ป่วยไม่ได้ทำงานไร้เงินจ่ายค่าห้อง หนุ่มอินเดียเครียดระแวงติดโควิด ราดน้ำมันจุดไฟเผาตัวเองดับ (คลิป)

กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งว่ามีเหตุไฟไหม้ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 4 ซอยชำนิ ถนนพุทธรักษา ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัยในพื้นที่ จึงรุดเข้าตรวจสอบ ก่อนจะพบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณชั้น 2 ของอาคาร ภายในห้องหมายเลข 5201 พบผู้บาดเจ็บทราบชื่อนายธีรุวดี อายุ 32 ปี ชาวอินเดีย สภาพถูกไฟเผาทั่วร่างดำไหม้ นอนอยู่บนที่นอนอาการสาหัส

ขณะที่ภายในห้องยังได้กลิ่นน้ำมันเบนซินคลุ้งทั่วห้อง มีถังแกลอนพลาสติกถูกไฟเผายังไม่หมดบนที่นอน พบไฟแช็กสีฟ้าตกอยู่ข้างที่นอน กระจกหน้าต่างแตกกระจายเกลื่อน โดยที่เจ้าหน้าที่กู้ชีพเร่งปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนรีบนำส่งรักษาที่ รพ.สมุทรปราการ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา

ล่าสุดวันที่ 3 ส.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พบเป็นอาคารอะพาร์ตเมนต์ 5 ชั้น มีห้องพัก จำนวน 110 ห้อง โดยจุดเกิดเหตุอยู่ชั้น 2 ขณะที่ทีมข่าวเดินทางไปถึง มีเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่จำนวน 3 นาย เพื่อเข้าเก็บข้อมูลและหลักฐานเพิ่มเติม

ทั้งนี้ บริเวณภายในห้อง ยังคงสภาพเหมือนเดิม ไม่ได้มีการเคลื่อนย้ายสิ่งของออกไปแต่อย่างใด ทีมข่าวสังเกตว่าภายในห้องจะมีโซฟา ทีวี และเข้าของเครื่องใช้อยู่ แต่อยู่ในสภาพเสียหาย และมีเขม่าควันปกคลุมอยู่ ตลอดจนบริเวณทางเดินของอะพาร์ตเมนต์ ก็มีคราบสีดำที่เกิดจากเขม่าควันด้วย

คุณวิภารัตน์ เจริญศรี อายุ 19 ปี กล่าวว่า ตนพักอาศัยอยู่บริเวณชั้น 4 ของตึก ช่วงเวลาประมาณ 22.40 น. ได้ยินเสียงกระจกเเตก ตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร นึกว่าคนภายในตึกทะเลาะกัน ต่อมาช่วงเวลา 22.45 น. ก็มีคนภายในตึกตะโกน แล้วมาเคาะห้องของตนเพื่อแจ้งว่าไฟไหม้ ๆ 

เมื่อตนเปิดประตูออกมา กลับพบว่าเขม่าควันฟุ้งกระจายทั่วทางเดินนของตึก จึงตัดสินใจวิ่งออกทางหนีไฟ และลงไปรวมตัวกันที่ชั้น 1 โดยที่ลูกบ้านทุกคนปลอดภัยดี ตนยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังทราบเรื่องว่ามีคนฆ่าตัวตาย

โดยที่ผ่านมา ตนก็เคยเห็นผู้ตายมาก่อน แต่ไม่ถึงขั้นรู้จักชื่อ รู้แค่ว่าเขาพักอยู่บริเวณชั้น 2 ตนจะเจอเขาก่อนไปทำงานกับหลังเลิกงาน ช่วงเวลา 02.00 น. เป็นประจำ โดยที่ผ่านมาตนจะเห็นเขานั่งคุยโทรศัพท์บริเวณหน้าห้องพักเป็นประจำ บางวันเขาก็จะชอบเปิดเพลง ลักษณะนิสัยของเขาก็เป็นคนค่อนข้างใจดี พูดไทยได้ด้วย 

แต่ในช่วง 2-3 วันก่อนเกิดเหตุ ตนพบความผิดปกติ เพราะหลังจากที่ตนกลับมาจากที่ทำงาน ก็ไม่ค่อยเห็นเขาออกมายืนคุยโทรศัพท์เหมือนเช่นทุกวัน รวมไปถึงภายในห้องพักของเขาก็ปิดเงียบผิดปกติ ไม่มีเสียงเพลงหรือเสียงโทรทัศน์แต่อย่างใด ก่อนที่ตนจะมาทราบว่าเขาได้เสียชีวิต ตนก็แอบตกใจและรู้สึกเศร้า เพราะไม่คิดว่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย

คุณธัญญาทิพย์ หนันดี อายุ 27 ปี ผู้ดูแลอะพาร์ตเมนต์ดังกล่าว เล่าให้ฟังว่า ส่วนตัวเพิ่งทราบข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หลังจากที่เจ้าของอะพาร์ตเมนต์ ได้แจ้งให้ทราบ ซึ่งในส่วนนี้ทางอะพาร์ตเมนต์เองอยากชี้แจ้งว่าจริง ๆ แล้วทางผู้ตายได้ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ไม่ใช่เสียชีวิตที่จุดเกิดเหตุ เพราะหลังจากที่เป็นข่าวไป ทำให้ลูกบ้านต่างหวาดกลัวและตกใจถึงขั้นจะย้ายออกในทันที 

ทั้งนี้ ตนรู้จักกับผู้ตาย แต่ไม่ได้สนิท จะพูดคุยกันเฉพาะทางแอปพลิเคชั่นไลน์ หรือทักทายกันตามปกติเวลาเจอหน้า เพราะจะต้องประสานงานเกี่ยวกับกรณีที่คนอินเดียจะมาเข้าพัก เพราะเขาเองพูดไทยได้ จึงทำหน้าที่เป็นล่ามช่วยแปลให้ ในส่วนอุปนิสัยเป็นคนอัธยาศัยดี มีน้ำใจ คอยช่วยเหลือผู้อื่น ยิ่งเป็นคนอินเดียด้วยกัน เขาจะคอยทำหน้าที่เป็นผู้ประสานเรื่องให้ทั้งหมด 

ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ตนสังเกตเห็นถึงความผิดปกติ ในช่วงวันที่ 7 ก.ค.64 ซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนดการจ่ายค่าห้อง เดือนละ 4,200 บาท ตนได้ทักหาผู้ตาย กระทั่งวันที่ 11 ก.ค.64 ผู้ตายขอเจรจาเลื่อนการจ่ายค่าห้องออกไปเป็นช่วงสิ้นเดือนก.ค.64 ซึ่งตนก็ได้แจ้งทางเจ้าของอะพาร์ตเมนต์ ก็จะอนุโลมให้ ต่อมาเขาก็ได้บอกเหตุผลถึงการเลื่อนจ่ายว่า กำลังป่วย มีอาการลำไส้อักเสบ ไม่ได้ไปทำงานมาตั้งแต่ต้นเดือน จึงยังไม่มีเงินมาจ่ายค่าห้อง 

หลังจากนั้น เขาก็ได้บอกว่าได้ไปตรวจหาเชื้อโควิด-19 แล้วเมื่อต้นเดือนก.ค.64 ซึ่งยังไม่พบเชื้อ ส่วนสาเหตุที่ต้องไปตรวจนั้น เพราะป่วยเกี่ยวกับลำไส้อักเสบ และประกอบกับเพื่อนที่ทำงานของเขาเอง ก็พบว่าติดเชื้อโควิด-19 ส่วนตัวค่อนข้างเชื่อว่าไม่น่าจะติดเชื้อโควิด-19 เพราะหากติดจริงทางโรงงานต้นสังกัดของเขา ก็จะต้องติดต่อหรือเเจ้งมาที่อะพาร์ตเมนต์ แต่ขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีการแจ้งแต่อย่างใด 

"ส่วนญาติ ๆ ตอนนี้ทางอะพาร์ตเมนต์ ไม่สามารถติดต่อได้ เพื่อนชาวอินเดียก็ไม่สามารถติดต่อได้เช่นกัน ส่วนความเสียหายของห้องพัก ตอนนี้ยังไม่ได้เข้าไปประเมิน รอเจ้าหน้าที่ตำรวจเคลียร์พื้นที่ก่อน ถึงจะเข้าไปประเมินได้" ผู้ดูแลอะพาร์ตเมนต์ กล่าวทิ้งท้าย