให้ตนไม่รู้เลยว่าโจรกับตำรวจอะไรน่ากลัวกว่ากัน การกระทำแบบนี้ไม่สมกับการเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
จบง่ายไปมั้ย? นายดาบพาลูกน้องฟันเก๋งฉุนชนป้ายแดง มือมีดรับกลัวปืนเคลียร์ได้เพราะซี้กัน
สำหรับ นายสุวรรณ รปภ.โรงงานพลาสติก ได้เข้าแจ้งความเอาผิดแล้วที่ สภ.คลองด่าน เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ในวันพรุ่งนี้ นายสุวรรณ พร้อม ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความอาสา จะเดินทางไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ที่ สภ.คลองด่าน เวลา 10.00 น.
นายศิรสิทธิ์ รัสสุ อายุ 23 ปี พนักงาน และนายแดน อายุ 28 ปี พนักงานชาวกัมพูชา คนที่พูดคุยตอบโต้กับ ด.ต.อดิศร ขณะที่อีกฝ่ายบุกรุกเข้ามาให้ส่วนห้องพักคนงาน เล่าว่า ในเวลา 22.00 น. คนงานทุกคนได้กลับเข้าที่พักหมดแล้ว จู่ ๆ สุนัขก็เห่าเสียงดังแล้วด.ต.อดิศร ก็เดินเข้ามาภายในส่วนห้องพักคนงาน พูดว่า "3 คนที่ทุบรถไปไหน" พวกตนก็รู้สึกงง เพราะพวกตนไม่เข้าใจที่อีกฝ่ายพูด
จากนั้นพวกตนจึงได้ไปตามผู้จัดการโรงงานมาดูเหตุ ซึ่งระหว่างนั้น ด.ต.อดิศร ยังพูดขึ้นว่า "ใครจะทุบรถกู แน่จริงไปทุบเลย" ยิ่งสร้างความมึนงงให้กับคนงานเป็นอย่างมาก เหตุการณ์เริ่มยืดเยื้อ ทำให้พนักงานหลายคนหาไม้มาถือเพื่อป้องกันตัว พวกตนรู้สึกตกใจ เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าอีกฝ่ายจะเป็นตำรวจ เพราะเอาแต่พูดว่า "กูจะจับพวกมึงให้หมดเลย" แบบไม่มีเหตุผล
พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ ยืนยันว่า ดาบตำรวจที่กลุ่มผู้เสียหายพูดถึง รวมถึงคลิปที่มีเหตุกับ รปภ. คือ ด.ต.อดิศร ทุมมาโต ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สภ.บางปู ขณะนี้ได้ตั้งกรรมการสอบสวนหาข้อเท็จจริงแล้ว ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย หากมีความผิดจริง โทษสูงสุดคือให้ออกจากราชการ สำหรับเหตุกับ รปภ. ดาบตำรวจอ้างว่า รปภ. ติดเงินจำนวน 7,000 บาท แต่ไม่ยอมคืน หลังจากเกิดเหตุ ดาบตำรวจอ้างว่า รปภ.ไม่ขอเอาเรื่อง แต่ขณะนี้มีคลิปถูกเผยแพร่ออกมา
ยืนยันว่าขณะนี้ ด.ต.อดิศร ทุมมาโต ผู้บังคับหมู่ป้องกันปราบปราม สภ.บางปู ถูกกักตัว เนื่องจากนายชาคริต ชัยมงคล หรือ คิม อายุ 38 ปี ผู้ปรากฏในข่าวดาบฟันเก๋ง ติดเชื้อโควิด-19 อีกทั้งเมื่อตรวจสอบประวัติแล้ว นายชาคริตยังเป็นผู้ต้องหาเกี่ยวกับการจราจร เนื่องจากไม่ไปตามวันเวลาที่ศาลนัด คณะกรรมการสอบสวนจะต้องสอบสวนด้วยว่าดาบตำรวจและนายชาคริตรู้จักกันและมีความสัมพันธ์กันอย่างไร
