นักโทษคิดถึงลูกเมีย ใจเด็ดกลืนแปรงสีฟันลงท้อง ก่อนฉวยโอกาสหลบหนีตอนรักษาตัวใน รพ.

3 ส.ค. 64

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครนายก รวบนักโทษชายหลังตัดสินใจกระโดดตึกโรงพยาบาล จนได้รับบาดเจ็บ กลั้นใจวิ่งข้ามข้ามถนนชิงรถจักรยานยนต์หลบหนี เหตุเพราะคิดถึงลูกวัย 5 เดือนและเมีย เผยใจเด็ดหักแปรงสีฟันกลืนลงท้องเพื่อฉวยโอกาสหลบหนีตอนเข้าโรงพยาบาล

พ.ต.อ.ทะนงศักดิ์ คำมาตย์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครนายก พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครนายก นำกำลังเข้าจับกุมนักโทษชายกิตติพงษ์ เพิ่มสุข อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืน หลังถูกศาลตัดสิน จำคุก 5 ปี 5 เดือน และได้ถูกคุมขังที่เรือนจำจังหวัดนครนายก โดยนักโทษชายกิตติพงษ์ ได้ทำการกลืนแปรงสีฟันเข้าไปและทางเจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดนครนายกได้นำตัวมาส่งโรงพยาบาลนครนายก เพื่อทำการนำแปรงสีฟันออกจากกระเพาะอาหาร ซึ่งระหว่างรอการผ่าตัดนั้น นักโทษชายกิตติพงษ์ได้ตัดสินใจกระโดดตึกโรงพยาบาลนครนายกลงมาด้านล่าง ทำให้ร่างกระแทกกับพื้นกระอักเลือดเปื้อนชุดผู้ป่วย ก่อนกลั้นใจวิ่งออกจากโรงพยาบาลข้ามถนนไปชิงรถหลบหนี จนกระทั่งรถน้ำมันหมดที่ริมถนน หมู่ 5 ตำลบลท่าทราย อำเภอเมืองนครนายก และวิ่งเข้าไปหลบซ่อนตัวภายในสวนผลไม้

1627978004275

เวลาผ่านไปประมาณ 2 ชั่วโมงเศษ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครนายก ได้พบตัวนักโทษชายกิตติพงษ์ สภาพนอนหมอบอยู่ในร่องสวน ที่อยู่ห่างจากถนนประมาณ 500 เมตร ในสภาพอิดโรยจากอาการบาดเจ็บที่กระโดดลงมาจากตึกผู้ป่วย มีเลือดเปื้อนตามร่างกาย ใบหน้า และเสื้อผู้ป่วย

จากการสอบถามนายกิตติพงษ์ ได้บอกว่า ตนรู้สึกเครียดอยากกลับบ้าน เพราะคิดถึงลูกวัย 5 เดือน และเมีย ซึ่งระหว่างถูกคุมขังได้กลืนแปรงสีฟัน และระหว่างการรักษาตัววันนี้ได้ตัดสินใจกระโดดตึกผู้ป่วยลงมาร่างกระแทกกับพื้นทำให้ช้ำในเลือดไหล ซึ่งตนเป็นผู้ต้องหาคดีอาวุธปืน ถูกศาลตัดสินจำคุก5ปี 5 เดือน และเพิ่งเข้ารับโทษได้เพียง 5 เดือนเท่านั้น

1627978125860

ด้าน ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองนครนายก ได้บอกว่า ตอนเช้าได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ามีคนร้ายลักษณะสวมชุดผู้ป่วย ชิงรถจักรยานยนต์หน้าโรงพยาบาลนครนายก โดยหลบหนีมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองนครนายก จากนั้นตนและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ พร้อมอาสา ได้เร่งติดตามผู้ต้องหามายังจุดที่มีชาวบ้านพบคนสุดท้าย จากนั้นได้ทำการนำกำลังปิดล้อมพื้นที่ เนื่องจากพื้นที่เป็นป่ารกทำให้ยากในการค้นหา จึงได้แบ่งโซน และทำการกระชับพื้นที่

จนกระทั่ง พ.ต.อ.กล้าหาญ โชคพิพัฒน์ไพบูลย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก ได้โทรติดต่อตนมาพร้อมมอบเบอร์โทรศัพท์ของนักโทษชายให้ตนโทรหา จากนั้นได้ทำการโทรหานักโทษชายกิตติพงษ์ โดยนักโทษชายกิตติพงษ์ได้ยอมมอบตัวเนื่องจากได้รับบาดเจ็บจากช่องท้อง เกรงจะได้รับอันตรายจึงยอมที่จะมอบตัว โดยหลังจากนี้จะทำการตรวจสอบสาเหตุจูงใจการก่อเหตุในครั้งนี้จากนักโทษชายกิตติพงษ์ ซึ่งต้องรอให้เข้ารับการรักษาตัวก่อน

1627978031014

สำหรับวิธีการหลบหนีของคนร้ายเบื้องต้นได้กลืนแปรงสีฟันเข้าไปในช่องท้องเมื่อวานในเรือนจำนครนายก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่รู้เพราะมีอาการปวดท้องจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล นครนายก ก่อนที่จะฉวยโอกาสช่วงช่วงมืดแอบหนีออกมาด้วยการกระโดดลงมาจากตึก จากนั้นวิ่งข้ามถนนและมาจี้รถจักรยานยนต์หลบหนีมุ่งหน้าสี่แยกสามสาวตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนครนายกและเกิดน้ำมันหมดช่วงบริเวณวัดคาทอลิกหมู่ที่ 5 ตำบลท่าทราย และนำรถไปจอดไว้หน้าบ้านชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ค้นภายในรถจักรยานยนต์ที่ชิงมาแล้วพบโทรศัพท์มือถือของเจ้าของรถยามาฮ่าฟีโน่จึงใช้โทรติดต่อเมีย

1627978091471

จากนั้นนายกิตติพงษ์ ยืนโบกรถข้างทางริมถนนท่าทราย จนกระทั่งไปเจอ น.ส.ชูชื่น ที่ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาก็ได้กระโดดขึ้นรถและขอให้ไปส่งที่อำเภอองครักษ์ แต่ น.ส.ชูชื่นบอกว่าจะต้องไปทำงานจึงขอให้ไปซื้อน้ำมันให้ น.ส.ชูชื่นจึงแกล้งว่าจะไปซื้อน้ำมันให้และบอกให้ยืนรอตรงนี้ จากนั้นได้แอบไปโทรศัพท์หาตำรวจ พอมาถึงก็ไม่พบตัว ตำรวจใช้เวลาค้นหาพื้นที่โดยรอบประมาณ 2 ชั่วโมงและใช้โดนบินสำรวจเนื่องจากพื้นที่มีน้ำล้อมรอบ พร้อมนำกำลังตำรวจกว่า 50 นายพร้อมเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ทำการปิดล้อมจากนั้น จากนั้นผู้กำกับได้โทรศัพท์เข้าไปที่เบอร์ที่นักโทษชายถืออยู่พร้อมกับบอกให้มอบตัว นักโทษชายจึงยอมมอบตัวและบอกว่าอยู่ในอาการบาดเจ็บ ทางตำรวจจึงนำกำลังเข้าควบคุมตัวไว้ได้โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงจากนั้นได้นำตัวคนร้ายส่งโรงพยาบาลนครนายกเพื่อทำการรักษา พร้อมทั้งขอบคุณทุกหน่วยงาน รวมถึงอาสากู้ภัยและชาวบ้าน ที่ช่วยกันแจ้งเบาะแสและค้นหานักโทษชายได้ในครั้งนี้

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ